ยังไม่ทันได้รู้จักก็จะสูญพันธุ์เสียแล้ว
คำสั่งซื้อสัตว์น่ารักๆ ในตลาดค้าสัตว์ผิดกฎหมายทำให้ประชากรลิงลมหน้าตาจิ้มลิ้มในอินโดนีเซียลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เพียงแค่สัตว์ที่เราเคยเห็นหน้าค่าตาเท่านั้น ยังมีสัตว์ตะกูลลิงอีกหลายชนิดที่เราอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน ก็กำลังจะสูญพันธุ์ไป บางชนิดอาศัยอยู่ในพื้นที่จำเพาะอันโดดเดี่ยว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงถิ่นที่อยู่หรือประชากรเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลกระทบมหาศาล
มีสัตว์ตระกูลไพรเมท (primate) หรือตระกูลลิงตัวใดบ้างกำลังจะสูญพันธุ์ไปโดยที่เรายังไม่ทันจะได้ทำความรู้จัก? บีบีซีนิวส์ได้รวบรวมไว้ ดังนี้
1.ลิงลม (Slow lorises) หรือชื่อวิทยาศาสตร์ นิคติซีบัส เอสพีพี (Nycticebus spp)
ด้วยความน่ารักคล้ายทารก รูปร่างเหมือนเด็กอ่อน มีดวงตากลมโตและมือเล็กจิ๋วเกือบเหมือนมือของคน แอนนา เนการิส (Anna Nekaris) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องลิงลมจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดบรูกส์ (Oxford Brookes University) ในอังกฤษ ให้ความเห็นว่าเป็นเหตุผลที่คนจากโลกตะวันตกหลงเสน่ห์สัตว์ชนิดนี้ และเป็นความเอ็นดูที่นำไปสู่การสูญพันธุ์ และทันทีที่ปรากฏคลิปความน่ารักของลิงลมใน “ยูทูป” ก็ส่งผลให้คำสั่งซื้อลิงลมเพิ่มสูงลิ่ว
ลิงลมเป็นสัตว์หากินกลางคืนและเป็นสัตว์กินเนื้อ พบได้ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีหางยาว มีกระดูกสันหลังพิเศษ และมีมือที่เก็บซ่อนนิ้วเพื่อให้มันจับเหยื่อและเคลื่อนที่ไปทั่วได้โดยไม่เป็นที่สังเกต นอกจากนี้ยังมีพิษที่ซ่อนอยู่ในข้อศอก ที่ลิงลมจะใช้ผสมกับน้ำลายเมื่อกัด ซึ่ง ศ.คอลิน โกรฟส์ (Professor Colin Groves) จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (Australian National University) กล่าวว่าเมื่อนำไปเป็นสัตว์เลี้ยง จึงต้องถอนฟันหน้าและเขี้ยวของลิงลมออก
ลิงลม (ภาพประกอบทั้งหมดจากบีบีซีนิวส์)
อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) หรือไซเตส (CITES) กำหนดว่าห้ามซื้อขายสัตว์ชนิดนี้อย่างเด็ดขาด แต่เนการิสก็พบว่าลิงลมถูกจับใส่กล่องและถูกขายอย่างไร้มนุษยธรรมบนถนนในกรุงจาร์กาตา อินโดนีเซีย โดยสัตว์ชนิดนี้ถูกขายให้คนรวยในอินโดนีเซีย รัสเซีย จีนและญี่ปุ่น
เนการิสกล่าวว่าเกาะชวาเป็นจุดที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และมีคนร่ำรวยจำนวนมากที่พยายามและอยากได้ลิงลมไว้เป็นสัตว์เลี้ยงแปลกๆ ตอนนี้มีลิงลม 5 ชนิดหรือสปีชีส์ที่ถูกค้นพบแล้ว โดยลิงลมชวา (Javan slow loris) เป็นชนิดที่เสี่ยงสูญพันธุ์มากที่สุด ส่วนลิงลมชนิดอื่นก็ถูกคุกคามจากการค้าสัตว์ผิดกฎหมายเช่นกัน
2. ลิงแคระกาลาโกรอนโด (Rondo dwarf galago) หรือ กาลาโก รอนโดเอนซิส (Galago rondoensis)
ลิงแคระกาลาโกรอนโด
เมื่อผู้คนนึกถึงสัตว์ตระกูลไพรเมทก็จะนึกถึงลิงชิมป์และกอริลลา แต่ลืมลิงกาลาโกเหล่านี้ แต่สัตว์หากินกลางคืนจากแทนซาเนียชนิดนี้ก็มีดำรงชีวิตบนสายวิวัฒนาการที่เร่งด่วน โดยแยกสายจากลิงลมเมื่อ 40 ล้านปีก่อน สัตว์หากินกลางคืนชนิดนี้เล็กจิ๋วมาก และหนักไม่ถึง 100 กรัม อีกทั้งยังมีเสียงร้องที่ไพเราะ สามารถกระโดด ซึ่งลิงลมทำไม่ได้ และถึงแม้ไม่ถูกล่าแต่ก็เสี่ยงสูญพันธุ์ เนื่องจากประชากรของลิงชนิดนี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ไม่ถึง 100 ตารางกิโลเมตร พวกมันกำลังทุกข์ร้อนจากการสูญเสียที่อยู่อาศัย
