วันมะเร็งโลก 2555 "Together it is possible"
เป็นที่ทราบกันดีว่าวันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี สมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (Union for International Cancer Control, UICC) ได้กำหนดให้เป็น "วันมะเร็งโลก" ซึ่งในวันนี้องค์กรจากภาครัฐและเอกชนทั่วโลกจะจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคมะเร็ง ด้วยตระหนักถึงวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของประชากร อีกทั้งความก้าวหน้าทางด้านสาธารณสุข ทำให้ประชากรมีอายุยืนยาวมากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้โรคมะเร็งและโรคไม่ติดต่ออื่น ๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกเพศ ทุกวัย และทุกเชื้อชาติ จึงนำมาสู่สาเหตุการตายและปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปีทั่วโลก
จากการประชุมครั้งสำคัญเมื่อปี ค.ศ. 2011 ได้แก่ ประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ (High-level Meeting of the United Nations General Assembly on the Prevention and Control of NCDs) ในวันที่ 19-20 กันยายน 2011 ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเน้นที่แผนการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อให้นำไปสู่การปฏิบัติจริง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา นอกจากนี้ยังมีการประชุม World Cancer Leaders' Summit (WCLS) ที่เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2011 ซึ่งจัดขึ้นโดย UICC ร่วมกับ Irish Cancer Society การประชุมครั้งนี้มีผู้นำจากองค์กรต่าง ๆ กว่า 60 ประเทศเข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นการร่วมมือกันจากหลายภาคส่วนในการสนับสนุนแผนงานป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งทั้งในระดับชาติ ภูมิภาคและระดับโลก เพื่อหาแนวทางหรือกลยุทธ์ให้องค์กรต่างๆ หันมาสนใจปัญหาจากโรคมะเร็งมากขึ้น เช่น การดูแลสุขภาพผู้ป่วยในระยะสุดท้าย การจัดหาทรัพยากรให้เพียงพอและยั่งยืนต่อการป้องกันโรคมะเร็ง การทำทะเบียนมะเร็งและการมีนโยบายที่ดีในการควบคุมโรคมะเร็งในประเทศที่ด้อยพัฒนา และการกระตุ้นให้เกิดนโยบายสาธารณะจากหลายภาคส่วนเพื่อการต่อต้านและป้องกันการเกิดโรค เป็นต้น โดยท้ายที่สุดได้มีข้อสรุปร่วมกันว่าจะต้องลดอัตราการตายที่มีสาเหตุมาจากโรคมะเร็งและโรคไม่ติดต่ออื่นๆ ให้ได้ 25% ภายในปี ค.ศ. 2025 จากปฏิญญาการประชุมครั้งนี้มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าผู้นำจากองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกเห็นความสำคัญในการร่วมมือกันลดภาระทางสังคมและเศรษฐกิจที่เกิดจากโรคมะเร็งในอนาคต สำหรับปี ค.ศ. 2012 นี้ UICC เน้นว่าโรคมะเร็งไม่ใช่ปัญหาของคนใดคนหนึ่งอีกต่อไปแต่เราทุกคนสามารถเป็นส่วนร่วมที่สำคัญในการลดอัตราการตายจากโรคมะเร็งได้ จึงได้กำหนดหัวข้อในวันมะเร็งโลกเป็น "Together it is possible"
องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่าในปี ค.ศ. 2030 จะมีประชากรที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งถึง 12 ล้านคนต่อปี หรือ 1 ล้านคนต่อเดือน อย่างไรก็ตามหากทุกประเทศมีมาตรการหรือแผนการป้องการและควบคุมโรคที่ให้ผลอย่างมีประสิทธิภาพอาจจะป้องกันการเสียชีวิตของประชากรโลกได้ประมาณ 600,000 คนต่อเดือน เนื่องจากโรคมะเร็งบางส่วนสามารถป้องกันได้ เช่น การไม่สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และถูกสุขลักษณะ การออกกำลังกาย และโรคมะเร็งบางส่วนสามารถตรวจพบในระยะเริ่มแรกได้ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ ดังนั้นการรณรงค์ให้ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเชิงบูรณาการแก่ประชาชนทั่วไปจึงถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนควรกระตุ้นให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อการป้องกันมะเร็งและควบคุมการเกิดโรคมะเร็งอย่างได้ผล
ปัจจุบันโรคมะเร็งยังคงเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย เนื่องจากเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของประชากรไทย โดยโรคมะเร็งที่พบมาก ในเพศชาย 3 อันดับแรก ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนในเพศหญิง ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งตับ ตามลำดับ ซึ่งแนวโน้มการเกิดโรคมะเร็งในประเทศไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้สมาคมโรคมะเร็งแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับสถาบันมะเร็งแห่งชาติจะจัดให้มีการเสวนาความรู้การป้องกันมะเร็งในวันมะเร็งโลก โดยมีแพทย์และนักวิชาการจากสมาคมวิชาชีพต่างๆ มาให้ความรู้พร้อมทั้งมีการตอบคำถาม ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถ.วิภาวดีรังสิต และวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2555 จะมีการจัดนิทรรศการวันมะเร็งโลก ณ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ถ.พระราม 6 กรุงเทพฯ
-
2657 วันมะเร็งโลก 2555 "Together it is possible" /index.php/article-science/item/2657-2555-qtogether-it-is-possibleqเพิ่มในรายการโปรด