ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลายอย่าง ที่สามารถทำให้การเล่าเรื่องนั้นส่งไปถึงความรู้สึกเป็นส่วนร่วมของในข้อมูลของผู้รับสาร ที่เรียกว่า Immersive Storytelling ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดประสบการณ์ดื่มด่ำที่ผู้รับสารจะรู้สึกมีส่วนร่วมในการรับสารในมุมมองบุคคล

ภาพ Immersive Technology
ที่มา https://pixabay.com/, JESHOOTS-com

        เทคโนโลยี Immersive เป็นเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนสำหรับบุคคล โดยใช้จอภาพสวมศีรษะ ในการแสดงภาพและเสียงของโลกเสมือน เป็นเทคโนโลยีที่ขยายความเป็นจริงหรือสร้างความเป็นจริงใหม่ เทคโนโลยี Immersive บางประเภทขยายความเป็นจริงด้วยการซ้อนทับภาพดิจิทัลหรือบุคคลอื่น สร้างความเป็นจริงเสมือนใหม่ ให้ได้ดื่มด่ำในสภาพแวดล้อมแบบดิจิทัล เทคโนโลยี Immersive เคยเป็นสิ่งที่อาจจะเคยอ่านในหนังสือแนววิทยาศาสตร์ หรือดูในภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ ปัจจุบันเทคโนโลยี Immersive มีแอปพลิเคชันมากมายและสามารถใช้งานได้โดยอย่างหลากหลายและสามารถประยุกต์ใช้ได้หลายสาขาอาชีพ

        Ernet W. Adams ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน เทคโนโลยี Immersive ได้แบ่งประเภทของเทคโนโลยี Immersive ไว้ 3 แบบ ได้แก่

1. การดื่มด่ำความเสมือนจริง ทางยุทธวิธี (Tactical immersion) เป็นการได้ประสบการณ์เมื่อได้ทำการปฏิบัติการด้านยุทธวิธี ที่ต้องใช้ทักษะต่าง ๆ ผู้เล่นรู้สึกถึงการเข้าไปในเขตพื้นที่เฉพาะ เสมือนประหนึ่งเข้าไปอยู่ในพื้นที่นั้นจริง ๆ เพื่อจะได้ผลสำเร็จหรือชัยชนะออกมา

2. การดื่มด่ำความเสมือนจริงทางกลยุทธ์ (Strategic immersion) เป็นการใช้สมองที่มีความเกี่ยวพันกับการใช้ทักษะในการควบคุมจิตใจด้วย เช่น ผู้เล่นหมากรุกจะได้สัมผัสกับการดื่มด่ำกลยุทธ์เมื่อเลือกทางออกที่ถูกต้องท่ามกลางความเป็นไปได้ที่หลากหลายและท้าทาย

3. การดื่มด่ำความเสมือนจริงแบบการเล่าเรื่อง (Narrative immersion) เป็นการที่ผู้เล่นเกิดขึ้นเมื่อรู้สึกดื่มด่ำไปกับเนื้อเรื่อง เสมือนประสบการณ์เทียม เช่นการอ่านหนังสือหรือได้ดูภาพยนตร์

       นอกจากนี้ Staffan Björk และ Jussi Holopainen ได้เสนอรูปแบบประเภทของเทคโนโลยี Immersive ได้แก่ Spatial immersion เกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นถูกกระตุ้นให้รู้สึกว่าได้ถูกเข้าไปสู่โลกเสมือนจริง  และมีความรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง

การใช้ประโยชน์เทคโนโลยี Immersive

       1. ด้านการแพทย์และสุขภาพ   ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี Immersive ซึ่งช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของผู้ป่วยในขณะที่พวกเขาดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่เบี่ยงเบนความสนใจของผู้ป่วยจากสิ่งที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยในแคนาดานักเรียนพัฒนาเกม VR ที่จะสามารถช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็ง ในระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด ซึ่งสามารถทำให้พวกเขาหันเหความสนใจจากความเจ็บปวดของพวกเขาได้ประโยชน์อีกประการหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศึกษา คือเทคโนโลยี Immersive ช่วยให้นักศึกษาแพทย์และแพทย์สามารถทำการจำลองการผ่าตัด การผ่าตัดในระยะไกล ได้ด้วยเทคโนโลยี Immersive ได้

