งาดี..จึงบอกเพื่อน
หลายวันก่อนได้มีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนตามประสาคนเมือง (ที่ไม่มีไร่สวน) แถวมหาวิทยาลัยรามคำแหง ๒ เป็นหมู่บ้านโครงการเล็กๆ เรียงรายด้วยทาวน์เฮาส์เล่นเป็นระดับตามกระแสนิยม และมีผืนดินดำขนาดไม่เกิน ๒ x ๑ เมตร อยู่หน้าบ้าน เพื่อให้เจ้าของบ้านได้ปลูกต้นไม้ให้ชื่นใจ
แต่ความแปลกตาและแปลกใจคือ บ้านเพื่อนของผมหลังนี้ ปลูก ต้นงา ไว้หน้าบ้าน ต่างกับบ้านอื่นที่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับอย่างสวยงาม และชวนให้นึกไปถึงกำนันเคว็ด ประวิทย์ ภูมิระวิ แห่งตำบลวังตะกอ ในวันที่ชวนพวกเราไปดูแปลงพืชผักในโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ตำบลบางลึก อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เมื่อปีที่แล้วพร้อมกับคำถามชวนหัวว่า “ทุกคนเคยกินเมล็ดงาแต่มีใครเคยเห็นและรู้จักต้นงาว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร…?” จากคำถามในวันนั้น ทำให้ผมต้องตามหาความรู้เพิ่มเติมและมาบอกต่อกัน ด้วยสรรพคุณที่มีต่อร่างกาย และยังนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อีกด้วย
ตามตำราอายุรเวทระบุว่า งาดำนั้นดีกว่างาขาวช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มเลือด กระตุ้นกำหนัด ขับน้ำนม ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว รักษาโรคปวดข้อ โรคตาสมานแผลในกระเพาะลำไส้ แก้ท้องผูก ท้องเสียและใช้ภายนอกรักษาแผล ริดสีดวงทวาร ด้านแพทย์จีน ยกเป็นยาบำรุงกำลัง ปรับเลือดลม บำรุงตับ บำรุงน้ำนม รักษาประสาทส่วนปลายอักเสบโดยมีตำรับยาง่ายๆดังนี้
๑. ปัสสาวะ อุจจาระขัด ใช้เมล็ดงา ๒o -๒๕ กรัม แช่ในน้ำเดือดหรือต้ม และรับประทานในขณะท้องว่าง
๒. ลดความดันโลหิตสูง นำเมล็ดงา น้ำส้ม ซีอิ๊ว และน้ำผึ้ง อย่างละ ๓o กรัม ผสมไข่ขาว ๑ ฟอง คนให้เข้ากันดี ต้มด้วยไปอ่อน จนสุกรับประทานเป็นประจำวันละ ๓ ครั้ง
๓. ไอแห้ง ไม่มีเสมหะ ใช้เมล็ดงา ๒๕o กรัม น้ำตาลทรายแดง ๕o กรัม บดรวมกัน รับประทานครั้งละ ๑๕-๒o กรัม วันละ ๒ ครั้ง เช้า-เย็น โดยนำยาผงที่ได้ใส่ในน้ำเดือด แช่ไว้สักพัก และดื่มขณะยังอุ่น
๔. ขับพยาธิเข็มหมุด เมล็ดงา ๕o กรัมเติมน้ำต้มจนได้น้ำข้น กรองส่วนน้ำมาปรุงด้วยน้ำตาลทรายแดง ดื่มขณะท้องว่างครั้งเดียวให้หมด
ส่วนการใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร ตามทฤษฎีเกษตรธรรมชาติ ของอาจารย์โช หรือฮาน คิว โช เจ้าของแนวคิดและทฤษฎีการใช้จุลินทรีย์ท้องถิ่นจากประเทศเกาหลี เนื่องด้วยต้นงานั้นอุดมไปด้วยกรดฟอสฟอริก มีความสำคัญต่อการสร้างนิวเคลียสของเซลล์ในพืช โดยเฉพาะในระยะสืบพันธุ์ หากขาดฟอสฟอรัสจะทำให้การแบ่งเซลล์หยุดชะงัก และการออกดอกออกผลจะผิดปกติ ทั้งนี้ วิธีทำง่ายๆเพียงนำต้นงามาเผา ใช้ขี้เถ้า ๑ กิโลกรัม ผสมน้ำ ๑oo ลิตร หมักไว้ ๒o วันและปั๊มลมเติมอากาศให้กับน้ำที่หมัก จากนั้นใช้น้ำหมักฟอสฟอรัส o.๗ ลิตร ผสมน้ำ ๒o ลิตร ฉีดพ่นให้พืชในระยะเปลี่ยนวัย จะช่วยให้พืชสร้างตาดอกผสมเกสรดีขึ้น ส่งเสริมการเกิดตาดอกที่สมบูรณ์เพิ่มปริมาณและเพิ่มความหวานให้กับผลผลิต
แม้บ้านเพื่อนผมจะไม่มีไร่สวนให้ทำน้ำหมักไปฉีดแต่อีกแง่มุมหนึ่ง เรื่องราวดีๆ ของการพึ่งตนเองของอีกหนึ่งครอบครัวได้เกิดขึ้นแล้ว เริ่มจากปลูกพืชผักสวนครัว ที่มีทั้งต้นงา มะเขือ ถั่วพู ตั้งแถวต้อนรับผู้มาเยือนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
-
2382 งาดี..จึงบอกเพื่อน /index.php/article-science/item/2382-2011-10-26-23-17-14เพิ่มในรายการโปรด