วิวัฒนาการของกล้องดูดาว
เคยสงสัยกันไหมว่าวิวัฒนาการของกล้องดูดาวนั้นมีกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร จนกระทั่งวงการดาราศาสตร์มีการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่สุดถือว่าเป็นการปฏิวัติแบบก้าวกระโดดที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อมีนักประดิษฐ์ได้มีการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องสำหรับส่องดูวัตถุที่ไกลออกไปบนท้องฟ้าให้เสมือนอยู่ไกลแค่เพียงเอื้อมมือ หากนับย้อนเวลากลับไปราวๆ 400 ปีที่ผ่านมานักดาราศาสตร์ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ (Telescope) ทำการสำรวจท้องฟ้า และนับตั้งแต่นั้นมนุษย์ได้ทำการประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ (Telescope) ตัวแรกขึ้นมา และใช้กล้องโทรทรรศน์นั่นสำรวจวัตถุบนท้องฟ้าต่าง ๆ ในช่วงเวลากลางคืน อยากรู้หรือไม่ว่ากล้องโทรทรรศน์ (Telescope) หรือ กล้องดูดาวมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ภาพกล้องดูดาว
ที่มา https://www.pexels.com/th-th/photo/1720080/
จากอดีตจนถึงปัจจุบันของนักโบราณคดีวิทยาศาสตร์ ได้ค้นพบเอกสารซึ่งเป็นใบสิทธิบัตรการคิดค้นประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ (Telescope) ตัวแรกและถูกสร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1608 (พ.ศ. 2151) ซึ่งก็ยังเป็นที่สงสัยและถกเถียงกันในวงการวิทยาศาสตร์ว่าใครเป็นผู้คิดค้นและประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาคนแรกกันแน่ ซึ่งจากหลักฐานที่มีการค้นพบในปัจจุบันนั้นทำให้หลายๆคนเชื่อว่า ฮานส์ ลิพเพอร์ฮาย (Hans Lippershey) เป็นบุคคลคนแรกที่ประดิษฐ์คิดค้นกล้องโทรทรรศน์ (Telescope) แต่จากหลักฐานหนึ่งที่ปรากฏพบว่ามีชายอีกท่านหนึ่งเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นกล้องโทรทรรศน์ (Telescope) ก่อนฮานส์ ลิพเพอร์ฮาย (Hans Lippershey) ถึง 8 ปี นั่นก็คือ ซาคาไรส์ แจนซ์เซน (Sacharias Janssen) แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานใดยืนยันได้ชัดเจนจึงทำให้ลิพเพอร์ฮายได้รับการยอมรับมากกว่าแจนซ์เซน และนักวิชาการส่วนใหญ่นั้นเชื่อว่าลิพเพอร์ฮายเป็นผู้คิดค้นคุณสมบัติของเลนส์ โดยวิธีการนำเลนส์ 2 ตัว มาวางซ้อนกันทำให้สามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และต่อมาได้นำหลักการนี้มาสร้างเป็นกล้องส่องทางไกลขึ้นเป็นครั้งแรก ในยุคนั้นอุปกรณ์ชิ้นนี้ถูกเรียกว่า “ท่อขยาย” และต่อมาจึงได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นกล้องโทรทรรศน์ (Telescope)
กล้องโทรทรรศน์ (Telescope) ปรากฏตัวครั้งแรกในประเทศเนเธอแลนด์ ในเดือน ตุลาคม ค.ศ. 1608 (พ.ศ. 2151) ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวประกอบด้วยเลนส์นูนและเลนส์เว้าในท่อ จึงทำให้สามารถขยายวัตถุได้ถึง 3-4 เท่า ต่อมา กาลิเลโอซึ่งไม่ได้เป็นผู้คิดค้นประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ (Telescope) เป็นคนแรก แต่กาลิเลโอได้ออกแบบและสร้างกล้องโทรทรรศน์ (Telescope) ที่มีกำลังขยายที่มากขึ้นประมาณ 20 เท่า และนำเสนอให้ลูกค้าของเขากาลิเลโอเป็นผู้ผลิตเครื่องเครื่องมือที่มีความเชี่ยวชาญและกล้องโทรทรรศน์ (Telescope) จึงมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “กล้องดูดาวแบบกาลิเลโอ” (Galileo’s Telescope) การเพิ่มกำลังขยาย ของกล้องโทรทรรศน์ แบบหักเหแสงนี้ แปรตามระยะโฟกัสของเลนส์วัตถุ นั่นคือ การทำให้กำลังขยาย ของกล้องดูดาวเพิ่มขึ้น ระยะโฟกัสจะต้องมากขึ้น เลนส์ก็ต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น และความยาวของกล้อง ก็ต้องมากตามไปด้วย
