ความเสี่ยงของอาหารมังสวิรัติในทารก
เด็กทารกเป็นวัยที่ควรได้รับปริมาณอาหารที่เหมาะสมและมีสารอาหารที่สมดุลกับความต้องการของร่างกาย แม้ว่าการดูแลเด็กทารกในเรื่องของอาหารจะเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่การรับประทานอาหารต่าง ๆ ไม่ได้มีข้อจำกัดอย่างเคร่งครัด นั่นจึงทำให้อาหารมังสวิรัติเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่เด็ก ๆ สามารถรับประทานได้ อย่างไรก็ดีมีหลักฐานสนับสนุนว่า อาหารมังสวิรัติอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เด็กทารกไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอต่อร่างกาย
ภาพ เด็กทารกกับการทานอาหารที่ควรระวัง
ที่มา https://pixabay.com ,Ajale
เด็กทารกต้องการสารอาหารจำนวนมาก ซึ่งผู้ปกครองอาจต้องเพิ่มน้ำหนักของเด็ก ๆ เป็น 3 เท่าในช่วง 12 เดือนแรก และเพื่อให้เด็กมีสารอาหารเพียงพอต่อการสนับสนุนการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง กระดูก เลือด และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้ รวมทั้งมีความสมดุลของสารอาหารต่าง ๆ ที่เหมาะสม ดังนั้นการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ด้วยการรับประทานไขมันน้อยและเพิ่มอาหารที่มีไฟเบอร์มากขึ้นอย่างอาหารมังสวิรัตินั้น จึงไม่เหมาะสมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
องค์การอนามัยโลกส่งเสริมให้เด็กทารกดื่มน้ำนมจากแม่ในช่วง 6 เดือนแรก เนื่องจากในน้ำนมแม่จะมีสารอาหารทั้งหมดที่ร่างกายต้องการ และหลังจากช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว เด็กต้องเริ่มต้นรับประทานอาหารเสริมที่มีคุณภาพควบคู่ไปกับน้ำนมแม่อย่างน้อยในช่วง 1 ปีแรก ทั้งนี้อาหารของเด็กทารกควรประกอบด้วยแหล่งโปรตีนและไขมันที่ดี ร่วมกับผักและผลไม้ และแม้ว่าเด็กทารกจะไม่ได้รับกากใยอาหาร แต่ก็สามารถเติมได้โดยที่ไม่ขาดสารอาหารชนิดอื่น ๆ อย่างไรก็ดีไม่ควรให้เด็กรับประทานอาหารแปรรูปและอาหารที่เติมเกลือเพิ่ม
น้ำตาลมีประโยชน์ต่อความต้องการพลังงานของร่างกาย แต่ควรเป็นส่วนประกอบของอาหารที่มีสารอาหารอื่น ๆ ร่วมด้วย สิ่งที่ควรคำนึงอยู่เสมอก็คือ ยิ่งเด็กรับประทานอาหารที่มีความหลากหลายมากขึ้น โอกาสที่พวกเขาจะขาดสารอาหารก็จะน้อยลง อย่างไรก็ดี คงเป็นเรื่องยากที่ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติหรือชาววีแกนจะได้รับโปรตีนที่เพียงพอ เนื่องด้วยโดยประมาณครึ่งหนึ่งของโปรตีนที่คนในประเทศที่พัฒนาแล้วรับประทานนั้น ล้วนแล้วมาจากพืช
เป็นความจริงที่พืช (ยกเว้นส่วนของเมล็ด) ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนใหญ่ และมีกรดอะมิโนที่จำเป็นในปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (และถั่วเหลือง) แต่ทั้งนี้อาหารจากพืชควรมีแหล่งโปรตีนรวมอยู่ เช่น มื้ออาหารของถั่วอบบนขนมปัง, ถั่วและข้าว, และพาสต้าและถั่ว "โบโลเนส" นั่นจะช่วยให้ทารกได้รับสารอาหารที่หลากหลายและเพียงพอต่อความต้องการ
วิตามินและแร่ธาตุ
ปัญหาของการรับประทานพืชเป็นหลักก็คือ การได้รับวิตามินและแร่ธาตุบางอย่าง เช่น เหล็ก แคลเซียม ไอโอดีน สังกะสีวิตามินบี 12 และวิตามินดี ที่เพียงพอ เนื่องจากในพืช แร่ธาตุเหล่านี้ไม่เพียงถูกจำกัดการพบอยู่ในพืชบางชนิด แต่ยังเป็นเรื่องยากมากยิ่งขึ้นที่ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารเมื่อมันอยู่ในอาหารประเภทเส้นใย แต่เนื่องจากวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้สามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์จำพวกนมและไข่ นั่นจึงทำให้อาหารมังสวิรัติที่หลากหลายจึงไม่น่าเป็นห่วง เนื่องด้วยทารกยังคงได้รับสารอาหารที่ดี
