แอล-คาร์นิทีน กับการลดน้ำหนัก



ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการลดน้ำหนักกำลังเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ที่อยากมีหุ่นดีแต่ไม่ชอบออกกำลัง กายได้เป็นอย่างดี ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งรูปแบบของผลิตภัณฑ์ และชนิดของสารสำคัญที่จะนำมาใช้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมน้ำหนัก รูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องตลาดมีทั้งในรูปแบบเม็ด รูปแบบผงพร้อมชงเป็นเครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งรูปแบบเจลลี่สามารถรับประทานได้ทันที ส่วนการพัฒนาชนิดของสารสำคัญที่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักนั้น มีทั้งการนำสมุนไพรและแร่ธาตุชนิดต่างๆ มาผสมในผลิตภัณฑ์ สารสำคัญตัวหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้คือ แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine)



โดยปกติแล้วแอล-คาร์นิทีนเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถสร้างได้เอง จากกรดอะมิโน 2 ชนิดคือ แอล-ไลซีน (L-lysine) และเมไธโอนีน (methionine) โดยจะต้องมีวิตามินซี วิตามินบี 6 (Pyridoxin) วิตามินบี 3 (Niacin) และธาตเหล็กร่วมในกระบวนการสร้างแอลคาร์นิทีนด้วย แต่หากขาดสารตั้งต้นและสารอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยร่วมดังกล่าวข้างต้นแม้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็อาจจะส่งผลให้ ร่างกายมีปริมาณแอล-คาร์นิทีนไม่เพียงพอกับความต้องการ กระบวนการสร้างแอล-คาร์นิทีนนี้จะเกิดขึ้นภายในตับและไต จากนั้นจะถูกลำเลียงไปเก็บไว้ที่กล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้อแขน ขา กล้ามเนื้อหัวใจ สมองและสเปิร์ม นอกจากแอล-คาร์นิทีนที่ร่างกายสร้างขึ้นได้แล้ว เรายังพบแอล-คาร์นิทีนในอาหารที่รับประทาน เช่น เนื้อสัตว์ นม ผลิตภัณฑ์จากนม ผลไม้ เช่น กล้วย อะโวกาโด เป็นต้น ธัญพืช ผักใบเขียว ถั่วต่างๆ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วหมัก

แอล-คาร์นิทีนช่วยลดร้ำหนักได้อย่างไร

แอล-คาร์นิทีนช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงานโดยที่แอล-คาร์นิทีนจะช่วยนำส่งไขมันผ่านผนังเซลล์ไปยังไมโตคอนเดรีย เพื่อเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงานนำไปใช้ในการทำงานของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย การได้รับแอล-คาร์นิทีนที่เพียงพอจะช่วยทำให้ไขมันถูกเผาผลาญมากขึ้นแทนที่จะสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้น จึงเกิดแนวคิดว่าถ้าร่างกายได้รับแอล-คาร์นิทีนมากขึ้นก็น่าที่จะเกิดการเผา ผลาญไขมันได้มากขึ้นและมีพลังงานมากขึ้นด้วย จึงได้มีการนำแอล-คาร์นิทีนมาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อ การลดน้ำหนัก และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับนักกีฬา

จากคุณประโยชน์ที่น่าทึ่งของแอล-คาร์นิทีนที่กล่าวมา หลายท่านคงมีความสนใจที่จะรับประทานแอล-คาร์นิทีนกันแล้ว แต่ทุกอย่างย่อมมีทั้งประโยชน์และโทษเสมอเช่นเดียวกับแอล-คาร์นิทีน ดังจะเห็นว่าในบางประเทศ เช่น ประเทศแคนาดาไม่อนุญาตให้จำหน่ายและนำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสม ของแอล-คาร์นิทีนเนื่องจากยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย ดังนั้น ผู้ปริโภคจึงควรตระหนักถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายได้ เช่น อาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น มีกลิ่นตัว เกิดผื่นแดง สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้อาหารจำพวกไข่ นมหรือข้าวสาลีไม่ควรรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของแอล-คาร์ นิทีนเป็นอันขาด รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับและไตโดยเฉพาะ เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี และสตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการใช้เช่นกัน นอกจากนี้ แอล-คาร์นิทีนอาจจะทำปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ที่รับประทานร่วมกัน ดังนั้น ในการใช้แต่ละครั้งควรอยู่ในความควบคุมดูแลของแพทย์จะปลอดภัยกว่า

ตารางแสดงปริมาณแอล-คาร์นิทีนในอาหาร 100 กรัม

ศิรินันท์ ทับทิมเทศฝ่ายเภสัชและผลิต
ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว.
ที่มาข้อมูล : http://www.tistr.or.th