2. ในการทดลองหนึ่ง ชั่งสาหร่ายหางกระรอกให้มีน้ำ�หนักเท่า ๆ กัน ใส่ในขวดรูปชมพู่ขนาด
เท่ากัน ซึ่งใส่น้ำ� 200 mL แล้วเติมสารละลายโบรโมไทมอลบลูซึ่งเป็นอินดิเตอร์สำ�หรับ
กรด-เบส ลงไป 2 mL นำ�ขวดหนึ่งไปตั้งไว้ในที่มีแสง อีกขวดหนึ่งไปตั้งไว้ในที่มืด เป็นเวลา
12 ชั่วโมง ดังรูป
ผลการทดลองพบว่าขวดที่ตั้งอยู่ในที่มีแสงจะยังคงเป็นสีฟ้า ส่วนขวดที่ตั้งในที่มืดจะเปลี่ยน
จากสีฟ้าเป็นสีเขียวแกมเหลือง เพราะเหตุใดสาหร่ายที่อยู่ในที่มืดจึงทำ�ให้สารละลายในขวด
เปลี่ยนสี
เนื่องจากในที่มืดสาหร่ายหางกระรอกไม่มีการสังเคราะห์ด้วยแสง ดังนั้นจึงไม่มีการใช้ CO
2
แต่ได้ CO
2
มาจากการหายใจระดับเซลล์ของพืช จึงทำ�ให้สารละลายมีความเป็นกรดมาก
ขึ้น มีผลทำ�ให้สารละลายโบรโมไทมอลบลูเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีเขียวแกมเหลือง ส่วนขวด
ที่อยู่ในที่มีแสงสาหร่ายหางกระรอกมีการสังเคราะห์ด้วยแสงและมีการใช้ CO
2
ทำ�ให้เมื่อ
ทดสอบกับสารละลายโบรโมไทมอลบลูจึงไม่เปลี่ยนสี
3. นักวิทยาศาสตร์ได้ทำ�การทดลองโดยนำ�สาหร่ายสีเขียวชนิดหนึ่งวางลงบนสไลด์ 3 แผ่น
จากนั้นเติมแบคทีเรียที่ต้องการ O
2
ซึ่งเคลื่อนที่ได้ลงไป แล้วนำ�สไลด์แต่ละแผ่นแยกไปใส่
ในกล่องใสที่ปิดสนิท (อากาศเข้าไม่ได้) โดยให้สาหร่ายในแผ่นสไลด์ ก. เจริญในที่มีแสง
ส่วนแผ่นสไลด์ ข. และ ค. เจริญในที่มืด และให้แสงขาวและแสงสีแดงตรงตำ�แหน่งต่าง ๆ
ในแผ่นสไลด์ ข. และ ค. ได้ผลการทดลองดังรูป
มีแสง
ที่มืด
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 11 | การสังเคราะห์ด้วยแสง
ชีววิทยา เล่ม 3
222