การได้รับธาตุเหล็กเป็นสิ่งที่ควรตระหนักเมื่อเด็กเล็กเริ่มรับประทานอาหารแข็ง ๆ ด้วยพวกเขาต้องการสัดส่วนของธาตุเหล็กที่มากกว่าเด็กโตและผู้ใหญ่ แต่ทารกสามารถได้รับธาตุเหล็กจากไข่, ผักสีเขียวเข้ม เช่น บรอกโคลี และหากพวกเขาไม่มีอาการแพ้อาหารจำพวกถั่ว การรับประทานพัลส์ เช่น ถั่ว เนยถั่ว ก็ช่วยให้ทารกได้รับธาตุเหล็กได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ยากมากขึ้นสำหรับผู้ที่เป็นวีแกน (ทานมังสวิรัติ) ซึ่งแม้ว่าอาหารวีแกนมีความหลากหลาย แต่ก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกได้ เช่น โรคโลหิตจาง (Anemia) จากการขาดธาตุเหล็กเป็นภาวะขาดสารอาหารที่พบมากที่สุดทั่วโลก
การไม่รับประทานนมหรือไข่ของชาววีแกน เป็นการจำกัดการได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น ทั้งนี้อาหารของชาววีแกนเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำ นั่นจึงทำให้แหล่งพลังงานสำคัญสำหรับร่างกายที่กำลังเติบโตจึงมีขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังอาจได้รับน้ำตาลธรรมชาติลดลงด้วยเนื่องจากน้ำตาลแลคโตส (lactose) เป็นแหล่งน้ำตาลธรรมชาติที่อยู่ในนม
หากไม่รับประทานผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แหล่งอาหารที่จำเป็นคือ วิตามินบี 12 ที่ควรเสริมเข้าไปให้เด็กทารก เนื่องจากการได้รับวิตามินไม่เพียงพออาจทำให้เส้นประสาทเสียหายได้ ทั้งนี้ยังมีไอโอดีนซึ่งเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการด้านจิตใจทั้งนี้ผู้ปกครองสามารถเติมเกลือไอโอดีนในอาหารได้ แต่เป็นวิธีการที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กทารก เพราะการเสริมไอโอดีนมีความเสี่ยงมากเกินไป อย่างไรก็ตามทางออกหนึ่งของการเสริมไอโอดีนในเด็กทารกคือ การรับประทานสาหร่ายทะเล ซึ่งให้ประโยชน์ที่หลากหลาย แม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการเรียนรู้วิธีการประกอบอาหารในครัว
อาหารที่มีพืชอย่างเดียวไม่ได้สมบูรณ์แบบที่สุด
เด็กทารกมีความยืดหยุ่นอย่างน่าประหลาดใจ พวกเขาอยู่รอดในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสมได้ แต่สิ่งที่ต้องการคือ การส่งเสริมการเติบโตและการพัฒนาการที่เหมาะสมจากการได้รับสารอาหารจากอาหารที่เพียงพอ ดังนั้นอาหารจากพืชเพียงอย่างเดียวไม่สามารถตอบสนองความต้องการทั้งหมดของทารกได้ อย่างไรก็ตามหากพ่อแม่มีทัศนคติที่เหมาะสมและเป็นผู้รับประทานอาหารมังสวิรัติหรือเป็นชาววีแกนที่มีเหตุผลว่า เด็กทารกไม่สามารถรับประทานอาหารมังสวิรัติส่วนใหญ่ได้หลากหลาย สิ่งนี้อาจช่วยให้เด็กทารกในครอบครัวของผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติหรือชาววีแกนยังคงได้รับสารอาหารที่เหมาะสม ตลอดจนมีพัฒนาการและการเติบโตที่สมวัย
แหล่งที่มา
Shirley Hinde and Ruth Fairchild. (2018, December 15). Why vegan diets for babies come with significant risks. Retrieved February 21, 2019, from https://theconversation.com/why-vegan-diets-for-babies-come-with-significant-risks-108466
Eat well. Retrieved February 21, 2019, from https://www.nhs.uk/live-well/eat-well/
-
9833 ความเสี่ยงของอาหารมังสวิรัติในทารก /article-biology/item/9833-2019-02-21-09-00-55เพิ่มในรายการโปรด