รู้หรือไม่? อาการคันสัมพันธ์กับจิตใจ
เมื่อใดก็ตามที่เกิดอาการคัน สัญชาตญาณแรกที่คนเราจะทำคือ การเกา แม้ว่าการเกาจะทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยบรรเทาเท่าที่ควร และไม่ว่าอาการคันเหล่านั้นจะเกิดจากปัญหาใด การเกามากเกินไปไม่ได้ช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้น
การเกาอาจทำให้เกิดบาดแผล และติดเชื้อได้
ที่มา https://pixabay.com/images/id-3382130/, Mabel Amber
วิทยาศาสตร์ว่าด้วยอาการคัน
กล้ามเนื้อ ข้อต่อ กระดูก และอวัยวะอื่นๆ ที่อยู่ภายในร่างกายสามารถเกิดอาการเจ็บปวด แต่ผิวหนังซึ่งเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดที่สามารถรับสัมผัสได้ทั้งความเจ็บปวดและอาการคัน
ในแง่ทางการแพทย์ อาการคัน (Pruritus) เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังหรือเซลล์ประสาทเกิดการระคายเคือง ซึ่งเป็นหนึ่งความรู้สึกในการปกป้อง (Protective Sensation) ที่บ่งบอกให้ทราบถึงปัญหา ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกร่างกายเช่น แมลงกัดต่อย พืชมีพิษ ปัญหาผิวหนัง เป็นต้น แม้จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นจากการเกา แต่อาการคันสามารถทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้เล็กน้อยบนผิวหนัง
การเกาส่งสัญญาณประสาทให้สมองรับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด ซึ่งเบี่ยงเบนความสนใจไปจากอาการคันและทำให้รู้สึกดีขึ้นในชั่วขณะ แต่อาจสังเกตคนที่มีอาการคันจะเห็นว่า ยิ่งคันก็ยิ่งเกา และยิ่งเกาอาจทำให้เกิดอาการคันในบริเวณอื่นได้ อย่างไรก็ดี หากเกิดความเจ็บปวดมากพอ ร่างกายจะหลั่งสารสื่อประสาทที่ช่วยลดความเจ็บปวดที่เรียกว่า ซีโรโทนิน (Serotonin) และนั่นอาจทำให้อาการคันรุนแรงมากขึ้น โดยสิ่งเหล่านี้เป็นวงจรที่ยิ่งรู้สึกคัน ก็ทำให้ยิ่งเกามากขึ้น และการเกาที่มากขึ้นนี้นำไปสู่การเกิดบาดแผล จนกระทั่งเกิดการติดเชื้อได้
อาการคันที่แตกต่างกัน
แม้ว่าจะเป็นอาการคัน แต่ใช่ว่าอาการคันจะเกิดขึ้นเหมือนกันในแต่ละสาเหตุ หลายท่านมีอาการคันเมื่อร่างกายตอบสนองต่อละอองเกสร ถั่ว และสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันสร้างสารเคมีที่เรียกว่า ฮีสตามีน (Histamine) ซึ่งทำให้เกิดอาการปวด คัน แดง
ปัญหาจากระบบประสาทเช่น โรคงูสวัด (Shingles) อาจทำให้รู้สึกชาและมีอาการเป็นเหน็บพร้อมกับอาการคัน หรือโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) ที่มีอาการคันร่วมกับอาการแสบร้อน คล้ายถูกมดคันไฟกัด นอกจากนี้ยาชนิดออาจก่อให้เกิดอาการคันได้
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การเกาอย่างรุนแรงนอกจากจะทำให้รู้สึกหงุดหงิดแล้ว ยังนำไปสู่การเกิดบาดแผล เป็นรอยแผลเป็น จนกระทั่งอาจติดเชื้อได้
เคล็ดลับลดอาการคัน
เมื่อเกิดอาการคัน และไม่สามารถทนที่จะไม่เกาในบริเวณนั้นได้ ให้พยายามไม่ใช้เล็บของคุณ แต่ให้ถูหรือตบเบา ๆ หรือบีบผิวในบริเวณที่คันเบา ๆ และการตัดเล็บให้สั้นหรือการใส่ถุงมือในขณะนอนหลับจะทำให้มีโอกาสลดลงที่จะทำลายผิวหนังได้ นอกจากนี้อาจหาวิธีการอื่นที่จะปกป้องการทำลายผิวจากการเกา ดังนี้
-
หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่อาจทำให้ระคายเคืองผิวหนัง
-
หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นที่นานเกินไป เนื่องด้วยเป็นสาเหตุของผิวแห้งที่ทำให้เกิดอาการคัน หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหนังที่อ่อนโยน
-
ทาโลชั่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง
-
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
แม้ว่าการเกาจะช่วยบรรเทาอาการคันลงได้ แต่เกาอย่างรุนแรงจะสร้างบาดแผลและนำไปสู่ผลลัพธ์ด้านลบต่อผิวหนัง ดังนั้นคำแนะนำสำหรับการลดความรู้สึกคันจึงเป็นตัวเลือกที่จะไม่สร้างร่องรอยบนผิวหนัง และที่สำคัญไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาด้วย
แหล่งที่มา
Derick Dermatology.(2019,July 30).WHY SCRATCHING FEELS SO GOOD – AND WHY IT’S IMPORTANT TO STOP. Retrieved December 1, 2019, From https://derickdermatology.com/why-scratching-feels-good/
Stephanie S. Gardner.(2019,July 27).Why Scratching Feels So Good (But Is So Bad). Retrieved December 1, 2019, From https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/guide/scratching-feels-good#2
มูลนิธิหมอชาวบ้าน.Porraphat Jutrakul.วิธีดูแลรักษาเมื่อเกิดอาการคัน.สืบค้นเมื่อ 1 ธ.ค. 2562. จาก http://thaiastro.nectec.or.th/library/article/242/
-
11227 รู้หรือไม่? อาการคันสัมพันธ์กับจิตใจ /article-biology/item/11227-2019-12-19-06-06-58เพิ่มในรายการโปรด
-
คำที่เกี่ยวข้อง