อนาคตของดวงอาทิตย์
อนาคตของดวงอาทิตย์
โลกอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 149,598,023 กิโลเมตร และโคจรรอบดวงอาทิตย์โดยใช้เวลานาน365.256366 วัน ด้วยความเร็วโดยเฉลี่ย 107,220 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรารู้ว่าดวงอาทิตย์ปัจจุบันหนัก1.9889 x 1027 ตัน ซึ่งคิดเป็น 332,946 เท่าของโลก เส้นผ่าศูนย์กลางของดวงอาทิตย์ยาว1,392,140 กิโลเมตร และอุณหภูมิที่จุดศูนย์กลางสูงถึง 15,430,000 องศาเซลเซียส ในการเปล่งแสงและปลดปล่อยพลังงานความร้อน ดวงอาทิตย์ต้องเผาผลาญเชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่มันมี วินาทีละ 4 ล้านตัน นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าในอีก 5,000 ล้านปี ดวงอาทิตย์ของเราจะดับ
ปฏิกิริยานิวเคลียร์บนดวงอาทิตย์เกิดเมื่อไฮโดรเจนที่อยู่ในบริเวณแกนของดวง อาทิตย์ถูกหลอมรวมเป็นฮีเลียม ดังนั้นที่บริเวณแกนของดวงอาทิตย์จะมีธาตุฮีเลียมสะสมมากขึ้นๆ และบริเวณรอบแกนจะมีไฮโดรเจนน้อยลงๆ ในขณะที่เหตุการณ์เช่นนี้กำลังดำเนินการ ดวงอาทิตย์ของเราก็กำลังเปลี่ยนสภาพจากดาวเคราะห์เหลือง (yellow dwarf) ไปสู่ความเป็นดาวยักษ์แดง (red giant)
นัก ดาราศาสตร์ได้สังเกตเห็นว่า ดาวยักษ์แดงที่มีน้ำหนักพอๆ กับดวงอาทิตย์ ทุกดวงมีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์มาก ดาวยักษ์แดงบางดวงมีรัศมียาวถึง 150 ล้านกิโลเมตร จึงเป็นที่คาดหวังว่าวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้า เมื่อดวงอาทิตย์เป็นดาวยักษ์แดงที่สมบูรณ์ มันจะมีขนาดใหญ่จนโลกต้องถูกกลืนให้เข้าไปโคจรอยู่ภายในมันในที่สุด
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ I. J. Sackmann แห่ง California Institute of Technology และคณะได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสาร Astrophysics ระบุว่าเหตุการณ์ที่ดวงอาทิตย์จะมีขนาดใหญ่จนกลืนโลกเข้าไปภายในนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้
โดย Sackmann และคณะยอมรับว่า ดวงอาทิตย์จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมากในอนาคต จนสามารถกลืนดาวพุธที่โคจรอยู่ใกล้มันที่สุดให้เข้าไปอยู่ในตัวมันได้ แต่ ก่อนที่โลกจะถูกกลืนตามไปด้วยนั้น ตัวดวงอาทิตย์เองได้สูญเสียน้ำหนักไปมาก ดังนั้น แรงดึงดูดระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์จะลดลงมากและเมื่อแรงดึงดูดลดลง โลกจะโคจรห่างจากดวงอาทิตย์ออกมาโดยรัศมีวงโคจรใหม่ที่ยาวกว่ารัศมีวงโคจรปัจจุบันมาก
คณะนักวิจัยทีมนี้ยังทำนายว่า ในอีก 4,000 ล้านปีข้างหน้าปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงจะหยุด และปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่มีการเผาผลาญฮีเลียมจะเกิด ในขณะนั้นดวงอาทิตย์จะมีขนาดใหญ่เป็น 10 เท่าของปัจจุบัน และมีสภาพเป็นดาวยักษ์แดงที่สมบูรณ์ โดยมีอุณหภูมิที่จุดศูนย์กลางสูงถึง 100 ล้านองศาเซลเซียส และเมื่อน้ำหนักของดวงอาทิตย์ลดลงถึง 28 เปอร์เซ็นต์ รัศมีวงโคจรของโลกจะเพิ่มขึ้น 38 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นอันว่าโลกของเราปลอดภัยจากการถูกดวงอาทิตย์กลืน
แต่ดวงอาทิตย์จะยังคงสุกสว่างมากขึ้นๆ เมื่อดวงอาทิตย์สุกสว่างกว่าปัจจุบัน 2,349 เท่าและมีขนาดใหญ่ครึ่งฟ้าเมื่อมองบนโลก ความร้อนอันมหาศาลจากดวงอาทิตย์จะทำลายชีวิตทุกรูปแบบ และมหาสมุทรจะแห้งขอด จากนั้นไปอีก 160 ล้านปี ดวงอาทิตย์จะเย็นลงๆ จนกลายสภาพเป็นดาวแคระขาว(white dwarf) ในที่สุด…….
Sackmann กับคณะได้หยุดการทำนายแล้วเมื่อถึงขั้นนี้
-
2169 อนาคตของดวงอาทิตย์ /article-earthscience/item/2169-the-future-of-the-sunเพิ่มในรายการโปรด