       2. ด้านการศึกษา เทคโนโลยี Immersive ช่วยในเรื่องการดื่มด่ำกายสัมผัสของมนุษย์ ในการศึกษาความรู้สึกที่แตกต่างของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น การจำลอง VR ที่ใช้ในการฝึกอบรมนักดับเพลิง ในการจำลองนี้นักดับเพลิงจะได้รับเสื้อดับเพลิงที่เกิดขึ้นจริง และตัวควบคุม VR ที่มีรูปร่างเหมือนท่อน้ำ เสื้อคลุมจะร้อนขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของไฟในการจำลอง และท่อน้ำจะสั่นสะเทือนเนื่องจากแรงดันของน้ำ ในการจำลองนี้ความรู้สึกเห็นการได้ยินและการสัมผัสของผู้ใช้จะได้รับการปรับแต่ง หากมีการเพิ่มเครื่องกำเนิดกลิ่นลงในการจำลองแม้กระทั่งความสามารถในการดมกลิ่นของนักดับเพลิงได้ อีกทั้งเทคโนโลยี Immersive ยังช่วยให้นักเรียนสามารถทัศนศึกษาใน VR ทั้งหมดจากห้องเรียน เรียนรู้เกี่ยวกับ Roman Colosseum แล้วทัวร์โคลีเซียมที่เกิดขึ้นจริงและดูเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นเสมือนว่านักเรียนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ

       3. ด้านศิลปะและพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์หลายแห่งค้นพบว่าการใช้เทคโนโลยี Immersive ช่วยให้ผู้เยี่ยมชมมีส่วนร่วมและ รู้สึกผูกพันกับศิลปิน โดยการฟื้นฟูงานศิลปะเก่าแก่ในพิพิธภัณฑ์ให้กลายเป็นพื้นที่เสมือนจริงผู้เยี่ยมชมไม่จำเป็นต้องยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมาก ๆ เพื่อชมภาพวาดจากระยะ 5 ฟุต ผู้ชมสามารถดื่มด่ำกับ งานศิลปะที่อยู่ในสตูดิโอได้

       4. ด้านเทคโนโลยีเกม อุตสาหกรรมเกมเป็นหนึ่งในผู้สร้างรายแรกของเทคโนโลยี Immersive ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยีการเล่นเกมและการดื่มด่ำจึงกลายเป็นสิ่งที่มีความหมาย ผู้คนเริ่มตระหนักถึงประโยชน์ที่แตกต่างของเทคโนโลยี Immersive ถึงทำให้อุตสาหกรรมเกมก็ยังคงแข็งแกร่งต่อไปด้วยเทคโนโลยี Immersive การเปิดตัว Playstation VR และแม้แต่ Pokemon Go ทำให้ VR จะกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น

       5. ด้านโฆษณา การตลาดและธุรกิจ Immersive Advertising เป็นรูปแบบโฆษณาใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Immersive ผสานกับประสาทสัมผัสช่วยให้โฆษณาที่ดื่มด่ำสามารถตอบสนองต่อผู้รับสารทำให้มีประสิทธิภาพ เพราะโฆษณา Immersive นั้นมีการโต้ตอบกับผู้รับสารมากกว่า และผู้รับสารก็มีส่วนร่วมกับโฆษณามากกว่าเช่นกัน

       นอกจากนี้ เทคโนโลยี Immersive สามารถประยุกต์ใช้ในทางธุรกิจ แบรนด์ต่าง ๆ สามารถติดตั้งบูธแบบโต้ตอบในงานแสดงสินค้างานแสดงสินค้า แม้แต่การแข่งขันกีฬาที่ผู้คนสามารถลองประสบการณ์ VR โปรโมชัน ประสบการณ์การส่งเสริมการขายเหล่านี้ทำให้สร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ แสดงให้เห็นว่าลูกค้าจะรับชมฉากนี้ได้ ตัวอย่างการตลาดเชิงประสบการณ์อื่น ๆ สามารถพบได้ในงานแสดงสินค้าการท่องเที่ยว โดยจะแจกชุดหูฟังกระดาษแข็งและสนับสนุนให้ลูกค้าลองใช้วิดีโอ 360 จากจุดต่าง ๆ ของแหล่งท่องเที่ยวที่พวกเขากำลังโปรโมทได้

       จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี Immersive เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน โดยบุคคลสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Immersive ได้ในหลาย ๆ สาขาตามวัตถุประสงค์ เทคโนโลยี Immersive จึงเป็นการเรียนรู้แบบใหม่ของมนุษย์ที่ผสานความจริงและความเสมือนจริงไว้ด้วยกันอย่างลงตัวและน่าสนใจ

แหล่งที่มา

ภาสกร ใหลสกุล. (2559, 31 กรกฎาคม).  ดื่มด่ำล้ำลึกด้วย Immersive Technology.  สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2562, จาก https://tednet.wordpress.com/2015/07/31/ดื่มด่ำล้ำลึดด้วย-immersive-technology.

Cara Covarrubias. (2561).  What is Immersive Technology.  สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2562, จาก https://advrtas.com/immersive-technology.