มารู้จัก...เครื่องหอม
มารู้จัก...เครื่องหอม
สุนทร ตรีนันทวัน
หลายคนคงจะทราบกันบ้างแล้วนะครับ เครื่องหอมคืออะไร แต่บางคนอาจจยังไม่ทราบว่าคืออะไร เป็นสิ่งที่สนใจน่าศึกษา เรามาทำความรู้จักเครื่องหอมกันนะครับ เครื่องหอมมีมาตั้งแต่สมัยโบราณหลายพันปีแล้ว แต่ก่อนอื่นนะครับ ผมอยากจะทำความเข้าใจกับคำ “เครื่องหอม” และ “เครื่องสำอาง” ก่อนเพราะ 2 คำนี้ต่างกัน แต่หลาย ๆ คน คงเข้าใจไม่ชัดเจน
เครื่องหอม หมายถึงสิ่งของหรือวัตถุอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งกลิ่นหอมสามารถรับความรู้สึกได้ด้วยการดม ส่วนเครื่องสำอาง หมายถึง สิ่งของหรือวัตถุอีกประเภทหนึ่ง ที่นำมาตกแต่งหรือปกปิดผิวกายที่ไม่สวย ให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น เครื่องสำอางไม่จำเป็นจะต้องมีกลิ่นหอมก็ได้
เครื่องหอม ตามประวัติมีมาตั้งนานประมาณ 5000 ปีแล้ว ชาวอียิปต์สมัยนั้น ได้ใช้ยางไม้ชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมมาประดับกาย และได้คิดค้นเป็นนักผสมเครื่องหอมชาติแรกของโลก ใช้ยางไม้ต่าง ๆ มาผสมเข้าด้วยกัน รวมทั้งใช้เนื้อไม้หอมบางชนิดมาป่นผสมกันเป็นเครื่องหอมเรียกว่า กาฟี ชาวอียิปต์สมัยโบราณใช้เผาให้กลิ่นหอมเพื่อบวงสรวงเทพเจ้าต่าง ๆ ในสมัยนั้น
ต่อมามีการคิดค้นพัฒนาเครื่องหอม โดยใช้ส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ดอกไม้ เนื้อไม้บางชนิดมาต้ม คั้น เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยออกมาแล้วนำน้ำมันหอมนั้นมาใช้ประโยชน์ต่อไป ปัจจุบันนี้มีการวิจัยพัฒนา สกัดน้ำมันหอมระเหยออกมาทำเป็นน้ำหอมต่าง ๆ มีกลิ่นหอมที่แตกต่างกันไป มากมายหลายชนิด
ปัจจุบันนี้นะครับ เขาแบ่งน้ำหอมออกเป็นระดับหรือเป็นชั้น ๆ หรือเป็นเกรดของน้ำหอมนั่นเอง
ชั้นที่ 1 เป็นน้ำหอมประเภทที่เรียกกันว่า เพอร์ฟูม เป็นน้ำหอมที่มีอัตราความเข้มข้นของหัวน้ำหอม ตั้งแต่ 5 – 20 % ละลายอยู่ในแอลกอฮอล์
ชั้นที่ 2 เป็นน้ำหอมประเภทที่เรียกว่า โลชั่น คือรองลงมาจากเพอร์ฟูม มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอม 2 – 5 % ละลายอยู่ในแอลกอฮอล์ประมาณ 75 – 90 % และมีน้ำกลั่นใช้ละลายปน
ชั้นที่ 3 เป็นน้ำหอมที่เรียกกันว่า โอเดอโคโลญ ซึ่งที่จริงแล้วเป็นการเรียกที่ผิดแต่อนุโลมเพราะเรียกกันจนติดปากแล้ว ที่ถูกเขาจะเรียกว่า เพอร์ฟูมโคโลญ มากกว่ามีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมเพียง 0.5% และแอลกอฮอล์มีเพียง 60 – 90%
โอเดอโคโลญ ไม่ใช่น้ำหอมเพราะขาดคุณสมบัติของความเป็นน้ำหอม คือ กลิ่นของมันจะระเหยและจางหายไปในเวลาอันรวดเร็วมาก ไม่คงทนและก็จะไม่มีความหอมอีกเลย
โอเดอโคโลญนั้น ชาวอิตาลี่คนหนึ่งที่ย้ายไปอยู่ที่เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี เป็นคนผลิตขึ้นเป็นครั้งแรก อาจจะมีกลิ่นหอมของดอกไม้ ใบไม้ หรือผิวส้ม ใช้ดมแก้วิงเวียน ดมแล้วทำให้สดชื่น
ปัจจุบันนี้น้ำหอมมีมากมายหลายยี่ห้อ มีกลิ่นหลากหลาย ใส่ขวดรูปร่างสวยงามขนาดต่าง ๆ กัน ราคาก็ต่างกันไปด้วย
ก็เลือกเอาว่าจะสวยแท้ๆยั่งยืนแบบธรรมชาติ หรือสวยแบบต้องใช้เครื่องสำอางมาตกแต่งหรือมาปกปิดอำพราง
-
556 มารู้จัก...เครื่องหอม /article-biology/item/556-fragrancesเพิ่มในรายการโปรด