โทษของการบูร
ยาดม ยาหม่อง พิมเสนน้ำ หรือยาบรรเทาอาการวิงเวียนใกล้ตัวในรูปแบบต่าง ๆ ที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป และมักเห็นกลุ่มคนทั่วไปมักใช้เป็นประจำ เราอาจคิดว่ามันน่าจะเห็นสิ่งของคู่กายสำหรับกลุ่มคนสูงวัย แต่เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งนี้ยังพบสิ่งของพกพาติดตัวกันสำหรับกลุ่มเด็กหรือเยาวชนจนถึงวัยทำงานอีกด้วย มองดูแล้วกลับกลายเป็นของฮิตตามแฟชั่นมากกว่ายาที่ไว้สำหรับพกติดตัวเมื่อเกิดอาการเพียงเท่านั้น ⊂ ∉
ด้วยเหตุที่มีการออกแบบให้ดูทันสมัย ขนาดพกพาได้ ว่ากันแล้วยาดมในปัจจุบันอาจถูกใช้งานผิดลักษณะคือ ใช้ดมเพื่อผ่อนคลายจนเสียบุคลิกภาพมากกว่าบรรเทาอาการมึนงงวิงเวียนศรีษะหรือตามที่สรรพคุณบนฉลากแจ้งเอาไว้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่ากังวลอยู่เหมือนกันเพราะรู้หรือไม่ว่า ในยาดมและยาหม่องเหล่านั้นอาจมีอันตรายต่อร่างกายได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว หากสูดดมเข้าสู่ร่างกายหรือสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงมากจนเกินไป
ภาพ การบูร
ที่มา www.todayhealth.org/food-health/สมุนไพรเพื่อสุขภาพ/การบูร-ธรรมชาติ-หอมเย็น.html
คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าส่วนประกอบที่สำคัญที่มีอยู่ในยาหม่องและยาดมอย่างการบูรที่หลาย ๆ คนรู้จัก และอาจเข้าใจว่าเป็นสมุนไพรให้คุณมากกว่าโทษ แต่บอกให้รู้ไว้ได้เลยว่าอย่าวางใจไปเชียว เพราะการบูรที่เรารู้จักนั้นอาจทำให้ยาดมยาหม่องเปลี่ยนจากให้คุณเป็นโทษอย่างมหัน ซึ่งอาจนำไปสู่โรคภัยให้แก่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว เพราะการบูรเป็นสารกระตุ้นในระบบประสาทชนิดหนึ่ง ที่ทำให้เกิดการเสพติดได้ ดังจะเห็นได้จากพฤติกรรมการพกติดตัวของผู้ใช้นั่นเอง
การบูร มีลักษณะทางกายภาพเป็นผลึกเล็ก ๆ ที่มีลักษณะใส โปร่งแสง หรือมีสีขาว มีกลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัว เป็นสารประกอบอินทรีย์ ประเภทมอโนเทอร์พีนคีโทน มีการสลายตัวได้จากการระเหิดอย่างช้า ๆ เมื่อทิ้งไว้ในอากาศ หรือระเหยได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับไอน้ำ ละลายในน้ำได้ยาก และไม่ละลายในกลีเซอรีน มีผลทำให้เกิดความรู้สึกเย็นสดชื่นเมื่อได้สัมผัสหรือสูดดม และการที่สัมผัสกับกลิ่นที่เข้มข้นบ่อย ๆ ของการบูรนั้น อาจนำมาซึ่งอาการแพ้หรืออักเสบได้ เช่น โพรงจมูกอักเสบ ติดเชื้อในโพรงจมูก ไซนัสอักเสบ เยื่อบุโพรงจมูกเสียหาย และการระคายเคืองที่อาจรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบก็สามารถเป็นไปได้
นอกจากนี้ การบูรยังมีสรรพคุณมีฤทธิ์เป็นยาชาและยาต้านจุลินทรีย์ สำหรับผู้ที่เกิดอาการแพ้ชนิดรุนแรงซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นระบบประสาทโดยเฉพาะระบบประสาทส่วนกลาง และในขณะเดียวกันก็พบว่าการสูดดมการบูรยังมีผลต่อการทำงานของตับอีกด้วย เพราะการบูรมีฤทธิ์ที่สามารถซึมซับผ่านผิวหนังได้ดี หากลองสังเกตได้จากลักษณะอาการเมื่อมีการใช้การบูรทาบริเวณศรีษะ หน้าอก และตามบริเวณผิวหนังต่าง ๆ เพื่อแก้อาการต่าง ๆ เช่น อาการคัน อาการปวดเมื่อย เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้อาจมีผลรุนแรงได้ถึงอาการชัก หากทาโดยใช้ปริมาณมากเกินไป
เห็นไหมว่า การใช้ยาดมยาหม่องซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญอย่างการบูรมีความสำคัญอย่างมาก ไม่ใช่แต่จะให้คุณอย่างเดียวแต่ยังให้โทษร้ายแรงหากใช้โดยไม่ระมัดระวัง ดังนั้น ต้องใช้อย่างถูกวิธี ระมัดระวัง และไม่สูดดมติดต่อกันเป็นเวลานาน ใช้เมื่อมีความจำเป็นเพียงเท่านั้น
แหล่งที่มา
GR Online. ใช้ผิดชีวิตเปลี่ยน! ‘ยาดม’ ภัยเงียบใกล้ตัว.สืบค้นเมื่อ 22 เมษายน 2561, จาก
https://mgronline.com/goodhealth/detail/9590000119261
โทษของการบูรที่คุณอาจไม่เคยรู้. สืบค้นเมื่อ 22 เมษายน 2561, จาก
https://www.liuzhi.co.th/blog/post/view/id/49/?___SID=U
รองศาสตราจารย์ ยุวดี วงษ์กระจ่าง .บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนยาดมมีอันตรายหรือไม่.สืบค้นเมื่อ 22 เมษายน 2561, จาก
http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/106/ยาดมมีอันตรายหรือไม่/
การบูร (ธรรมชาติ) หอมเย็น. สืบค้นเมื่อ 22 เมษายน 2561, จาก
https://www.liuzhi.co.th/blog/post/view/id/49/?___SID=U
-
8401 โทษของการบูร /article-chemistry/item/8401-2018-06-01-02-54-00เพิ่มในรายการโปรด