กล่าวได้ว่าปัจจุบันนี้ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก และเรียกได้ว่าใครที่มีข้อมูลก็จะเป็นผู้ได้เปรียบ โดยไม่ว่าข้อมูลนั้นจะเป็นข้อมูลอะไรก็ตาม บทความนี้อยากนำเสนอให้เห็นความสำคัญของข้อมูลและการจัดการข้อมูลในยุคที่ข้อมูลนั้นกลายเป็นข้อมูลขนาดใหญ่เกินขีดความสามารถที่จะใช้แค่ระบบการจัดการฐานข้อมูลในการประมวลผล แต่จำเป็นต้องเปลี่ยนการบริหารจัดการข้อมูลในรูปแบบที่ใหญ่กว่า ซึ่งเป็นที่มาของบทความนี้ที่เรากำลังจะพูดกันคือ เรื่อง Big Data

ภาพ Big data
ที่มา https://pixabay.com/ , Tumisu

          ในยุคที่เราเรียกกันว่าเป็นยุคแห่งโลกดิจิทัล คุณเคยสังเกตไหมว่าการคิดหรือการตัดสินใจในการทำอะไรสักอย่างของตัวคุณเองนั้น ต้องเกิดจากการคิดวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจมากขึ้น โดยนำข้อมูลเก่าหรือข้อมูลในอดีตมาเป็นตัววัดและตัดสินใจนั่นเอง นั่นก็เพราะว่าคุณให้ความสำคัญในข้อมูล และในขณะที่โลกเราขับเคลื่อนไปด้วยข้อมูลที่ถูกจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัลกันมากขึ้น ซึ่งก็เป็นผลดีในการนำข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้นไปวิเคราะห์และประมวลผลโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้มีความถูกต้องน่าเชื่อถือมากขึ้น ทำให้การคิดและตัดสินใจนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วและถูกต้องมากยิ่งขึ้นด้วย

          แต่ในขณะเดียวกัน ข้อมูลดิจิทัลก็มีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ  ถึงระดับ เทระไบต์ (Terabyte)  อันเนื่องมาจากการเข้าถึงและการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงที่สังคมออนไลน์ที่มี Social Media มาเป็นตัวกลางมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดสารสนเทศต่าง ๆ มากมายในรูปแบบต่าง ๆ เช่น รูปภาพ วีดีโอ เป็นต้น อีกทั้งเกิดจากความเฟื่องฟูของอุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัยมากขึ้นก็เป็นเหตุทำให้อัตราการขยายตัวของข้อมูลเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล

แล้ว Big Data คืออะไร

          จากข้อมูลที่กล่าวถึงไปทั้งหมดข้างต้นทำให้เกิดเทคโนโลยีหนึ่งซึ่งเรียกว่า  Big Data  ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เก็บรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่ไว้ที่หนึ่ง ในขณะเดียวกันก็มีการใช้เทคโนโลยีการจัดการข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่นี้  ทำให้สามารถเลือกหรือคัดข้อมูลตามที่ต้องการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้ โดยส่วนใหญ่กลุ่มของเทคโนโลยีที่ใช้ในกระบวนการบริหารจัดการข้อมูล Big Data จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ การจัดเก็บข้อมูล (Storage) , การประมวลผลข้อมูล (Processing) , การวิเคราะห์ข้อมูล (Analytic)  ทั้งนี้ Big Data ยังต้องประกอบไปด้วยคุณลักษณะ 3 ประการ ดังต่อไปนี้

1. Volume : เป็นข้อมูลที่มีปริมาณมากอยู่ในระดับเทระไบต์ (Terabyte) ขึ้นไป
2. Variety : เป็นข้อมูลที่มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ตายตัว
3. Velocity : เป็นข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและรวดเร็ว

          Big data มีประโยชน์และมีความสำคัญอย่างมากในด้านการนำผลการการวิเคราะห์ข้อมูลไปใช้ ยกตัวอย่างเช่น ในด้านธุรกิจ  ด้วยระดับของการวิเคราะห์ที่ทำได้หลากหลายทำให้เราสามารถหาข้อมูลที่มีความซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย เช่น หาแนวโน้มการตลาด เทรนด์ความชอบของลูกค้า รวมไปถึงการใช้ข้อมูลเพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในการลงทุนหรือวางแผนการตลาดต่าง ๆ ได้

         นี่แหละเทคโนโลยีสำคัญ ที่จะช่วยรองรับกับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น ที่จะทำให้ผู้ใช้งานข้อมูลเหล่านั้นได้เข้าใจพฤติกรรมของแหล่งข้อมูล และช่วยทำให้สามารถพยากรณ์ข้อมูลในอนาคตได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถช่วยให้เรานำข้อมูลก่อนหน้ามาใช้วางแผนและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการพัฒนาบุคคลากรในการเรียนรู้และเข้าใจเทคโนโลยีให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้นำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต

แหล่งที่มา

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล. Big Data เทคโนโลยีสำคัญต่อการพัฒนา Smart City. สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2561. จาก www.depa.or.th/th/article/big-data-เทคโนโลยีสำคัญต่อการพัฒนา-smart-city

Good Factory Team. (2558, 4 ธันวาคม). Big Data คืออะไร ?. สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2561. จาก www.depa.or.th/th/article/big-data-เทคโนโลยีสำคัญต่อการพัฒนา-smart-city

Big Data คืออะไร ?. สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2561. จาก https://www.9experttraining.com/articles/big-data-คืออะไร

Somkiat. (2558, 3 กันยายน). Big Data :: พื้นฐานมันสำคัญมากนะ. สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2561. จาก http://www.somkiat.cc/big-data-back-to-basic/

รู้จักกับ BIG DATA และการประยุกต์ใช้ทางด้านธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2561. จาก รู้จักกับ BIG DATA และการประยุกต์ใช้ทางด้านธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2561. จาก www.bossup.co.th/site/innovation/รู้จักกับ-big-data/