มะเดื่อฝรั่ง...ในเมืองไทย
....มะเดื่อฝรั่ง ในเมืองไทย....
สุนทร ตรีนันทวัน
ผลไม้ชนิดหนึ่งที่คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้จัก เคยได้ยินชื่อแต่ไม่เคยเห็นของจริง ผลไม้ชนิดนี้ก็คือ มะเดื่อ ครับ มะเดื่อของไทยที่เรารู้จักมานานแล้วนั้น เป็นลูกเล็ก ๆ และมักมีแมลงไปวางไข่ในผลมะเดื่อ แต่มะเดื่อที่ผมจะกล่าวถึงในที่นี้คือ มะเดื่อฝรั่ง ครับ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่รู้จักกันดีครับ เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพของคนเรา
มะเดื่อฝรั่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ficus casica Linn อยู่ในวงศ์ Moraceae มะเดื่อฝรั่งหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ฟิก (Figs) เป็นพืชกึ่งร้อนตระกูลเดียวกับพวกหม่อน เป็นผลไม้ที่รู้จักกันดีเป็นเวลานานแล้วในแถบยุโรป ประเทศตุรกี กรีซ อิตาลี สเปน มักนิยมปลูกทางตะวันตกของทวีปเอเชีย และถ้าปลูกเป็นการค้าจะปลูกในที่ราบลุ่มน้ำแถบเมดิเตอเรเนียน และยังเป็นที่นิยมกันในประเทศอินเดีย สหรัฐอเมริกา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ ใบเป็นใบเดี่ยวค่อนข้างหนา ขอบใบหยัก 3 – 5 หยักหรือตรงผิวใบด้านบนหยาบ เป็นพืชที่ชอบแสงแดดตลอดวัน ไม่ชอบร่มเงา
ผลสุกจะมีลักษณะกรอบ เนื้อในสีเหลืองเข้ม น่ารับประทานมาก เมล็ดมีขนาดเล็ก กรุบกรอบ รับประทานได้ทั้งผล
ในประเทศไทย มีการนำมะเดื่อฝรั่งมาปลูก เมื่อประมาณ 25 ปีมาแล้ว โดยความร่วมมือกันระหว่าง 2 หน่วยงาน คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมูลนิธิโครงการหลวง เป็นการปลูกมะเดื่อฝรั่ง เพื่อต้องการสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับราษฎรที่เป็นชาวไทยภูเขา ใน พ.ศ. 2547 ได้นำพันธุ์มะเดื่อฝรั่ง จากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 5 สายพันธุ์เข้ามาปลูก คือ พันธุ์ดาโกต้า ลิซ่า ซูก้า ครอฟินล์ และ พันธุ์บราวน์เทอร์กี่ โดยนำมาปลูกขยายพันธุ์ที่ สถานีเกษตรหลวงปางดะ จังหวัดเชียงใหม่ และใน ปี พ.ศ. 2548 ก็ได้มีการศึกษาวิจัยทดสอบการปลูกมะเดื่อฝรั่งในโรงเรือนและนอกโรงเรือน เพื่อศึกษาการเจริญเติบโตที่แปลงวิจัยสถานีเกษตรหลวงปางดะ ดร.ณรงค์ พิพัฒนวงศ์ หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า จากผลการวิจัยพบว่าการปลูกในโรงเรือนให้ผลดีกว่าการปลูกนอกโรงเรือน เนื่องจากการปลูกนอกโรงเรือนจะมีสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงมากและเสี่ยงต่อโรคพืช และแมลงศัตรูพืช
มะเดื่อฝรั่ง จัดอยู่ในสิบอันดับแรกของผลไม้สุขภาพ เป็นพืชที่อุดมด้วยวิตามิน และเกลือแร่ที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย เช่น วิตามิน เอ วิตามินบี1 วิตามิน บี 2 วิตามินซี มีธาตุแคลเซียม โพแตสเซียม ฟอสฟอรัส และมีธาตุเหล็กสูงมาก ไม่มีไขมัน ไม่มีคอเลสเตอรอล และยังมีสมบัติในการสร้างสมดุลระหว่างความเป็นกรด – เบส มีน้ำตาลธรรมชาติมากถึง 83% ได้แก่ น้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตสและซูโครส ถึงร้อยละ 50 35 และ 10 ตามลำดับ
มีเอนไซม์ชื่อ ฟิคติน (Fictin) ซึ่งสามารถย่อยเนื้อได้ดี มีเส้นใยสูง ช่วยในการกำจัดของเสียในร่างกายและการขับถ่ายดีขึ้น ป้องกันนิ่ว และที่สำคัญคือมีสารยับยั้งป้องกันการเกิดมะเร็ง ช่วยระงับการเจริญเติบโตของมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย ดังนั้นจึงเรียกมะเดื่อฝรั่งว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพแท้จริงครับ.
-
553 มะเดื่อฝรั่ง...ในเมืองไทย /article-biology/item/553-ficus-casica-linnเพิ่มในรายการโปรด