ลักษณะผู้ชายโรคจิต สังเกตุอย่างไร?
ลักษณะผู้ชายโรคจิต สังเกตุอย่างไร?
อาจฟังดูคล้ายฉากหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญ แต่ถึงเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า นางเอกจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของคนโรคจิตได้ตลอดเวลาถ้าไม่รู้จักสังเกตให้ดี
ภาพการออกเดท
ที่มา https://pixabay.com/Free-Photos
ในขณะที่เราเชื่อมโยงผู้มีปัญหาทางจิตเข้ากับคดีอาชญากรรม และกล่าวว่าพวกเขาเหล่านั้นคืออาชญากรที่น่ากลัว ทั้งฆาตกรต่อเนื่อง ข่มขืน หรือแม้กระทั่งผู้ที่หลงไหลการมีเพศสัมพันธ์กับศพ (Necrophile) แต่เช่นนั้นผู้ที่มีอาการทางจิตส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตเป็นอาชญากรที่แตกต่างไปจากมนุษย์ทั่วไปในสังคม ดังนั้นเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังออกเดทกับผู้ชายโรคจิตอยู่
แม้ว่าความผิดปกติทางบุคลิกภาพประเภทนี้จะได้รับการพิสูจน์จากการศึกษาวิจัยมาเป็นอย่างดี แต่ก็ยังคงมีข้อโต้เถียงกันถึงการวินิจฉัย อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยอมรับว่า ความผิดปกติทางจิต (psychopathy) เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมต่อต้านสังคมอย่างรุนแรง ทักษะการเข้าใจผู้อื่นและความสำนึกผิดบกพร่อง บ้าเลือด ใจแคบ หุนหันพลันแล่น รวมทั้งลักษณะที่พูดถึงแต่ตัวเองจนเกินไป อย่างไรก็ดี ผู้ที่มีปัญหาทางจิตก็ยังมีลักษณะเชิงบวกบางประการ เช่น การใส่ใจรายละเอียด อ่านใจผู้คนได้ดี และร่วมสนทนากับผู้อื่นได้ง่าย แต่ถึงเราจะทราบลักษณะทั้งด้านบวกและลบของผู้ที่มีอาการทางจิต การวินิจฉัยที่แม่นยำก็ยังคงเป็นความสามารถของจิตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
ปัญหาโรแมนติก
ลักษณะแรกที่อาจปรากฏให้เห็นได้ชัดเจนในผู้มีปัญหาทางจิตเมื่อได้พูดคุยขณะที่ออกเดทด้วยกันก็คือ การโกหกตัวเอง (pathological lying) ผู้ที่มีอาการทางจิตมีแนวโน้มที่จะสร้างเรื่องหลอกลวงคู่เดทของเขา และจะพยายามโกหกเรื่องต่าง ๆ ภายใต้สถานการณ์หนึ่ง ๆ เพื่อปกปิดพฤติกรรมและเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมาย และน่าเสียดายที่เป็นเรื่องยากที่จะจับโกหกคนที่มีอาการทางจิตได้ เนื่องด้วยพวกเขามักจะวางแผนเรื่องหลอกลวงมาอย่างดีเยี่ยม ทั้งนี้พวกเขามักจะมีเสน่ห์ที่อาจทำให้คู่เดทของพวกเขาหลงใหลได้แม้เพียงการทำความรู้จักหรือพูดคุยกันครั้งแรก
นอกจากนี้การรับรู้คุณค่าในตัวเองของพวกเขาจะสูงมาก แม้ว่าคู่เดทจะเป็นมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จหรือมีความมั่นใจในตัวเองสูง ก็มีแนวโน้มที่จะรู้สึกไร้ค่าเมื่อถูกเปรียบเทียบได้ หรือหากคุณไม่ได้มีความมั่นใจในตัวเองเลย คู่เดทที่ไม่ปกติทางจิตก็อาจทำลายความนับถือตนเองเพื่อให้สามารถควบคุมคุณได้มากขึ้น
การวิจัยหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตมักใช้เทคนิคที่เรียกว่า gas lighting ค่อยๆ ทำลายความเชื่อมั่นของเหยื่อ และความรู้สึกที่เป็นจริงโดยการทำให้เกิดความสับสน เข้าใจผิด หลอกลวงและชักชวนให้เหยื่อเกิดความสงสัยในตนเองอย่างที่สุด เหตุผลที่ผู้มีปัญหาทางจิตรับมือกับความสัมพันธ์ได้ดี นั่นเป็นเพราะพวกเขามักจะศึกษาพฤติกรรมของผู้คนและใช้ข้อมูลอย่างชำนาญในการควบคุมพฤติกรรมเหล่านั้น หากคุณกำลังศึกษาดูใจกับผู้ที่มีความผิดปกติทางจิต และพยายามปรับให้พวกเขามีความเหมาะสมมากขึ้น พวกเขามักจะแสดงความไม่พอใจ ผิดหวัง โกรธ หรือพูดซ้ำๆ และแน่นอนว่าแววตาใสแจ๋วเป็นลูกสุนัขตัวเล็กๆ จะเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะทำให้เกิดความเห็นใจ และยอมมอบสิ่งที่พวกเขาปรารถนาให้
การขาดความสำนึกผิดเป็นเรื่องที่จัดการได้ยาก และไม่ควรคาดหวังที่จะพยายามเปลี่ยนได้ในคนที่มีความผิดปกติทางจิต ทั้งนี้งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า สมองของผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตมีความแตกต่างไป โดยการศึกษาการสแกนสมองของผู้ที่มีอาการทางจิตในคุกแสดงให้เห็นว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะโกง และไม่ได้รู้สึกแย่กับสิ่งเหล่านั้น ซึ่งสิ่งนี้เองสัมพันธ์กับการลดลงกิจกรรมของสมองส่วน anterior cingulate cortex ที่คาดว่ามีบทบาทในด้านศีลธรรม การควบคุมแรงกระตุ้นและอารมณ์ต่าง ๆ
