ธรรมชาติบำบัดโรคมะเร็ง ตอนที่1
ธรรมชาติบำบัดโรคมะเร็ง ตอนที่1
ณ เวลานี้ “มะเร็ง” ได้กลายเป็นปัญหาทางสุขภาพที่น่าหวั่นวิตกยิ่งสำหรับมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทยที่นับวัน สถิติและตัวเลขผู้ป่วยด้วยโรคนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว
จากสถิติย้อนหลังของกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานเอาไว้ว่า คนไทยทั่วประเทศเป็นมะเร็งประมาณปีละกว่า 90,000 คน และเสียชีวิตตกอยู่ที่ประมาณ 30,000-40,000 คนต่อปี ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงอย่างยิ่ง
ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องทนทุกข์ทรมานจากการเจ็บปวด ทั้งจากเซลล์มะเร็งเอง และวิธีการรักษาเพื่อหยุดยั้งการแพร่ของโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำคีโม
ดังนั้น ในสัปดาห์นี้ จึงขอนำผู้รักสุขภาพทุกท่านไปกันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียง เหนือกัน เพราะที่นี่เขาได้มีการประยุกต์นำ “ธรรมชาติ” มาใช้ในการบำบัดรักษาอาการเจ็บปวดจากมะเร็ง รวมกระทั่งโรคร้ายของคนเมืองอื่นๆ อาทิ เบาเหวาน ภูมิแพ้ ไขมันในเส้นเลือดสูง โรคอ้วน ฯลฯ และถือเป็นโรงพยาบาลนำร่องที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
โรงพยาบาลที่อยากจะกล่าวถึงในที่นี้ก็คือ โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี น.พ.สมนึก ศิริพานทอง หัวหน้าฝ่ายการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกของโรงพยาบาล มาบอกเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังกัน
คุณหมอสมนึก เริ่มต้นด้วยการปูพื้นฐานและให้ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งให้ฟังกันเป็นลำดับ แรกว่า ในทางการแพทย์นั้น มะเร็งเป็นผลมาจากการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับระดับยีนในร่างกายของคนเรา คือ มีความผิดปกติในการแบ่งเซลล์ ซึ่งถ้าเป็นเซลล์ปกติเวลาแบ่งเซลล์เสร็จก็จะหยุด แต่เซลล์มะเร็งมีความร้ายกาจกว่านั้นมาก เนื่องจากจะสามารถขยายและลุกลามไปได้เรื่อยๆ เช่น อาจเกิดขึ้นที่เต้านม ตับ สมอง ไต จากนั้นก็แบ่งตัวไปเรื่อยๆ จนเมื่อถึงระดับหนึ่ง คือ เซลล์มีขนาดและน้ำหนักประมาณสัก 1 กิโลกรัม ก็จะทำให้ร่างกายของคนที่มีมะเร็งอยู่อ่อนแอลง และเสียชีวิตในที่สุด
ตามทฤษฎีชีววิทยาสมัยใหม่ สรุปว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็ง ก็คือ สภาวะแวดล้อมที่เป็นพิษ ทั้งดิน น้ำและอากาศ ยิ่งในประเทศไทยด้วยแล้ว ต้องบอกว่า เจอปัญหาเรื่องนี้ไปเต็มๆ เพราะไม่ว่าหันไปทางไหนก็ล้วนแล้วแต่เจอมลพิษทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยควันพิษจากรถยนต์ หรือความเน่าเสียของแม่น้ำลำคลอง หรือต่างจังหวัดที่มีการใช้สารเคมีในการทำเกษตรกรรม ซึ่งทำให้เกิดการตกค้างและสะสมอยู่ในดินและในน้ำเป็นจำนวนมาก
คุณหมอสมนึก ยกตัวอย่างที่ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า ที่ตำบลหัวเรือ ซึ่งเป็นตำบลหนึ่งของอุบลราชธานีนั้น เป็นพื้นที่ที่มีการปลูกพริกมากที่สุด และส่งผลทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแถบนั้นมีอายุสั้นมาก เนื่องจากมีการใช้สารเคมีในการทำเกษตรกรรมสูง โดยมะเร็งยอดนิยมของคนเมืองอุบลฯ ก็คือ มะเร็งตับ รองลงมา คือ มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ตามลำดับ
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งในคนอีสานโดยภาพรวมนั้น คุณหมอสมนึกบอกว่า มี 2 ประเด็นหลักๆ ด้วยกัน
1. ประเด็นที่หนึ่ง เกิดจาการธัญพืชที่มีความชื้นมากเกินไป ซึ่งเจ้าตัวร้ายที่น่าสะพรึงกลัวมากสุดคือ “ถั่วลิสง”
อย่างไรก็ตาม เจ้าถั่วลิสงไม่ได้น่ากลัวสำหรับคนอีสานเท่านั้น แต่คนกรุงเทพฯ ก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน เพราะสถาบันวิจัยอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรมเคยเก็บตัวอย่าง ถั่วลิสงที่ใส่ในก๋วยเตี๋ยวไปตรวจหาปริมาณสารก่อมะเร็ง และพบว่ามีค่าสูงมากถึง 9 เท่า จากมาตรฐานที่กำหนดไว้ ซึ่งเมื่อบริโภคสะสมเข้าไปในร่างกายเรื่อยๆ ก็จะทำให้ยีนตับของเราผิดปกติและกลายเป็นเซลล์ก่อมะเร็งได้
2. ประเด็นที่สอง เกิดจากการบริโภคปลาร้า ปลาเจ่า แหนม กุนเชียง อาหารยอดนิยม ซึ่งอาหารเหล่านี้จะมีสารที่ไนเตรต และเมื่อรับประทานเข้าไปมากๆ ก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นไนโตรซามีนที่ทำให้ “ท่อน้ำดี” ผิดปกติและกลายเป็นมะเร็งในที่สุด
นอก จากนี้ ยังรวมไปถึงอาหารประเภทปิ้ง ย่างที่ไหม้เกรียมเข้าไปเป็นนิจศีลอีกด้วย เรียกว่า คนอีสานนั้นตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งค่อนข้างมาก “โดยธรรมชาติ สัตว์ที่เสียชีวิตแล้ว เนื้อก็จะต้องเสีย ต้องเน่าไป เมื่อปลาตาย ไก่ตาย หมูตาย หรือแม้กระทั่งคนตายก็ต้องเน่า แต่เมื่อเราต้องการถนอมอาหาร โดยใส่เกลือเข้าไป เกลือก็จะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดสารไนเตรตขึ้น และสุดท้ายก็จะกลายเป็นสารก่อมะเร็งโดยธรรมชาติของขบวนการป้องกันการเน่าของ เนื้อขึ้น”
-
2141 ธรรมชาติบำบัดโรคมะเร็ง ตอนที่1 /article-science/item/2141-cancer605เพิ่มในรายการโปรด