ว่าด้วยเรื่องของ “ไฝ”
ว่าด้วยเรื่องของ 'ไฝ'
การมีไฝนั้นเป็นความเชื่อมาตั้งแต่โบราณว่าคนที่มีปานหรือไฝตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายก็จะบ่งบอกถึงลักษณะที่แตกต่างกันไปรวมถึงโชคลาภวาสนาตามความเชื่อ ส่วนในทางวิทยาศาสตร์นั้น ถือว่าเป็นความผิดปกติของผิวหนัง ต่อให้คนที่มีผิวเกลี้ยงเกลาสักเพียงใด ผิวพรรณผ่องใสขนาดใดก็ต้องมีไฝฝ้า หรือขี้แมลงวันอยู่บ้างสักเม็ดสองเม็ด ส่วนใครจะมีน้อยมีมากขนาดไหน หรือเป็นไฝชนิดใดแต่ละคนก็แตกต่างกันไป แล้วไฝเกิดจากอะไรทำไมคนเราถึงมี ไปดูคำตอบที่เรานำมาฝากกันเลย…
ไฝ (Nevus or Mole) เกิดจากเมลาโนไซ (เซลล์สร้างสี) รวมตัวกันสร้างเมลานินมากผิดปกติ หรือเป็นตุ่มเนื้อที่มีขนาดแตกต่างกันไปทั้งสีและรูปร่าง สามารถเกิดได้มากกว่าหนึ่งเม็ด อาจจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่กำเนิดแต่บางคนก็มีขึ้นเมื่อตอนโตแล้ว และจะเพิ่มมากที่สุดในช่วงวัยรุ่นแต่หลังจากนั้นจะหยุดการเพิ่มจำนวน
ไฝมีหลายชนิด โดยชนิดที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ Nevocellular nevus หรือที่เรียกว่า Pigmented Nevus ซึ่งมีหลายลักษณะด้วยกัน คือ อาจจะเป็นจุดเรียบ ๆ สีน้ำตาล หรือ เกือบดำโดยมากมีขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร ถึง 1 เซนติเมตร รูปร่างกลมหรือรี หรือเป็นตุ่มนูนสีน้ำตาลหรือดำ ผิวเรียบหรือขรุขระ หรืออาจจะเป็นชนิดไม่มีสีเลยก็ได้ บางครั้งอาจมีขนงอกอยู่บนไฝด้วย ไฝประเภทต่าง ๆ ส่วนมากไม่มีอันตราย แต่ส่วนใหญ่คนมักจะนิยมเอาออกเนื่องจากเหตุผลทางด้านความสวยความงาม หรือความเชื่อทางด้านโหราศาสตร์
เซลล์ไฝ
ไฝมีหลายชนิด หลายสี สีดำพบบ่อยที่สุด มักพบเห็นเป็นตุ่มนูนเดี่ยว ๆ ขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว ประกอบด้วยเซลล์ไฝ ส่วนใหญ่มักพบบริเวณใบหน้าและคอ บางครั้งเซลล์ไฝมารวมกันเกิดปื้นนูนคล้ายปาน บางรายใหญ่ขนาดครึ่งลำตัวมีขนขึ้นยาวด้วย เรียกว่า 'ไฝยักษ์' ซึ่งชนิดนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์กลายเป็นมะเร็งได้ จึงควรตัดเม็ดที่มีขนาดใหญ่ ๆ ออก โดยวิธีการผ่าตัด และต้องเอาผิวหนังจากที่อื่นมาปิดทดแทน แต่ถ้าเป็นเม็ดเล็ก ๆ สามารถรักษาโดยการผ่าตัดออกด้วยวิธีผ่าตัดธรรมดา หรืออาจเอาออกโดยใช้แสงเลเซอร์ก็ได้
ไฝส่วนใหญ่ที่แพทย์ตัดออกให้มักเป็นในแง่ความสวยงามเท่านั้น บางคนมาตัดออกเพื่อให้โหงวเฮ้งดีขึ้น โดยมากใช้วิธีตัดออกแล้วเย็บผิวหนังบริเวณนั้น ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและไม่สิ้นเปลืองนัก หากแพทย์ไม่แน่ใจว่าไฝนั้นเป็นมะเร็งของผิวหนังหรือไม่ ก็จำเป็นต้องส่งชิ้นเนื้อที่ตัดออกมาไปให้พยาธิแพทย์ส่องกล้องตรวจดูว่า มีเซลล์มะเร็งปนอยู่หรือไม่ ไฝบางอย่างมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นมะเร็งมากกว่าทั่ว ๆ ไป เช่น ไฝที่เป็นตั้งแต่กำเนิด โดยเฉพาะที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ที่เรียกว่า 'congenital pigmented nevi' ไฝชนิดหนึ่งที่มีสีไม่สม่ำเสมอ ศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า 'dys-plastic nevi' มีโอกาสเป็นมะเร็งของผิวหนังได้มากกว่าปกติ โดยพวกนี้มักมีขนาดใหญ่กว่าไฝปกติ ซึ่งมักมีขนาดเล็กกว่ายางลบที่ติดดินสอ และมีลักษณะไม่สม่ำเสมอ
ด้านซ้ายคือไฝปกติ (Normal Mole)/ ด้านขวาคือไฝที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง (Melanoma)
ไฝชนิดใดควรกำจัด
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นไฝธรรมดา หรือไฝมะเร็ง ?
