การปรับตัวในการทำงานอย่างสมาร์ต ๆ
ยุคดิจิทัลเป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงที่ทุกคนต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทันต่อโลกทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ ดังที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ ในขณะที่เราทำงานกันในแต่ละวัน เทคโนโลยีก็วิ่งตามเราอยู่เสมอ ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็มาช่วยเราเนี่ยแหละ เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้เปรียบเสมือนเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้แก่เราได้เป็นอย่างดี ทำให้เราสามารถทำงานได้ดีขึ้น ง่ายขึ้น เร็วขึ้น เราเองก็ต้องเรียนรู้ให้เท่าทันเพื่อนำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดในการทำงาน
ภาพการทำงาน
https://pixabay.com ,Free-Photos
เทคโนโลยีมาพร้อมกับคำว่า “สมาร์ต” (smart) คำจำกัดความของการทำงานในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปก็ถูกบัญญัติขึ้นตามมาด้วยคือ Work smart หรือการทำงานอย่างชาญฉาด ที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ย้ำนะว่าดีกว่าแน่นอน
การทำงานในรูปแบบเดิม ๆ แบบ Work hard ทุ่มเทเพื่องานทำงานเกินเวลา มาก่อนกลับทีหลัง ทำงานดึก หอบงานกลับบ้าน ผลลัพธ์ที่ได้คือ งานเสร็จสำเร็จ หัวหน้าชื่นชม ได้เลื่อนตำแหน่ง แต่สุดท้ายกลับต้องสูญเสียอะไรต่าง ๆ มากมาย เช่น เสียเวลาให้กับตัวเองและครบครัว เสียสุขภาพทั้งกายและใจ เพราะเครียดจนทำให้สุขภาพเสื่อมโทรม และยังมีอีกมายมายซึ่งตัวคุณเองก็รู้ดี
ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเปลี่ยน ก้าวข้ามสู่การทำงานอย่างชาญฉลาดในแบบ Work smart ที่ทำงานอย่างเต็มที่ในเวลางาน เลิกงานได้ตามเวลา เพราะมีการวางแผนและจัดการงานอย่างเป็นระบบ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ต่างไปจากเดิมและดีกว่าคือ งานก็เสร็จ หัวหน้าชื่นชม ได้เลื่อนตำแหน่ง มีเวลาเหลือเพื่อการพักผ่อน มีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัว มีเวลาออกกำลังกาย ไม่เกิดความเครียด ทำให้สุขภาพทั้งกายและใจดีมีความสุข แข็งแรง
ทำงานอย่างไรถึงจะเรียกว่า สมาร์ต หรือชาญฉลาด ไม่ยาก! เพียงแค่คุณจัดการหรือบริหารเวลา ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำงาน โดยเริ่มต้นที่ตัวคุณเอง ดูเหมือนพูดง่ายแต่ทำยาก ก็จริง! แต่ก็คงไม่เกินความสามารถถ้าหากเราวางแผนเป็น เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในแนวทางนี้ คือการวางแผนนั่นเอง ประกอบกับเครื่องมืออันเป็นเลิศอย่างเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีให้เลือกใช้มากมายหลายสิ่ง
แต่หัวใจสำคัญจริง ๆ ก็คือการบริหารจัดการ และอย่างที่บอกไปต้องเริ่มจากตัวเองก่อน ตัวเราเองต้องรู้ว่า อะไรคือสิ่งเร่งด่วนที่ต้องเร่งทำก่อน รู้ว่าควรจะใช้ทรัพยากรอย่างไรให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด ฝึกคิดวิเคราะห์แยกแยะและบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เช่น วิเคราะห์เหตุการณ์ และแยกแยะถึงผลที่จะเกิดขึ้น รู้ว่าเลือกทำสิ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น หรือการไม่เลือกแนวทางนี้ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร การวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำจะส่งผลให้งานที่ส่งมอบไม่ผิดพลาด ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไขปรับปรุงงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในขณะเดียวกันสิ่งที่ควรนำมาเป็นเงื่อนไขในการบริหารจัดการนี้ก็คือ เรื่องของเวลาและความเร็ว เพราะในโลกของการแข่งขันผู้ใช้เวลาน้อยที่สุดย่อมได้เปรียบเสมอ ถ้าทำได้อย่างนี้แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้สวยงามเสมอ
ท้ายที่สุดและสำคัญที่สุด คือการเรียนรู้เครื่องมืออำนวยความสะดวกที่จะสามารถช่วยให้คุณทำงานอย่างสมาร์ต ๆ นั่นก็คือ เทคโนโลยี
แหล่งที่มา
Ratirita. (2562, 2 กุมภาพันธ์ ) ก้าวสู่ยุค Smart HR ใช้เทคโนโลยี และบิ๊กดาต้ามาบริหารบุคคล .สืบค้นเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2562 .จาก https://brandinside.asia/smart-hr-technology-and-big-data/
HR-Focus ร่วมกับท่านเผชิญความท้าทายของ HR ในยุค 4.0. สืบค้นเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2562 .จาก https://www.bhatarapro.com/16907383/hr-focus
People Magazine. Work smarter. สืบค้นเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2562 .จาก www.pmat.or.th/ความรู้ทรัพยากรบุคคล/1712/HR%20Dictionary/20699/gallery1/?contentid=37892
คุณจะเลือกทำงานแบบไหน Work Hard หรือ Work Smart. สืบค้นเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2562 .จาก https://th.jobsdb.com/th-th/articles/ทำงานแบบ-work-hard-work-smart
-
9845 การปรับตัวในการทำงานอย่างสมาร์ต ๆ /article-technology/item/9845-conversational-platformเพิ่มในรายการโปรด