การจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษา ( STEM Education) เป็นการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ (Construct) ได้ด้วยตนเอง ซึ่งกระบวนการเรียนรู้เป็นการบูรณาการศาสตร์ความรู้ 4 ศาสตร์วิชาเชื่อมโยงไปยังการนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ศาสตร์ความรู้ทั้งสี่ศาสตร์ได้แก่ วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าสะเต็ม (STEM) 

ภาพที่ 1 ทิศทางการศึกษา
ที่มา https://unsplash.com/ ,Susan Yin

           ในแวดวงการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในบ้านเรานั้น นอกจากการการมุ่งผลิตกำลังแรงงานเฉพาะทางเพื่อรองรับอาชีพที่ขาดแคลนในอนาคต โดยจัดระบบการศึกษาที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ด้วย สะเต็มศึกษาหรือที่เรารู้จักกันดีว่า STEM ดังความหมายที่ได้กล่าวในข้างต้นแล้วนั้น ในต่างประเทศเองก็ไม่ต่างกันมากนัก หลาย ๆ ประเทศทั่วโลกมีรูปแบบการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่แต่ยังคงอยู่ภายใต้กรอบและนโยบายของประเทศนั้น ๆ บนพื้นฐานของ STEM จึงก่อให้เกิดคำใหม่ ๆ ที่มีนิยามความหมายแตกต่างกันออกไป เช่น STEAM ย่อมาจาก ( S=Science, T=Technology, E=Engineering, A= Art, M=Mathematics ) เป็นการเพิ่ม A = Art หรือศิลปะ เข้ามาเพื่อทำให้การศึกษาแบบสะเต็มมีความอ่อนโยนโดยอาศัยหลักทางศิลปะมาช่วยกล่อมเกลาจิตใจผู้เรียน ช่วยพัฒนาและยกระดับจิตใจของผู้เรียนด้านคุณธรรมจริยธรรมให้ตระหนักถึงสังคมและส่วนรวมอีกด้วย หรือแม้แต่ ST2EAM ซึ่งย่อมาจาก ( S=Science, T=Technology, T= Transformative, E=Engineering, A= Art, M=Mathematics ) เป็นการเรียนรู้ด้วยรูปแบบสะเต็มศึกษาผสมผสานศิลปะเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ในระยะยาว นอกจากนี้ยังมี STREAM ซึ่งย่อมาจาก (S=Science, T=Technology, R=Research, E=Engineering, A= Art, M=Mathematics) เป็นการศึกษาและวิจัยด้านสะเต็มที่มุ่งเน้นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและยังผสานศิลปะเข้าไปอีกด้วย หรือแม้แต่ STEM+ ซึ่งหมายถึงการเพิ่มทักษะพิเศษ หรือทักษะเฉพาะทางให้กับผู้เรียนนอกเหนือจากการเรียนรู้ด้วยสะเต็ม เช่น ด้านจิตวิทยา, การบริหาร หรือแม้แต่สถาปัตยกรรม โดยเน้นการจัดการเรียนรู้รูปแบบนี้ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาจนถึงระดับมหาวิทยาลัยเพื่อมุ่งเน้นผลิตบัณฑิตที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป
         ในอีกแง่มุมหนึ่ง หลายประเทศมีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีอีกหลายแห่งที่ใช้คำสอดคล้องอยู่บนพื้นฐานความรู้ของสะเต็มผนวกกับศาสตร์ความรู้ด้านอื่น ๆ เพื่อเน้นการพัฒนาด้านสะเต็มศึกษา สิ่งแวดล้อม รวมถึงบริบทของสังคมเข้าไปด้วย เช่นศูนย์การเรียนรู้ STER ซึ่งย่อมาจาก (S=Science, T=Technology, E=Education, R=Research) หมายถึงศูนย์การเรียนรู้และวิจัยการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เน้นการวิจัยทางการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและส่วนรวม หรือแม้แต่ศูนย์การเรียนรู้ TEMS ที่ย่อมาจาก (T=Technology, E=Environmental, M=Mathematics, S=Science) หมายถึงศูนย์การเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ศูนย์นี้จะมุ่งเน้นการศึกษาที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลักแต่ทุกกระบวนการอยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น

แหล่งที่มา
Bybee, R.W. (2010, 27th August). What Is STEM Education?. Retrieved March 18, 2018, from http://science.sciencemag.org/content/329/5995/996
Taylor, P.C. (2018). Enriching STEM with the arts to better prepare 21st century citizens. Proceedings of the 5th International Conference for Science Educators and Teachers (ISET) 2017 (pp. 020002-1-020002-5), Phuket, Thailand. Melville, NY: AIP Publishing.
Taylor, E.(L.), & Taylor, P. C. (2017). Breaking down enlightenment silos: From STEM to ST2EAM education, and beyond. In L. Bryan & K. Tobin (Eds.), 13 Questions: Reframing education’s conversation. (pp. 455-472). Science. New York: Peter Lang.