ขี้หู สร้างจากต่อมสร้างขี้หู ซึ่งอยู่ในช่องหูชั้นนอก ขี้หูมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ  มีสารต่อต้านเชื้อโรคและไม่ละลายน้ำ มีหน้าที่ช่วยปกป้องผิวหนังของช่องหูชั้นนอก และป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอม เข้าไปในช่องหู โดยปกติแล้วขี้หูจะมีกลิ่นและลักษณะเฉพาะตัวบางคนอาจมีขี้หูเปียก บางคนมีขี้หูแห้ง บางคนมีขี้หูมาก บางคนมีขี้หูน้อย  แต่โดยรวมแล้วเยื่อบุช่องหูจะสร้างขี้หูขึ้นมาและขี้หูก็จะถูกผลักโดยเยื่อบุในช่องหู ให้ออกมาด้านนอกเอง 

ภาพที่ 1 แคะหู

ที่มา : https://tribfox40.files.wordpress.com/2017/01/gettyimages-477518703.jpg?quality=85&strip=all&w=1200

          ขี้หู (ear wax) หรือที่เรียกอย่างเป็นวิชาการคือ cerumen แบ่งตามลักษณะออกได้เป็นสองประเภท คือ ขี้หูเปียก กับ ขี้หูแห้ง คนทางฝั่งเอเซียตะวันออกส่วนใหญ่จะมีขี้หูแบบแห้ง โดยเฉพาะในภาคเหนือของจีนและคาบสมุทรเกาหลีที่คนเกือบ 100% มีขี้หูแห้ง ขณะที่คนยุโรปและคนแอฟริกาจะมีขี้หูเปียกเป็นส่วนมาก

         ขี้หูเปียกและขี้หูแห้ง ต่างกันที่ Gene ลักษณะของขี้หูถูกควบคุมด้วย Gene เพียง Gene เดียวที่ชื่อ ABCC11 ซึ่งอยู่บนโครโมโซม 16 ทำให้โลกเรา ค้นพบว่ามีขี้หู 2 ประเภท คือ แบบเปียก (wet) กับ แบบแห้ง (dry) คนส่วนใหญ่ในโลก มักมี "ขี้หูเปียก"  ส่วนน้อย ที่มีลักษณะขี้หูเป็น "ขี้หูแห้ง"  พบมากในเอเชียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น เกาหลี)

         ยีนขี้หูเปียกเป็นยีนเด่นที่ข่มยีนขี้หูแห้ง นักวิทยาศาสตร์พบว่าคนที่มีขี้หูแห้งจะมีโปรตีนที่สร้างจากยีน ABCC11 อยู่น้อยกว่าคนที่มีขี้หูเปียกมาก และนอกจากนี้หากว่ายีน ABCC11 หายไปบางส่วน คนคนนั้นก็จะมีขี้หูแห้งเช่นกัน ทำให้เชื่อได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของกรดอะมิโนตรงนั้นทำให้โปรตีนใช้การไม่ได้ ส่วนประกอบจากต่อมขี้หูที่ทำให้ขี้หูเปียกจึงขาดหายไป

ภาพที่ 2  แถบสีแสดงพันธุกรรมขี้หู
ที่มา :http://www.gbhealthwatch.com/Trait-Earwax.php

       การศึกษารหัสพันธุกรรม (DNA) พบว่า คนเกาหลีมีขี้หูแห้งมากที่สุด - กลิ่นอ่อนที่สุด, ตรงข้ามกับคนผิวดำจากแอฟริกาที่มีขี้หูเปียกที่สุด - กลิ่นแรงที่สุด จากภาพ แถบสีเทาแสดงพันธุกรรมขี้หูแบบเอเชีย (แห้ง - กลิ่นไม่แรง) = คนกลุ่มใหญ่ แถบสีดำแสดงพันธุกรรมขี้หูแบบคนนอกเอเชีย (เปียก - กลิ่นแรง) = คนกลุ่มน้อย

       ผู้เชี่ยวชาญได้ตั้งข้อสังเกตอย่างหนึ่ง คือ ต่อมผลิตขี้หูมีความสัมพันธ์กับต่อมน้ำนม คนเอเชียในจีน เกาหลี ญี่ปุ่น มองโกล อาเซียน (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) มักจะมีขี้หูแห้งด้วย มะเร็งเต้านมต่ำกว่าฝรั่ง หรือคนเชื้อสายอาฟริกันด้วย ทั้งนี้และทั้งนั้น ถ้าไม่ดื่ม (แอลกอฮอล์) หนัก, ควบคุมน้ำหนักไว้ ไม่ให้น้ำหนักเกิน ไม่อ้วน และไม่อ้วนลงพุง, จะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมได้ดีขึ้น

       จากทั้งหมดที่กล่าวมา หลายคนอาจจะรู้สึกว่ายีนขี้หูนี่มันช่างเป็นลักษณะที่ถ่ายทอดตรงตามกฏของเมนเดล แถมยังเป็นลักษณะใกล้ตัวที่มองสังเกตเห็นได้ง่าย ยีนขี้หูเปียกเป็นยีนดั้งเดิม การกลายพันธุ์เป็นขี้หูแห้งเพิ่งจะเกิดขึ้นในเอเซียเมื่อประมาณ 2,000 รุ่นที่แล้วนี่เอง สาเหตุที่ทำให้ยีนขี้หูแห้งแพร่กระจายไปทั่วทวีปเอเซียก็เพราะว่าลักษณะขี้หูแห้งมี fitness มากกว่าขี้หูเปียกประมาณ 1% (หมายความว่าคนที่มีขี้หูแห้งจะมีโอกาสแพร่พันธุ์มากกว่าคนขี้หูเปียกประมาณ 1% จากนั้นพวกขี้หูแห้งจากเอเซียก็แพร่กระจายไปเรื่อยๆ ชนเผ่าพื้นเมืองอินเดียแดงและอินูอิตส่วนใหญ่ก็มีขี้หูแห้ง ทำให้คนในทวีปอเมริกามีลักษณะของขี้หูเปียกและแห้งคละเคล้าปะปนกันไป

แหล่งที่มา

pakkapao. (2559, กรกฎาคม).  ขี้หูเปียก ขี้หูแห้ง กลิ่นตัว. สืบค้นเมื่อวันที่  ตุลาคม 2560. จาก
        https://pakkapao.com/earwax-and-body-odor/

Jun Ohashi  Izumi Naka  Naoyuki Tsuchiya. (2010, October).  The Impact of Natural Selection on an ABCC11 SNP Determining Earwax Type. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560. จาก
        https://academic.oup.com/mbe/article/28/1/849/987325

Paula McGrath. (2014, March).  Secretion secrets: things you didn’t know about ear wax. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560. จาก
        http://www.bbc.com/news/health-26527266

GB healthwatch. genes and me » ear wax. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560. จาก
        http://www.gbhealthwatch.com/Trait-Earwax.php

Morgan Heinrich. (2017, Feb 15).  2 Different Types of Earwax. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560. จาก
        http://info.earwaxmd.com/blog/2-different-types-of-earwax