ฟิสิกส์เป็นยาขม
คุณเห็นด้วยกับผมรึเปล่าครับว่า "ฟิสิกส์เป็นยาขม" คนส่วนใหญ่ในโลกใบนี้คงเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ ผมเองในฐานะคนเรียนฟิสิกส์ก็คงไม่กล้าจะพูดว่า ... ไม่หรอกคร้าบบบบ ฟิสิกส์ ง่ายนิดเดียว ... แต่คนที่เลือกจะเรียนฟิสิกส์มักจะต้องเอาความรัก(ฟิสิกส์) นำมาก่อนครับ แล้วจะเป็นอย่างไรล่ะ ถ้าเด็กๆที่ยังไม่พร้อมจะรัก(ฟิสิกส์) แต่ถูกบังคับให้เรียนฟิสิกส์ ผมอ่านเจอบทความนี้ครับ เลยเอามาแบ่งปันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน หรือคุณว่าไง???
ควอนตัมเพื่อเด็กประถม
ฟังแล้วอึ้ง
ไม่นานมานี้ผมได้ยินว่ามีคนพยายามสอนทฤษฎีควอนตัมให้กับเด็กประถม ไม่ได้อึ้งในความสามารถของคนสอนนะครับ ผมอึ้งเพราะนึกสงสัยว่าเด็กประถมจะได้อะไรจากการเรียนการสอนวิชานี้?
การไปเที่ยวน้ำตก ไปเล่นน้ำทะเล ไปปีนเขา จนถึงไปเดินป่า ล้วนเป็นวิธีการสัมผัสความงามของธรรมชาติ บรรยากาศสดชื่น-กลิ่นดิน-พืชหน้าตาแปลกๆ-พฤติกรรมสัตว์นอกกรง ฯลฯ ทำให้รับความรู้สึกผ่อนคลายจากการงานอันแสนจำเจและความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี
ผมเชื่อว่าวิทยาศาสตร์เป็นช่องทางหนึ่งในการเข้าถึงความงามของธรรมชาติ
มันทำให้เราเข้าใจว่าทำไมธรรมชาติถึงเป็นอย่างที่เราเห็นและสามารถคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นในธรรมชาติได้ เราเห็นสาเหตุที่ทำให้มดเดินตามกันเป็นแถว เราเข้าใจว่าทำไมดาวยามราตรีจึงส่องแสงได้โดยไม่รู้ดับ และความเข้าใจในธรรมชาติก็ทำให้เราป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าได้ ฯลฯ
เรามองเห็นรูปแบบบางอย่างที่เชื่อมโยงปรากฏการณ์ธรรมชาติอันซับซ้อนต่างๆ เข้าด้วยกัน และค่อยๆ เติมเต็มความเข้าใจของเราต่อธรรมชาติอันลึกลับ
แต่มีใครเคยพบเห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติทางควอนตัมบ้าง?
มันไม่ใช่ของที่พบเห็นกันได้ในชีวิตประจำวัน เด็กประถมที่เรียนเรื่องควอนตัมไม่สามารถเชื่อมโยงทฤษฎีควอนตัมที่เขาได้เรียนกับสิ่งที่เข้าพบเห็นได้เลย ถึงเด็กจะบอกว่าเข้าใจก็คงเข้าใจไปตามคำพดเท่านั้น ไม่ได้คิดต่อหรือรู้สึกทึ่งอะไรในทฤษฎีควอนตัม ทั้งที่จริงๆแล้วทฤษฎีนี้น่าสนใจ เพราะมันปฏิวัติแนวคิดฟิสิกส์แบบฉบับ (Classical Physics) พลิกมุมมองเกี่ยวกับธรรมชาติที่เราคิดว่ารู้จักเป็นอย่างดีแล้ว
เด็กประถมนั้นไม่รู้จักแม้แต่วิชาฟิสิกส์ แต่ดันพยายามไปสอนแนวคิดการปฏิวัติฟิสิกส์ สถานการณ์เปรียบเหมือนเล่าเรื่องการปฏิวัติในฝรั่งเศสให้คนที่ไม่รู้จักประเทศฝรั่งเศสฟังนั่นแหละ
เพื่อนผมคนหนึ่งไปเล่นกลให้เด็กตัวเล็กๆ ดู พอเล่นเสร็จเด็กก็ทำหน้าเอ๋อๆ งงๆ
เด็กเหล่านั้นไม่เข้าใจว่ากลที่ได้เห็นไปมันน่าทึ่งตรงไหน เพราะสมองพวกเขายังไม่ได้ใส่ภาพของเหตุผลและตรรกะลงไป เขาเลยไม่มีเซนส์ที่จะรู้สึกทึ่งในภาพที่มายากลสร้างขึ้น การพยายามสอนทฤษฎีควอนตัมให้เด็กประถมจึงเปรียบเหมือนการที่จู่ๆ นักมายากลก็อธิบายเบื้องหลังของมายาให้เด็กฟัง
ซึ่งไม่รู้ว่าจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร
สารภาพตรงๆ ว่าก่อนหน้านี้ผมไม่ชอบนิยายเรื่องสามก๊กเลย ทั้งที่ทุกวันนี้ผมอินกับสามก๊กมาก เพราะสามก๊กนั้นเต็มไปด้วยแง่คิดน่าสนใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการภายในศึกสงคราม สถานการณ์ที่บริหารจัดการได้ยากยิ่ง! ส่วนหนึ่งที่ผมรู้สึกไม่ชอบเรื่องนี้น่าจะเป็นเพราะผมรู้จักสามก๊กครั้งแรกๆ ตอนเป็นเด็ก ตอนนั้นผมจำชื่อตัวละครไม่ได้และรู้สึกไม่ซึ้งกับเนื้อหาเลยแม้แต่น้อย มาถึงวันนี้ผมคิดว่าเร็วไปที่ยัดเอาวรรณกรรมซับซ้อนสำนวนโบราณขนาดนั้นมาให้เด็ก ม.ต้นเรียน
สิ่งหนึ่งที่ผมชอบที่สุดเกี่ยวกับการแพทย์คือ ยาน้ำสำหรับเด็ก สาเหตุที่ต้องเป็นยาน้ำเพราะเด็กได้กลืนง่ายๆ แถมใส่สีให้สวยงาม แต่งกลิ่นให้หอม และเติมรสหวานๆ ให้เด็กยอมกิน
เรียกว่าหลอกล่อทุกวิถีทาง
ผมนับถือความพายามของผู้คิดค้นสิ่งนี้ เพราะมันแสดงให้เห็นความเอาใจใส่เด็ก สิ่งมีชีวิตที่กินยายากอย่างยิ่ง
บางทีที่เด็กๆ ไม่สนใจเรียน อาจเป็นเพราะเขาหลงใหลกระแสยั่วยุต่างๆ หรืออาจเป็นเพราะพวกเขาเบื่อง่ายเกินไป ฯลฯ แต่สิ่งเหล่านั้นคงเป็นสาเหตุส่วนน้อย
สาเหตุส่วนใหญ่จริงๆ อาจเป็นเพราะผู้ใหญ่อย่างเราๆ ไม่ได้เลือกนำเสนอสิ่งที่เขาสนใจ และไม่ได้ลองมองในมุมของพวกเขา แต่คิดจากมุมมองของเราเสมอมา
ที่มา : หนังสือเรื่องลึกลับธรรมดา, อาจวรงค์ จันทมาศ สำนักพิมพ์มติชน
-
7148 ฟิสิกส์เป็นยาขม /lesson-physics/item/7148-2017-06-04-09-04-33เพิ่มในรายการโปรด