กินอิ่มแล้วจะเรอ แล้วอาการเรอเกิดจากอะไร!!
เคยสังเกตไหมเมื่อเวลาเรากินอาหารอิ่มมากๆแล้วจะเรอ หรือเวลาเราดื่มน้ำอัดลมแล้วก็จะเกิดอาการเรอ ที่มีระดับความดังมากน้อยแตกต่างกันแถมบางครั้งมีกลิ่นเหม็นซะด้วย เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเรากันแน่
"การเรอเกิดจากอากาศที่กลืนลงไปพร้อมกับอาหาร หรือเกิดจากแก๊สที่เหลือในกระเพาะจากการกินมากเกินไปย้อนกลับออกมา" ซึ่งเวลาที่อากาศเหล่านี้จะออกมาจากปากมักไปทำให้ช่วงคอสั่นแล้วเกิดเป็นเสียงออกมา
ส่วนเวลาที่เราดื่มน้ำอัดลมแล้วเรอออกมานั้น นั่นก็เพราะว่า "กรดคาร์บอนิกที่อยู่ในน้ำอัดลมเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะกลายเป็นแก๊สและไปสะสมตัวอยู่ในกระเพาะ สุดท้ายแก๊สนั้นย้อนกลับออกมาทางปากจึงเกิดเป็นเสียงเรอขึ้น"
เรอ (Belching หรือ Burping) เป็นอาการจากร่างกายขับลมออกจากหลอดอาหาร และจากกระเพาะอาหาร เกิดร่วมกับมีเสียง (เสียงจากการสั่นของหูรูดหลอดอาหาร) และมีกลิ่นของอาหารที่ได้บริโภคและยังค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร ทั้งนี้เนื่องจากมีลม หรือแก๊ส หรืออากาศในหลอดอาหาร และในกระเพาะอาหารมากเกินปกติ
สาเหตุที่ทำให้มีลมในหลอดอาหาร และในกระเพาะอาหารมากกว่าปกติ อาจเกิดจาก กินอาหารเร็ว เคี้ยวไม่ละเอียด เคี้ยวหมากฝรั่ง ดื่มน้ำอัดลม การดูดน้ำ/อาหาร เช่น ดูดนม (ในเด็กอ่อนที่กินนมแม่) หรือการใช้หลอดดูด อาหารและเครื่องดื่ม หรือเกิดจากมีกรดในกระเพาะอาหารมาก เช่น จากดื่มกาแฟ หรือจากการสูบบุหรี่ หรือปัญหาด้านอารมณ์/จิตใจ หรืออาจเกิดจากการมีอาหารตกค้างในกระเพาะอาหารมาก น้ำย่อยไม่เพียง เช่น จากกินอาหารมากเกินไป จากประเภทอาหาร ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาโรคเบาหวานบางชนิด หรือจากมีโรคของอวัยวะที่สร้างน้ำย่อย จึงทำให้มีน้ำย่อยอาหารไม่เพียงพอ เช่น ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน และกระเพาะอาหาร
อาหารที่ทำให้เกิดแก๊สในทางเดินอาหาร ได้แก่ ถั่วสารพัดชนิด ต้นหอมและหัวหอม ผักตระกูลกะหล่ำปลี ซึ่งนอกจากะหล่ำปลีแล้ว ยังหมายถึงกะหล่ำปมและกะหล่ำดอก อาหารเหล่านี้บางคนกินได้มาก โดยไม่เป็นไร แต่บางคนกินเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกท้องอืดเต็มไปด้วยแก๊ส นอกจากนี้บางคนยังอาจแพ้อาหารบางอย่างที่คนอื่นเขาไม่แพ้กัน อาหารที่ทำให้เกิดแก๊สได้มากที่สุดก็คือน้ำอัดลม ลมหรือแก๊สที่อัดไว้เข้าไปขยายในท้อง ยิ่งดื่มรวดเดียวหมดขดยิ่งขยายได้มาก อาจทำให้เกิดแก๊สคาร์บอนไดอ๊อคไซด์ในทางเดินอาหารได้ถึง 4 เท่าของปริมาตรน้ำอัดลมที่ดื่ม คงจะนึกภาพออกว่าจะทำให้ท้องอืดมากเพียงใด
โรคที่เป็นสาเหตุให้มีการเรอบ่อยผิดปกติ มีได้หลากหลายโรค ที่พบได้บ่อย เช่น โรคกรดไหลย้อน โรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคนิ่วในถุงน้ำดี เป็นต้น
เมื่อมีอาการเรอบ่อยผิดปกติ ควรปรับพฤติกรรมในการกิน/ดื่ม เช่น กินปริมาณอาหารแต่ละมื้อให้น้อยลง และสังเกตประเภทอาหาร และหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านั้น แต่ถ้าอาการเรอไม่ดีขึ้น หรือมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น ปวดท้อง อาการแสบร้อนกลางอก ถ่ายอุจจาระดำเหมือนยางมะตอย หรือ อาเจียนเป็นเลือด ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ เพราะอาจเกิดจากโรคต่างๆดังได้กล่าวแล้วได้
ข้อแนะนำสำหรับท่านที่ผายลมบ่อยหรือเรอบ่อย
- หลีกเลี่ยงน้ำดื่มที่มีฟองฟู่ เช่นโซดา เบียร์ carbonated beverages ให้ดื่มน้ำมากๆ
- หลีกเลี่ยงนม หากท่านขาดเอ็นไซม์ในการย่อยนม
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซ กะหล่ำปี ดอกกำหล่ำ ถัว บรอคโคลี หอมใหญ่ หน่อไม้ฝรั่ง ผลไม้เช่น แอปเปิล แพร์
- ให้ออกกำลังกาย
- ลดการกลืนลมโดยวิธีการต่อไปนี้
- รับประทานให้ช้า และเคี้ยวอาหารให้ละเอียด
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่งและลูกอม
- หยุดสูบบุหรี่
- ตรวจฟันปลอมว่ามีขนาดพอดีหรือไม่
http://haamor.com/th/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%AD/
http://www.dailynews.co.th/Content/Article
http://campus.sanook.com/924541/
-
4722 กินอิ่มแล้วจะเรอ แล้วอาการเรอเกิดจากอะไร!! /index.php/article-science/item/4722-2015-03-18-06-41-59เพิ่มในรายการโปรด