หอมกลิ่นดิน ได้ไอเย็น ของหน้าฝน ที่ตกชุมช่ำแทบทุกวันอย่างนี้ก็ให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้ กระเปร่า ว่าแล้วลุงยองก็คว้าจอบคว้าเสียมลงสวนไปปลูกผักปลูกหญ้าเอาไว้ให้ป้าเค้าทำกับข้าวกิน และแจกจ่ายเพื่อนบ้านด้วย
ที่ว่าปลูกผักปลูกหญ้านั้น ไม่ใช่แค่อุทานเสริมบทอีกต่อไปแล้ว เพระเกษตรอินทรีย์สมัยนี้ต้องปลูกหญ้าแฝกไว้ด้วย เพื่อให้รากหญ้าแฝกช่วยดูดซับน้ำไว้ที่ผิวดิน และคอยตัดกอให้สั้นๆ เพื่อจะได้ช่วยรักษาความชื้นของแปลงผักด้วย นอกจากปลูกหญ้าแล้วยังต้องเลี้ยงไส้เดือน ใช่แล้วไส้เดือนตัวแดงๆ ดำๆ เลื่อนๆ ที่เด็กผู้ชายชอบเก็บเอาไปเป็นเหยื่อตกปลานี่แหละ แต่ไม่ได้เลี้ยงไว้ขายเป็นอาหารปลาหรอกนะ แต่เลี้ยงไว้เพื่อเอามูลมาใช้เป็นปุ๋ยบำรุงพืชผักสวนครัวของเรา
วิธีเลี้ยงไส้เดือนก็แสนจะง่าย ปลูกโรงเรือนให้น้องเค้าสักหน่อยแล้วก็กองๆ กันไว้กับพื้น ให้กินเศษผักเศษวัชพืช ขี้คร้านก็จะโตไวถ่ายคล่อง แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไส้เดือนสายพันธุ์แอฟริกันนะ เพราะเค้าบอกกันว่าโตวัยเลี้ยงง่าย ให้มูลเยอะ 
นอกจากนี้ก็ต้องมีการกำจัดแมลง ด้วยสมุนไพรบ้านๆ ของเรานี่แหละไม่ว่าจะเป็น สะเดา สาบเสือ หางไหล ที่เอามาใส่ตุ่มใส่ถังแช่น้ำไว้ ถึงเวลาก็นำน้ำหมักมาฉีดพ่นเป็นยาไล่แมลง ไม่ใช่ฆ่าแมลง แล้วลุงยองก็ยังปลูกพวกที่มีกลิ่นฉุนแซมไว้ในแปลงผักอีกด้วย ทั้งกะเพรา โหระพา ตะไคร้ โรสแมรี่ที่ลุงยองเคยแนะนำก็ใช้ได้นะ อ้อ......ดอกไม้สีเหลืองสดอย่างดาวเรือง ดาวกระจาย ก็ช่วยล่อแมลงไปจากแปลงผักของเราได้ด้วยเหมือนกัน 
ถ้าลูกๆ หลานๆ ลงมือปลูกตามหลักเกษตรอินทรีย์แบบที่ลุงยองทำแล้วละก็ รับรองจะได้กินผักที่ทั้งสด สะอาด ปลอดจากสารพิษ แถมยังมีสวนสวยสีสันสดใสและกลิ่นหอมชื่นใจโล่งจมูกอีกด้วย หรือจะปลูกเป็นไร่ให้เป็นล่ำเป็นสัน เพื่อค้าขายเลยก็ได้ ผักปลอดสารเดี๋ยวนี้ราคาดี ขึ้นห้างขึ้นโรงแรมกันเลยทีเดียว แถวดาวเรืองก็ขายร้อยมาลัยได้ด้วย ยิ่งหน้าเลือกตั้งอย่างนี้ว่าแล้วลุงก็ขอไปศึกษานโยบายที่เค้ามาหาเสียงกันไว้สักหน่อย จะได้เลือกพรรคเลือกคนที่ใช่ ถูกใจ มาช่วยพัฒนาชาติบ้านเมืองของเราให้เจริญก้าวหน้าสถาพรยิ่งๆ ขึ้นไป......เจ้าประคู้น สาธุ