11.1
อธิบาย
ในภาวะที่มีออกซิเจนเพียงพอหรือมีออกซิเจนไม่เพียงพอก็ตาม จะเกิดการสลายกลูโคส
ด้วยกระบวนการไกลโคลิซิสขึ้นภายในไซโทซอลของเซลล์ และเปลี่ยนเป็นสารประกอบ
อื่นๆ ก่อนเคลื่อนที่เข้าสู่ไมโทคอนเดรีย ดังนั้นจึงตรวจพบกลูโคสได้ทั้งภายนอกเซลล์และ
ในไซโทพลาซึม
11.2
อธิบาย
ในภาวะที่มีออกซิเจนไม่เพียงพอจะเกิดการสลายกลูโคสด้วยกระบวนการไกลโคลิซิสขึ้น
เป็นปกติภายในไซโทซอล แต่ภายในไมโทคอนเดรียจะไม่เกิดการสลายสารอาหารเนื่องจาก
ไม่มีออกซิเจนมาเป็นตัวรับอิเล็กตรอนในกระบวนการถ่ายทอดอิเล็กตรอน
11.3
อธิบาย
การสร้าง NADH และ FADH
2
จะเกิดปริมาณมากในเมทริกซ์ของไมโทคอนเดรีย ซึ่งเกิดขึ้น
ทั้งจากในขั้นตอนการเปลี่ยนกรดไพรูวิกไปเป็นแอซิทิลโคเอนไซม์เอ และกระบวนการ
เปลี่ยนแปลงของสารประกอบคาร์บอนต่าง ๆ ในวัฏจักรเครบส์
11.4
อธิบาย
กระบวนการถ่ายทอดอิเล็กตรอนจะเกิดขึ้นที่เยื่อหุ้มชั้นในของไมโทคอนเดรีย ซึ่งต้องมี
โปรตีนที่เป็นตัวนำ�อิเล็กตรอนชนิดต่าง ๆ ในการส่งผ่านอิเล็กตรอนไปให้ออกซิเจนซึ่งเป็น
ตัวรับอิเล็กตรอนตัวสุดท้าย
11.5
อธิบาย
ในภาวะที่มีออกซิเจนเพียงพอจะเกิดกระบวนการถ่ายทอดอิเล็กตรอนและมีการเคลื่อนย้าย
โปรตอนจากเมทริกซ์เข้าสู่ช่องว่างระหว่างเยื่อหุ้มชั้นในและเยื่อหุ้มชั้นนอกของไมโทคอนเดรีย
11.6
อธิบาย
เหตุผลเช่นเดียวกับข้อ 5.2 แต่กรดไพรูวิกที่ได้จากการสลายกลูโคสจะไม่เคลื่อนผ่านเยื่อหุ้ม
ไมโทคอนเดรียเข้าไปภายในเมทริกซ์และจะปล่อยคาร์บอนในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์
และมีแอซิตัลดีไฮด์เป็นตัวรับอิเล็กตรอนจาก NADH กลายเป็นเอทิลแอลกอฮอล์
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 3 | เซลล์และการทำ�งานของเซลล์
ชีววิทยา เล่ม 1
247