- หากอยู่ในตำแหน่งที่มองไม่เห็น เช่น ไฝที่หลัง หรือในที่ลับ เหล่านี้ ควรกำจัดออก เพราะเราไม่สามารถสังเกตเห็นการเจริญเติบโตหรือความผิดปกติได้
- ไฝที่ถูกเสียดสีบ่อยๆ เช่น ไฝบนฝ่าเท้า ควรกำจัด เพราะการที่ถูกเสียดสีเป็นประจำ โอกาสที่จะกลายเป็นเนื้อร้ายก็มีสูง
ความแตกต่างของไฝธรรมดากับไฝมะเร็ง คือ ขนาดและสี ไฝที่กลายเป็นมะเร็งจะมีสีไม่สม่ำเสมอ อาจะมีหลายสีปนกัน เช่น มีทั้งสีน้ำตาล ดำ แดง น้ำเงิน ม่วง เทา และมีสีเข้มขึ้น โตเร็ว มีเลือดออก บริเวณขรุขระจากเดิมที่เคยเรียบ
ไฝและขี้แมลงวันจะโตตามการเจริญเติบโตของร่างกาย ยิ่งปล่อยไว้รากของไฝและขี้แมลงวันก็จะลึกลงเรื่อยๆ จนกระทั่งอายุ 20 - 30 ปี จึงจะหยุดการเจริญเติบโต หากคุณมีอายุเกิน 30 ปี และไฝยังมีขนาดใหญ่ขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็ค หรือถึงแม้จะอายุน้อยแต่หากไฝโตเร็วมากก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คเช่นกัน
ปัจจัยที่ทำให้บุคคลเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง
1. ผิวขาวจัด หรือเป็นคนเผือก
2. ตากแดดจัด ๆ เป็นประจำ หรือค่อนข้างบ่อย และแต่ละครั้งที่ออกแดดจะตากแดดเป็นเวลานาน
3. ถูกแสงแดดทำร้ายผิวมากจนเกินไป
4. อยู่ในพื้นที่แดดจัด และอยู่ในเขตร้อน
5. มีไฝบนร่างกาย
6. มีรอยโรคมะเร็งผิวหนังมาก่อน หรือมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังมาก่อน
7. มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง
8. ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
9. ผิวหนังถูกรังสีอัลตราไวโอเลตทำร้ายอย่างต่อเนื่องและรุนแรง
10. เคยเข้ารับบริการทำสีผิวแทน ด้วยเครื่องฉายแสงทำสีแทนเทียม
11. เคยเข้ารับการรักษาด้วยการฉายรังสี
12. ได้รับสารหนูสะสมอย่างต่อเนื่องยาวนาน
13. คนที่เป็นโรคหนังแข็ง
14. อยู่ในพื้นที่ที่มีสารเคมีเป็นเวลานาน ๆ
หากมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของไฝ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความสวยความงาม หรือในแง่ว่าจะกลายเป็นมะเร็งหรือไม่ ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อการรักษาและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง ไฝที่มีสีแปลก ๆ หลาย ๆ สี เช่น สีแดง ขาว น้ำเงิน หรือดำอยู่ในเม็ดเดียวกัน มีโอกาสกลายเป็นมะเร็งของผิวหนังได้สูงกว่าปกติ
เนื้อหาจาก
http://pewdeeclinic.com/content.php?content_id=77
http://health.kapook.com/view132367.html
http://health.mthai.com/howto/health-care/10332.html
https://www.bumrungrad.com/th/skin-dermatology-center-bangkok-thailand/conditions/mole
ภาพจาก
http://health.mthai.com/howto/health-care/10332.html
-
6904 ว่าด้วยเรื่องของ “ไฝ” /article-biology/item/6904-2017-05-14-06-47-45เพิ่มในรายการโปรด