การศึกษาครั้งใหม่พบว่า สมองซีกซ้ายและขวามีการเก็บข้อมูลแยกจากกัน คล้ายกับแรมของคอมพิวเตอร์นั่นเอง

ผลการวิจัยทำให้เราสามารถอธิบายได้ด้วยว่า เหตุใดในเวลาหนึ่งๆคนเราจะจำวัตถุได้เพียงแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น แต่คนเราสามารถเพิ่มขีดจำกัดของการรับรู้วัตถุได้โดยการทำให้ข้อมูลที่ส่งไปยังสมองทั้งสองข้างนั้นเท่าๆกัน และการค้นพบนี้ก็ได้รับการตีพิมพ์ใน Proceedings of the National Academy of Sciences แล้ว โดยเฉลี่ยแล้ว คนเราจะสามารถจดจำได้เพียงแค่ 4 อย่างเท่านั้นในความจำระยะสั้น หรือความจำหลักช่วงระยะทำงาน เช่น จะจำตำแหน่งของไพ่ในเกมฝึกสมาธิได้เพียงแค่ 4 ใบเท่านั้น และแม้เราจะทราบดีว่าความจำระยะสั้นมีความเกี่ยวข้องกับความฉลาดของคน แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่เข้าใจว่า สมองเกี่ยวข้องกับขีดจำกัดนี้อย่างไร "ทำไมคุณไม่สามารถคิดถึงสิ่งต่างๆได้เป็นร้อยอันในเวลาเดียวกัน หรือไม่ก็ 50 อันในเวลาเดียวกันได้ล่ะ? ทำไมถึงได้แค่ 4 ?" เอียล มิลเลอร์ นักวิจัยของ MIT กล่าว "ถ้าเราเข้าใจกลไกเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งเลยนะว่า สมองเกี่ยวข้องกับข้อมูลอย่างไร และความคิดเกิดขึ้นมาได้อย่างไร"

มิลเลอร์และทีมงานได้ทำการทดสอบกับลิงสองตัว (ลิงมีหน่วยความจำระยะสั้น 4 ส่วนเช่นเดียวกับมนุษย์) และให้ทำงานง่ายๆ คือ ตอนแรก ลิงจะเห็นรูปสี่เหลี่ยมสีทั้งหมด 2-5 รูปในคอมพิวเตอร์เป็นช่วงเวลาสั้นๆไม่เกินหนึ่งวินาที จากนั้นจอนี้จะกลายเป็นจอเปล่าๆเป็นระยะเวลานานๆ แล้วสี่เหลี่ยมนั้นจึงจะปรากฏอีกครั้ง แต่จะมีการเปลี่ยนสีไปรูปหนึ่ง หากลิงตอบถูกว่ารูปใดในบรรดาสี่เหลี่ยมมีการเปลี่ยนแปลง ลิงจะได้รางวัล เมื่อจำนวนสี่เหลี่ยมเพิ่มมากขึ้น ลิงจะเริ่มหาสีที่เปลี่ยนแปลงไม่เจอแล้ว แต่มิลเลอร์และทีมงานได้สังเกตว่า ข้อจำกัดนี้สามารถปรับหรือบิดเบือนได้ คือ การเพิ่มสี่เหลี่ยมพิเศษทางด้านซ้ายของจอคอมพิวเตอร์นั้นจะไม่มีผลกระทบต่อความสามารถในการจำสี่เหลี่ยมในทางขวาของคอมพิวเตอร์ และในทางตรงข้ามก็เช่นเดียวกัน แสดงว่า สมองทั้งสองซีกมีการดำเนินการอย่างเป็นอิสระต่อกันนั่นเอง

แม้ว่าสมองแต่ละข้างจะมีการจัดการกับข้อมูลภาพที่มาจากอีกฝั่งได้ด้วย แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ลิงจะสามารถติดตามวัตถุได้เพียงแค่สองอันในแต่ละข้างของจอคอมพิวเตอร์ได้ รวมกันเป็น 4 อันพอดี โดยวัตถุ 2 อันจากทางซ้ายนั้น สมองซีกซ้ายจะเป็นหน่วยจัดการ และวัตถุอีก 2 อันทางด้านขวา สมองซีกขวาจะเป็นหน่วยจัดการ ในขณะที่ลิงกำลังทำงานนี้นั้น นักวิจัยยังได้ตรวจดูกิจกรรมของเซลล์ประสาทผ่านทางอิเล็กโทรดอีกด้วย พบว่า การเปลี่ยนแปลงในเซลล์ประสาทสามารถเป็นสัญญาณให้นักวิจัยทราบได้ว่า สมองของลิงจะรับข้อมูลมากเกินไปตอนไหนและที่ไหน และสี่เหลี่ยมไหนที่เป็นปัญหา 

ข้อมูลจากอิเล็กโทรดแสดงให้เห็นว่า การทำงานของสมองนั้นมีการแยกจากกันอย่างชัดเจน โดยการพยายามสี่เหลี่ยมเข้าไปเพียงด้านใดด้านหนึ่งของจอทั้งหมดเลยนั้นจะเป็นสาเหตุให้เซลล์ประสาททำงานแปลกไปจากเดิม แต่การเติมสี่เหลี่ยมเข้าไปอย่างประปรายทั่วหน้าจอนั้นจะทำให้สมองทำงานไม่ต่างจากเดิมมากนัก "การค้นพบว่าสมองมีการทำงานแยกส่วนกันนี้อาจจะไปสู่เทคนิคของการเพิ่มขีดความสามารถในการจำของสมองได้" มิลเลอร์กล่าวต่อ "ตัวอย่างเช่น ที่ปัดน้ำฝนที่กระจกหน้ารถนั้นถ้ามีได้สองข้างก็ย่อมดีกว่ามีข้างเดียวที่ด้านคนขับอยู่แล้ว หรืออีกตัวอย่าง เครื่องตรวจจับวัตถุอันตรายที่ท่าอากาศยานอาจจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าจอแสดงผลเอ็กซ์เรย์เลื่อนขึ้นจากบนลงล่างแทนที่จะเป็นจากซ้ายไปขวา เนื่องจากว่า วัตถุที่เคลื่อนที่ไปด้านข้างจะใช้พลังความสามารถของสมองแต่ละข้างได้ไม่ดีนัก" "การรู้ว่าวัตถุจัดการกับวัตถุอย่างไรนั้นเป็นเรื่องสำคัญเพราะว่าความสามารถของสมองหน่วยที่เป็นความจำระยะสั้นนี้จะสะท้อนความสามารถในการรับรู้ที่ส่วนใหญ่จะวัดกันโดยใช้คะแนน IQ, SAT และความสามารถในการเรียนภาษาที่สอง" เอ็ดเวิร์ด โวเกิล นักประสาทวิทยา มหาวิทยาลัยโอเรกอนเสริม "ยิ่งเราเข้าใจเกี่ยวกับข้อจำกัดพื้นฐานของความสามารถนี้เท่าไหร่ เราก็จะยิ่งรู้ลึกมากขึ้นเกี่ยวกับว่าความสามารถในการรับรูของแต่ละคนว่าแตกต่างกันได้อย่างไร"


ขอขอบคุณบทความจาก วิชาการ.คอม