กล้องโทรทรรศน์ (Telescope) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ขยายวัตถุบนท้องฟ้าโดยอาศัยหลักการรวมกันของแสง เพื่อให้สามารถมองเห็นวัตถุบนท้องฟ้าที่อย่าไกลออกไปที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดขึ้น และมีขนาดใหญ่ขึ้น กล้องโทรทรรศน์ (Telescope) ประกอบด้วยเลนส์นูนสองชุดทำงานร่วมกัน หรือ กระจกเงาเว้าทำงานร่วมกับเลนส์นูน เลนส์นูนหรือกระจกเงาเว้าขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านใกล้วัตถุทำหน้าที่รวมแสง ส่วนเลนส์นูนที่อยู่ใกล้ตาทำหน้าที่เพิ่มกำลังขยาย การเพิ่มกำลังรวมแสงช่วยให้นักดาราศาสตร์มองเห็นวัตถุที่มีความสว่างน้อย การเพิ่มกำลังขยายช่วยให้นักดาราศาสตร์สามารถมองเห็นรายละเอียดของวัตถุมากขึ้น
ประเภทของกล้องโทรทรรศน์ (Telescope) มี 3 ประเภท
-
กล้องโทรทรรศน์ แบบหักเหแสง (Refractor Telescope) อาศัยหลักการหักเหของแสง ผ่านเลนส์วัตถุ (Objective Lens) แล้วหักเหอีกครั้ง ผ่านเลนส์ตา (Eye piece) กล้องชนิดนี้ ค้นพบก่อนที่กาลิเลโอจะนำมาพัฒนา และนิยมใช้จนแพร่หลาย ในสมัยของกาลิเลโอ ซึ่งเหมาะสำหรับ สำรวจพื้นผิวของดวงจันทร์, ดาวเคราะห์, วงแหวนและดาวบริวารของดาวเคราะห์ เป็นต้น
-
กล้องโทรทรรศน์ แบบสะท้อนแสง (Refrector Telescope) อาศัยหลักการสะท้อนของแสง ผ่านกระจกโค้ง (Concave Objective Mirror) แล้วหักเหอีกครั้ง ผ่านเลนส์ตา (Eye piece) กล้องชนิดนี้ พัฒนาโดยไอแซ็ค นิวตัน จึงมีอีกชื่อหนึ่ง คือ กล้องโทรทรรศน์แบบนิวตัน (Newtonian Telescope) ซึ่งเหมาะสำหรับ การสำรวจกระจุกดาว, เนบิวลา, วัตถุท้องฟ้า หรือกาแล็กซีที่ค่อนข้างจาง เป็นต้น
-
กล้องโทรทรรศน์ แบบ Catadioptric (Catadioptric Telescope) อาศัยทั้งหลักการสะท้อนและการหักเหของแสง เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งกล้องชนิดนี้ ใช้ทั้งกระจกโค้งสะท้อน และเลนส์ในการหักเหของแสง เหมาะสำหรับ การสำรวจกระจุกดาว, เนบิวลา, วัตถุท้องฟ้า เป็นต้น
เราจะเห็นว่ากล้องโทรทรรศน์ (Telescope) ที่ใช้สำหรับการสำรวจ และศึกษาสิ่งที่อยู่นอกโลกนั้นมีได้มากมายหลายแบบ ไม่เฉพาะเพียงแต่ช่วงคลื่นแสง ที่มนุษย์เรามองเห็นเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การสร้างกล้องโทรทรรศน์ แบบหลายๆช่วงคลื่น (Milti-wave Telescope) ในตัวเดียวกัน ก็ยังมีข้อจำกัดทั้งด้านเทคโนโลยี และงบประมาณ รวมถึงบุคลากรที่จะใช้งานอีกด้วย จึงทำให้การสำรวจ หรือศึกษาด้วยกล้องโทรทรรศน์ โดยอาศัยที่แต่ละแบบแยกอิสระจากกัน ยังคงเป็นที่นิยมต่อไปแต่กล้องโทรทรรศน์ที่พบเห็นและรู้จักกันมากที่สุดก็คือ กล้องโทรทรรศน์ที่ทำงานในย่านความถี่ที่ตามองเห็นหรือ Optical telescope นั่นเอง
แหล่งที่มา
How Do Telescopes Work?. Retrieved May 10, 2020, from https://spaceplace.nasa.gov/telescopes/en/
วิมุติ วสะหลาย. (2005, 5 Jan). กล้องโทรทรรศน์. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2563, จาก http://thaiastro.nectec.or.th/library/article/236/
Sci-Tech. (2009, 10 Dec). ประวัติย่อของกล้องโทรทรรศน์จากหลังคาบ้านสู่อวกาศ. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2563, จาก https://www.sarakadee.com/2009/12/10/telescope/
Space Technology. กล้องส่องดูดาว. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2563, จาก https://mikejakkrit668.wordpress.com/
ศูนย์การเรียนรู้วิทยศาสตร์โลกและดาราศาสตร์. กล้องโทรทรรศน์. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2563, จาก http://www.lesa.biz/astronomy/telescope
-
11489 วิวัฒนาการของกล้องดูดาว /article-earthscience/item/11489-2020-04-21-08-12-38เพิ่มในรายการโปรด
-
คำที่เกี่ยวข้อง