นอกจากนี้การศึกษาอื่น ๆ ยังพบว่า ผู้ที่มีอาการทางจิตมีโครงสร้างและการทำงานที่แตกต่างกันในหลาย ๆ พื้นที่ของสมอง รวมถึงสมองส่วน prefrontal cortex ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาบุคลิกภาพและการวางแผน โดยจะเห็นได้ชัดจากความเหนื่อยล้าของคู่เดททางจิตที่พยายามสร้างความสัมพันธ์กับผู้ที่มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น อย่างไรก็ตาม บางการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่มีปัญหาทางจิตสามารถเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้ทั้งในระดับของการใช้เหตุผลและอารมณ์ แต่เลือกที่จะเพิกเฉยต่อความรู้สึกเหล่านั้นราวกับพวกเขามีสวิตช์ปิดอารมณ์ของตัวเองได้
นอกจากนี้การขาดการควบคุมตนเองของคู่เดทโรคจิตอาจสร้างปัญหาให้กับคู่ของเขาได้ เช่น การหยาบคายกับเพื่อนร่วมงานของคู่เดทหรือทำให้คู่เดทของพวกเขาอับอายในงานเลี้ยงสังสรรค์ นอกจากนี้พวกโรคจิตมักจะแสดงพฤติกรรมต่อต้านสังคมและหลงตัวเอง ซึ่งลักษณะดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับความไม่ซื่อสัตย์หรือการนอกใจ
อย่างไรก็ตามมีลักษณะหลายประการที่ผู้ชายและผู้หญิงที่ดูเหมือนจะต้องพยายายามอย่างหนักเมื่ออยู่กับคู่เดทที่มีปัญหาทางจิตของพวก โดยผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะไม่พอใจพฤติกรรมของคู่ของพวกเขาและค่อย ๆ ยุติความสัมพันธ์ ในขณะที่ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะรู้สึกกลัวมากขึ้นจากการถูกปฏิเสธเนื่องจากพฤติกรรมหุนหันพลันแล่นของคู่เดท
การรับมือกับการปฏิเสธ
ผู้คนมักค้นพบจุดเปลี่ยนที่ปลดล๊อคความสัมพันธ์ที่โรแมนติกกับคู่รักโรคจิตของตัวเอง และอาจพบว่า พวกเขารู้สึกเศร้าใจจริงๆ แต่ถึงเช่นนั้นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า นั่นอาจเป็นเพราะพวกเขาเสียใจที่ไม่สามารถเป็นผู้ควบคุมได้อีกต่อไป และหากคุณเป็นฝ่ายทิ้งคู่รักโรคจิตก่อน และพยายามกลับไปคืนดี คุณจะไม่สามารถกลับไปคบกับพวกเขาได้ ด้วยลักษณะของการขาดการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น พวกเขาเหล่านั้นจะไม่รับผิดชอบต่อความผิดพลาดในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น และพวกเขายังจะตำหนิผลที่เกิดขึ้นกับคุณหรือคนอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งทัศนคตินี้มาจากความเชื่อของพวกเขาที่ว่า หากคุณรู้สึกเจ็บ นั่นเป็นความรับผิดชอบและเป็นปัญหาของคุณ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ คุณปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเองก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง
อย่างไรก็ตามหากคู่รักคนต่อไปของพวกเขาไม่ท้าทาย ไม่น่าสนใจและไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่พวกเขาหวังไว้ พวกเขาอาจกลับมาหาคุณพร้อมกับคำขอโทษที่หลอกลวง นั่นเป็นเพราะพวกเขาจะใช้ชีวิตเป็นกาฝากที่อาศัยคนอื่นเติบโต นัยหนึ่งคือพวกเขาต้องการมีเพื่อน ทรัพยากร หรือแม้แต่ฐานะทางการเงินของคุณ
ทั้งนี้การออกเดทกับผู้มีปัญหาทางจิตไม่ได้เกิดขึ้นสำหรับทุกคน บางคนสามารถมองเห็นได้มากกว่าลักษณะเชิงลบ และยอมรับคู่ของตัวเองได้ในแบบที่เขาเป็น ซึ่งในที่สุดแล้วเป็นโอกาสที่จะได้เห็นความสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จได้
แหล่งที่มา
Calli Tzani-Pepelasi. (2018, November 30). Worried you are dating a psychopath? Signs to look for, according to science
Retrieved January 1, 2019, From https://theconversation.com/worried-you-are-dating-a-psychopath-signs-to-look-for-according-to-science-106965
Robert D. HareAdelle E. and ForthStephen D. Hart. The Psychopath as Prototype for Pathological Lying and Deception.
Retrieved January 1, 2019, From https://link.springer.com/chapter/10.1007/978-94-015-7856-1_2
-
9589 ลักษณะผู้ชายโรคจิต สังเกตุอย่างไร? /index.php/article-biology/item/9589-2018-12-13-07-51-00เพิ่มในรายการโปรด