บ้านสุขสันต์วันฝนโปรย
“ฝนมาแล้ว” ...... ปีนี้ข่าวว่าฝนมาเร็วกว่าปกติ แต่ความจริงฝนก็หลงฤดูแอบตกมาก่อนหน้านี้เรื่อยๆ อยู่แล้ว หลายคนมีความสุขกับวันฝนโปรย ขณะที่อีกหลายคนบ่นว่าเฉอะแฉะเปียกปอน แถมยังสาดซัดและรั่วซึมเข้ามาทำความเสียหายภายในบ้านอีกด้วย “บ้านเรา” ฉบับนี้เลยขอนำเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการดูแล ป้องกันและรักษาบ้านของเราให้พร้อมรับมือกับหน้าฝนนี้มาฝากกัน เพื่อให้ทุกท่านมีความสุขในบ้านสุขสันต์ตลอดช่วงหน้าฝนนี้ค่ะ
รู้ก่อน รีบแก้ ปัญหา พื้นฐานของบ้านช่วงหน้าฝนคือ การรั่วซึม ไม่ว่าจะเป็นหลังคา ฝ้า ผนัง หรือช่วงรอยต่อของวัสดุต่างๆ หากพบรอยแตกร้าว รั่วซึม หรือมีคาบน้ำ ให้รีบเรียกช่างที่มีความชำนาญมาซ่อมแซมแก้ไขเป็นการด่วน ยิ่งทำได้ในช่วงต้นฤดูฝนยิ่งดี เพราะสะดวกต่อการซ่อมแซมปรับปรุง และยังได้งานเรียบร้อยดังใจ ขณะเดียวกันในจุดที่โดนฝนสาดอยู่เสมอ เช่น ลานจอดรถหน้าบ้าน ระเบียงบ้าน ก็ควรทำชายคาหรือกันสาดยื่นออกมาเพื่อกันฝน ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากว่าการต้องมาคอยซ่อมแซมหรือเปลี่ยนพวกบานประตู หน้าต่าง กันบ่อยๆ แล้วก็อย่าลืมย้ายบรรดาเฟอร์นิเจอร์สนามต่างๆ หรือหาผ้าใบมาคลุมเพื่อหลบฝนด้วย
สะอาดไว้ก่อน หมั่นทำความสะอาดพื้นรอบๆ บ้าน เพื่อขจัดเศษดินโคลนและคราบตะไคร่ ป้องกันสมาชิกในบ้านลื่นหกล้ม หากเป็นพื้นที่เรียบและลื่นอยู่แล้ว เช่น คอนกรีตขัดเรียบ อาจเคลือบน้ำยากันลื่นบนพื้นผิวนั้น หรือแก้ไขด้วยการปูแผ่นพื้นไม้สำเร็จรูป โดยเลือกชนิด โครงรองพื้นเป็นพลาสติกซึ่งจะระบายน้ำและความชื้นได้ดีกว่า พร้อมเก็บกวาดเศษใบไม้รวมทั้งขยะต่างๆ ที่อาจไหลเทไปทับถมกองรวมกันจนอุดตันในแนวท่อระบายน้ำ ถ้าเปิดฝาท่อระบายน้ำเพื่อตักเศษขยะและโคลนดินต่างๆ ขึ้นมาด้วย จะช่วยให้น้ำทิ้งไหลสะดวกยิ่งขึ้น
ป้องกันสัตว์ ขจัดแหล่งพาหะ บ้านสุขสันต์ควรปราศจากแหล่งเพราะเชื้อโรคด้วย โดยควรปิดและคว่ำภาชนะที่น้ำขังได้ อาทิ โอ่ง กะละมัง ถัง ไห เพื่อป้องกันยุงมาวางไข่ นอกจากนี้ยังควรระวังเรื่องสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ที่จะเล็ดรอดเข้ามาในบ้านได้ โดยปิดช่องทางระบายต่างๆ ให้มิดชิดอาจโรยปูนขาวรอบๆ ซึ่งจะทำให้สัตว์เลื้อยคลานหนีไป หรืออุดรูทางที่มดเดินด้วยพริกป่น ใบสะระแหน่แห้ง หรือบอแร็กซ์ พร้อมจัดเก็บเศษอาหารและขยะให้สะอาดเรียบร้อย เพื่อจะได้ไม่เป็นต้นเหตุล่อใจให้แมว หนู นก เข้ามารื้อค้นขยะจนสกปรกเลอะเทอะ
ได้เวลาสวนสวย ความจริงฤดูกาลนี้เหมาะสำหรับการปลูกต้นไม้ใหม่ๆ โดยเฉพาะต้นไม้ขนาดใหญ่ หรือย้ายต้นไม้ในกระถางไปลงดิน เพราะอากาศมีความชื้นสูง และยังมีน้ำฝนมาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดิน ซึ่งเราควรหมั่นพรวนดินให้ร่วนซุยเพื่อให้ดินไม่ขังน้ำและรากจะได้ไม่เน่า สำหรับพันธุ์ไม้บางชนิดที่บอบบาง เช่น กล้วยไม้ ก็ควรทำหลังคาหรือทำแนวกันฝนในบริเวณที่ฝนสาด ส่วนต้นไม้ใหญ่รอบๆ บ้าน อาจทำไม้ค้ำยันให้ลำต้นตั้งตรงมั่นคงยิ่งขึ้น และควรตัดกิ่งใหญ่ที่ใกล้ตัวบ้านให้สั้น เพื่อป้องกันการขาดหัก หรือโค่นล้มจากลมพายุแรงๆ
-
2289 บ้านสุขสันต์วันฝนโปรย /article-science/item/2289-2011-10-18-13-44-04เพิ่มในรายการโปรด