...น้ำผึ้ง...

สุนทร  ตรีนันทวัน

รู้จักน้ำผึ้งกันไหมครับ  เคยกินน้ำผึ้งกัน  บ้างไหมครับ   คิดว่าคนส่วนใหญ่เคยเห็นและ  เคยกินกันมาแล้ว

น้ำผึ้งที่จริงเป็นผลผลิตจากต่อมน้ำหวาน  ของดอไม้ต่าง ๆ โดยมีผึ้งเป็นตัวนำมาไว้ในรัง  ผึ้งครับ  เรื่องราวของน้ำผึ้งมีการเล่าขานมา  ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว  ในแง่ของสารอาหาร  ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของร่างกาย  เชื่อกัน  ว่าน้ำผึ้งเป็นสิ่งที่ชูกำลัง  เป็นยาอายุวัฒนะ

น้ำผึ้ง                     100   กรัม  ให้พลังงาน   314  กิโลแคลอรี

น้ำตาลทรายขาว         100   กรัม   ให้พลังงาน   380  กิโลแคลอรี

ทั้งนี้ก็เพราะว่าน้ำผึ้งมีน้ำประกอบอยู่ด้วยถึง  1  ส่วนใน  6  ส่วน

กลิ่นและรส น้ำผึ้งมี กลิ่นและรสเฉพาะอย่างแตกต่างกันไป  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ  ชนิดของดอกไม้ที่ผึ้งบินไปเก็บน้ำหวานมา  เช่น  ทางภาคเหนือมีการปลูกลำใยกันมาก  น้ำผึ้งมีกลิ่นของลำไยอยู่ด้วย  นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีกลิ่นหอมพิเศษเฉพาะ  นิยมใช้น้ำผึ้งผสมปรุงอาหาร  หรือเครื่องดื่มกันทั่ว ๆ ไป

องค์ประกอบของน้ำผึ้ง  จากการวิเคราะห์ทดลอง  พบว่า  น้ำผึ้งประกอบด้วย

- น้ำตาลฟรุคโตส                           38  %

- น้ำตาลกลูโคส                             31 %

- น้ำตาลชูโครส                               1 %

ซึ่งน้ำตาลทั้งสามอย่างนี้ร่างกายของคนเราสามารถดูดซึมได้ง่าย  นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ อีกบ้างนับว่าเป็นข้อดีของน้ำผึ้ง  คือ มีความหวานและมีความเข้มข้นสูงมาก เก็บไว้ได้นานไม่บูดไม่เสีย  เพราะเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ  ไม่สามารถเจริญได้ในน้ำผึ้งธรรมชาติที่มีความเข้มข้นมาก

เซลล์ของจุลิทรีย์ เช่น  แบคทีเรีย  ที่ตกลงไปในน้ำผึ้งจะตายหมด  ทั้งนี้เพราะว่าภายในเซลล์ของแบคทีเรียมีความเข้มข้นน้อยกว่า  น้ำผึ้ง  น้ำในเซลล์แบคทีเรียจึงซึมออกมานอกเซลล์  แบคทีเรีย  แบคทีเรียจึงตายหมด

แม้แต่เซลล์ยีสต์  ก็ไม่สามารถเจริญได้ในน้ำผึ้งเช่นกัน  เพราะความเข้มข้นของน้ำผึ้งสูงกว่าภายในเซลล์ยีสต์มาก

ในน้ำผึ้งมีความชื้นประมาณ14%– 18% และมีpH คือความเป็นกรด– เบสประมาณ  3.2 – 4.5  ซึ่งก็สามารถป้ องกันการเจริญของแบคทีเรียได้

ปัจจุบันประชาชนนิยมน้ำผึ้งกันมากทั่วโลก  จึงมีการเลี้ยงผึ้งกันอย่างกว้างขวาง  แม้แต่ไทยเราก็มีการเลี้ยงผึ้งกันมากเช่นกัน  ครับ