2. จากภาพแสดงพลาสมิดที่มียีนต้านยาปฏิชีวนะแอมพิซิลลิน
(
amp
R
) และยีนต้านยาปฏิชีวนะเตตราไซคลิน (
tet
R
) โดยที่
ภายในยีน
amp
R
มีตำ�แหน่งตัดจำ�เพาะของเอนไซม์
Pst
I
และภายในยีน
tet
R
มีตำ�แหน่งตัดจำ�เพาะของเอนไซม์
Bam
HI ถ้ามีชิ้น DNA แทรกภายในยีนต้านยาปฏิชีวนะใดๆ
ตรงตำ�แหน่งที่เอนไซม์ตัด จะทำ�ให้ยีนนั้นไม่ทำ�งาน
จงใส่เครื่องหมายถูก (√) หน้าข้อความที่ถูกต้อง ใส่เครื่องหมายผิด (×) หน้าข้อความที่
ไม่ถูกต้อง และขีดเส้นใต้เฉพาะคำ�หรือส่วนของข้อความที่ไม่ถูกต้อง และแก้ไขโดยตัดออก
หรือเติมคำ�หรือข้อความที่ถูกต้องลงในช่องว่าง
.....
2.1 ถ้าตัดพลาสมิดด้วยเอนไซม์
Pst
I แล้วใส่ DNA ที่ตัดด้วยเอนไซม์ชนิดเดียวกัน
แบคทีเรียที่ได้รับพลาสมิดนี้จะเจริญได้ในอาหารเลี้ยงเชื้อที่ใส่เตตราไซคลิน แต่
เจริญไม่ได้ในอาหารเลี้ยงเชื้อที่ใส่แอมพิซิลลิน
แนวการคิด
เนื่องจากเอนไซม์
Pst
I มีตำ�แหน่งตัดจำ�เพาะอยู่ภายในยีน
amp
R
ดังนั้น DNA ที่ถูกตัดด้วยเอนไซม์
Pst
I จะมีปลายที่เข้ากันได้กับพลาสมิดที่ถูกตัด
ด้วยเอนไซม์
Pst
I เหมือนกัน จึงทำ�ให้ชิ้น DNA นั้นสามารถเข้าไปแทรกภายใน
ยีน
amp
R
ได้ ส่งผลให้ยีน
amp
R
ไม่ทำ�งาน แบคทีเรียจึงไม่สามารถต้านทานต่อ
ยาปฏิชีวนะแอมพิซิลลินได้
.....
2.2 ถ้าตัดพลาสมิดด้วยเอนไซม์
Hae
III แล้วใส่ DNA ที่ตัดด้วยเอนไซม์ชนิดเดียวกัน
แบคทีเรียที่ได้รับพลาสมิดนี้จะเจริญไม่ได้ในอาหารเลี้ยงเชื้อที่ใส่ยาปฏิชีวนะเตตรา
ไซคลิน
แก้ไขเป็น
เจริญได้ในอาหารเลี้ยงเชื้อที่ใส่ยาปฏิชีวนะเตตราไซคลินและ
ยาปฏิชีวนะแอมพิซิลลิน
แนวการคิด
ถ้าตัดพลาสมิดด้วยเอนไซม์
Hae
III แล้วใส่ DNA ที่ตัดด้วยเอนไซม์
ชนิดเดียวกัน แบคทีเรียที่ได้รับพลาสมิดนี้จะเจริญได้ในอาหารเลี้ยงเชื้อที่ใส่
ยาปฏิชีวนะเตตราไซคลินและยาปฏิชีวนะแอมพิซิลลินได้ เนื่องจากเอนไซม์
Hae
III
มีตำ�แหน่งตัดจำ�เพาะอยู่ภายนอกยีน
tet
R
และยีน
amp
R
จึงไม่ส่งผลยีนต้าน
ยาปฏิชีวนะ
amp
R
tet
R
Bam
HI
Pst
I
Hae
III
√
×
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ
ชีววิทยา เล่ม 2
184