3.ลิงทาร์เซียร์ส (Tarsiers) หรือ ทาร์เซียส เอสพีพี (Tarsius spp)
สัตว์หากินกลางคืนตัวนี้เป็นไพรเมทที่มีขนาดเล็กสุดบนโลกใบนี้ แต่มีชนิดที่รู้จักแล้วถึง 10 สปีชีส์ หนึ่งในนั้นคือ ลิงทาร์เซียร์สเกาะเซียอู (Siau Island tarsier) กำลังอยู่ในวิกฤตใกล้สูญพันธุ์ และติดอยู่ในบัญชีแดงวิกฤตเสี่ยงสูญพันธุ์ของสหพันธ์นานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature)
ลิงทาร์เซียร์ส (Tarsiers)
ลิงทาร์เซียสดังกล่าวที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ทราเซียส ทัมปารา (Tarsius tumpara) ซึ่งไมรอน เชเกลเล (Myron Shekelle) นักไพรเมทวิทยา กล่าวว่า ลิงทราเซียสชนิดกำลังเสี่ยงสูญพันธุ์จากการสูญเสียที่อยู่อาศัย และบอกด้วยว่าทั้งลิงทราเซียสและลิงลมต่างเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้า กลับขั้วกับการสูญเสียถิ่นที่อยู่อย่างสิ้นเชิง และเขายังกล่าวถึงความยากลำบากในการทำให้คนจำนวนมากเข้าใจว่าเรื่องนี้ยากแค่ไหน การออกกฏหมายและบังคับให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยง่าย บางพื้นที่ประสบความสำเร็จในการอนุรักษ์แต่ก็เป็นพื้นที่ส่วนน้อย ในขณะที่การทำลายล้างกลับเป็นฝ่ายมีชัยเสมอ
ด้วยพื้นที่อาศัยของลิงลมที่อยู่ในเขตภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น และหากเกิดการปะทุขึ้นมาก็สามารถกวาดล้างสิ่งมีชีวิตให้หายไปได้อย่างมาก แต่นักอนุรักษ์ก็ยังต้องเผชิญปัญหาอื่นอีกนั่นคือ “พรานในท้องถิ่น” โดยลิงจิ๋วชนิดนี้จะถูกล่าไปทำเมนูย่างที่เสิร์ฟพร้อมด้วยซอสรสจัดจ้าน ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองที่เรียกว่า “โตลา-โตลา” (tola-tola) ซึ่งจากสิ่งที่เชเกลเลรู้นั้นคนท้องถิ่นจะให้ความสนใจอาหารพื้นเมืองจากสัตว์ป่านี้ในฐานะเมนูเพิ่มความเป็นชาย
4.ลิงจมูกเชิดพม่า (Burmese snub-nosed monkey) หรือ ไรโนพิเธคัส (Rhinopithecus strykeri)
ลิงจมูกเชิดพม่า
นักวิทยาศาสตร์จำแนกลิงชนิดนี้ได้เมื่อพบพรานท้องถิ่นทางตอนเหนือของพม่าพร้อมกับหนังและกระโหลกของลิง ซึ่งลักษณะพิเศษของลิงชนิดนี้คือมี กระจุกขนสีขาวที่หู และมีหนวดที่คาง มีริมฝีปากยื่นออกมาและกว้างผิดปกติ แล้วก็มีรูจมูกเชิดขึ้น
วินเซนต์ นิชมัน (Vincent Nijman) ผู้เชี่ยวชาญไพรเมทจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดบรูกส์ กล่าวว่าผู้ที่ทำการจำแนกลิงชนิดนี้เชื่อว่ามีลิงดังกล่าวเหลือไม่เกิน 200 ตัว โดยเพิ่งมีการพบและจำแนกชนิดเมื่อปี 2010 และภายใน 5 ปีก็มีโอกาสสูญพันธุ์ได้ โดยเขาเชื่อว่าเมื่อ 2-3 ร้อยปีก่อนน่าจะมีลิงชนิดนี้อยู่หลายพันตัวอยู่ทั่วภาคเหนือของพม่า นอกจากนี้ลิงจมูกเชิดสกุลอื่นๆ ซึ่งเป็นสัตว์ประจำถิ่นในจีนและเวียดนามก็ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงเช่นกัน
ไถ้าคุณเป็นไพรเมทในเวียดนาม ลาว หรือตอนล่างของจีน เรื่องราวของคุณคงไม่เป็นไปในทิศทางที่ดีนัก เหลือแค่ว่าจะถึงเวลาที่คุณจะจากไปเมื่อไร และถ้ามองไปยังภูมิภาคอื่นอย่างมาสดากัสการ์ มันจะเป็นเรื่องของการแข่งกับเวลา ว่าใครจะไปถึงก่อนกัน ระหว่าง นักวิทยาศาสตร์ นักล่าสัตว์หรือนายพราน” นิชมันให้ความเห็น
5. ลิงคีปันจิ (Kipunji) หรือ รุงเวเซบัส คีปันจิ(Rungwecebus kipunji)
ลิงคีปันจิ
ขอบคุณข้อมูลจาก ASTV ผู้จัดการออนไลน์
-
2984 ยังไม่ทันได้รู้จักก็จะสูญพันธุ์เสียแล้ว /article-biology/item/2984-animal750เพิ่มในรายการโปรด