คู่มือการใช้หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ วิชาฟิสิกส์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

การวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ 1. ความต้านทานของตัวนำ�โลหะที่อุณหภูมิคงตัว ขึ้นอยู่กับชนิด พื้นที่หน้าตัดและความยาว 2. เมื่ออุณหภูมิของตัวนำ�คงตัวอัตราส่วนระหว่าง ความต่างศักย์และกระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวนำ� จะมีค่าคงตัว 3. เมื่อนำ�ตัวต้านทานมาต่อกันแบบอนุกรมและ แบบขนาน ทำ�ให้มีความต้านทานสมมูลที่มี ค่าแตกต่างกัน ด้านทักษะ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การใช้จำ�นวน (คำ�นวณปริมาณต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้องกับกฎของโอห์ม ความต้านทาน และความต้านสมมูลเมื่อนำ�ตัวต้านทานต่อ แบบอนุกรมและแบบขนาน) ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1. การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ (มีการอ้างอิงแหล่งที่มาและการเปรียบ เทียบความถูกต้องของข้อมูลจากแหล่ง ข้อมูลที่หลากหลายได้อย่างสมเหตุสมผล การอภิปรายร่วมกันและการนำ�เสนอผล) 2. ความร่วมมือ การทำ�งานเป็นทีมและภาวะผู้นำ� 1. นำ�เข้าสู่บทเรียน โดยให้ความรู้เกี่ยวกับตัวนำ�โลหะมีความต้านทานและ อภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับปริมาณต่างๆ ที่มีผลต่อความต้านทานของตัวนำ� โลหะ เช่น ความยาว พื้นที่หน้าตัดของลวดตัวนำ� สภาพต้านทาน สภาพนำ�ไฟฟ้า และความนำ�ไฟฟ้า จนสรุปได้ความสัมพันธ์ตามสมการ 2. ให้ความรู้เกี่ยวกับกฎของโอห์ม เมื่ออุณหภูมิคงตัวกระแสไฟฟ้าที่ผ่าน ตัวต้านทานจะมีค่าแปรผันตรงกับความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างปลาย ทั้งสอง อภิปรายร่วมกัน จนสรุปได้ความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย์ กับกระแสไฟฟ้าตามสมการ เรียกสมการนี้ว่า กฎของโอห์ม 3. ให้ความรู้เกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย จะใช้ตัวต้านทาน เพื่อควบคุม กระแสไฟฟ้า และอภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับการนำ�ตัวต้านทานมาต่อ แบบอนุกรมและแบบขนานทำ�ให้ความต้านทานสมมูลมีค่าแตกต่างกัน จนสรุปได้ว่าในการต่อตัวต้านทานแบบอนุกรมจะมีความต้านทานสมมูล ตามสมการ ด้านความรู้ 1. ปัจจัยที่มีผลต่อความต้านทานของตัวนำ�เมื่ออุณหภูมิ คงที่ และกฎของโอห์ม จากการอภิปรายร่วมกัน 2. ความต้านทานสมมูลในวงจรแบบอนุกรม และ แบบขนานจากการอภิปรายร่วมกัน 3. ประโยชน์ของการต่อตัวต้านทานแบบอนุกรม และ แบบขนาน ในชีวิตประจำ�วัน จากการอภิปรายร่วมกัน ด้านทักษะ 1. การใช้เทคโนโลยีสารนเทศ และการสื่อสารสารสนเทศ และการรู้เท่าทันสื่อ จากการอภิปรายร่วมกันและ การนำ�เสนอผล 2. การใช้จำ�นวน ในการหาปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ กฎของโอห์ม ความต้านทาน และความต้านสมมูล เมื่อนำ�ตัวต้านทานต่อแบบอนุกรมและแบบขนาน จากแบบฝึกหัดและแบบทดสอบ 3. ความร่วมมือ การทำ�งานเป็นทีมและภาวะผู้นำ� จากการอภิปรายร่วมกัน ด้านจิตวิทยาศาสตร์ ความอยากรู้อยากเห็น และความรอบคอบ จากการ เขียนรายงาน ผลการเรียนรู้ 8. อธิบายกฎของโอห์ม ความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานกับความยาว พื้นที่หน้าตัด และสภาพต้านทานของตัวนำ�โลหะที่อุณหภูมิคงตัว และคำ�นวณปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง อธิบายและคำ�นวณความต้านทานสมมูลเมื่อนำ�ตัวต้านทานมาต่อกันแบบอนุกรมและแบบขนาน 1 2 3 ... C C C C    1 2 3 ... C C C C     t Q I  d I n e v A  ความต้านทาน l R A   สภาพนําไฟฟ้า   1  ความนําไฟฟ้า R G 1  V R I       1 1 2 3 R R R R      1 2 3 1 1 1 1 R R R R      1 2 3 C C C C 1 2 3 ... C C C C     t Q I  d I n e v A  ความต้านทาน l R A   สภาพนําไฟฟ้า   1  ความนําไฟฟ้า R G 1  V R I       1 1 2 3 R R R R      1 2 3 1 1 1 1 R R R R      1 2 U QV  1 2 3 1 1 1 1 ... C C C C    1 2 3 ... C C C C     t Q I  d I n e v A  ความต้านทาน l R A   สภาพนําไฟฟ้า   1  ความนําไฟฟ้า R G 1  V R I       1 1 2 3 R R R R      1 2 3 1 1 1 1 R R R R      1 2 W QV  1 2 U QV  1 2 3 1 1 1 1 ... C C C C    1 2 3 ... C C C C     t Q I  d I n e v A  ควา ต้านทาน l R A   สภาพนําไฟฟ้า   1  ความนําไฟฟ้า R G 1  V R I       1 1 2 3 R R R R      1 1 1 1      ความต้า าน สภาพนำ�้ า ความนำ�ไ้ า 160