เมื่อพูดถึงปีที่ผ่านมาหรือปี 2015 มีข่าวๆหนึ่งที่ถูกพาดพิงเป็นที่น่าสนใจและน่าจับตามองอย่างมาก นั้นคือการสร้าง Solar Road หรือ ถนนพลังงานแสงอาทิตย์ ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งประสบความสำเร็จในการสร้างพลังงานไฟฟ้าได้จากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งอยู่บนผิวถนน เป็นประเทศแรกของโลก

Solar Road ที่ถนนของเมือง Krommenie ประเทศเนเธอร์แลนด์  ถูกติดตั้งด้วยแผงโซลาร์เซลล์และแก้วเคลือบเป็นระยะทาง 70 เมตรบนเส้นทางจักรยาน ถูกทำการทดสอบการใช้งานเป็นเวลา 6 เดือนโดยทีมวิศวกรเปิดเผยว่ามันสามารถผลิตพลังงานได้มากพอสำหรับการใช้งานไฟฟ้าของครอบครัวเล็กๆตลอด 1 ปี ซึ่งถือว่ามากกว่าที่คาดหวังไว้ โดยหากเราคิดในกรณีใช้ระบบถนนนี้ต่อปี เราสามารถคาดหวังได้มากกว่า 70 kwh ต่อตารางเมตร ต่อปีเลยทีเดียว

โดยไอเดียของ Solar road ก็คือปกติ ถนนจะถูกทำจากคอนกรีตล้วนๆ แต่คราวนี้ Solar Road จะมีการนำแผงโซลาเซลล์เข้ามาผสมด้วย โดยแผ่นคอนกรีตขนาด 2.5 x 3.5 เมตรแต่ละแผ่นประกอบด้วยแผงโซลาเซลล์แบบซิลิกอนที่มีความหนา 1 มิลลิเมตร ส่วนชั้นบนสุดจะเป็นกระจกใสเพื่อเปิดรับแสงอาทิตย์ให้ส่องเข้ามาข้างในได้ ที่สำคัญมีความแข็งแรงทนทานต่อพาหนะทุกชนิดที่วิ่งบนถนนสายนี้

สำหรับการติดตั้งนั้น ทางเนเธอร์แลนด์เลือกติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนเลนจักรยาน และได้ใช้วัสดุอย่าง กระจก ยางซิลิโคน และคอนกรีตในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แผงโซลาร์เซลล์ โดยแผงดังกล่าวสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 12 ตัน และแผงแต่ละตัวจะเชื่อมต่อเข้ากับมิเตอร์อัจฉริยะที่คอยวัดพลังงานไฟฟ้าที่ได้ ก่อนจะส่งพลังงานเหล่านั้นไปให้แก่ระบบไฟฟ้าริมถนนเพื่อให้ความสว่างในยามค่ำคืน

โดยวิศวกรผู้พัฒนา Solar Road เผยว่า ใช้เวลาถึง 5 ปีในการพัฒนาให้ระบบรองรับการทำงานในทุกสภาวะ ยกตัวอย่างเช่น หากมีแผงโซลาร์เซลล์บางแผงที่แตกหักเสียหาย หรือสกปรกจนรับแสงอาทิตย์ไม่ได้ ก็จะปิดตัวเองไปเฉพาะแผ่นนั้น ไม่กระทบต่อระบบโดยรวมทั้งหมดแต่อย่างใด

ประชากรมากกว่า 150,000 คนที่ขับขี่จักรยานบนถนนเส้นทางนี้ ทีมวิศวกรพบปัญหาเล็กๆเพียง1 ครั้งเท่านั้นคือ การแยกตัวออกของสารเคลือบที่ทำให้แผงโซลาร์เซลล์ยังติดอยู่บนถนนได้ อันเป็นผลเนื่องมาจากความผันผวนของอุณหภูมิ ซึ่งทีมวิสวกรกำลังรีบเร่งแก้ไขปัญหานี้ เพราะไม่ใช้เพียงแค่ถนนจะต้องสามารถรองรับน้ำหนักทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนการสัญจรได้ แต่ต้องสามารถรับการวิ่งผ่านอันรุนแรงของยานพาหนะได้อีกด้วย โดยพวกเขาตั้งใจที่จะออกแบบให้มันสามารถใช้งานได้อย่างน้อย 20 ปี หรือเทียบเท่ากับอายุการใช้งานของแผงเซลล์แสงอาทิตย์บนชั้นดาดฟ้า

ไม่ใช่เพียงแค่ศักยภาพที่ดีเยี่ยมของถนน Solar Road ในการผลิตพลังงานไฟฟ้าที่เพียงพอสำหรับชุมชนเล็กๆ ทีมผู้ออกแบบยังทำให้มันมีความน่าสนใจโดยออกแบบให้มีห้องปฏิบัติการ Studio Roosegaarde ที่มีหน้าที่ดูดแสงอาทิตย์ในเวลากลางวัน และปล่อยแสงไปในหลอดไฟ LED บนถนนในเวลากลางคืน เพื่อความสวยงามของถนนด้วย

นอกจากนี้โครงการนี้ มีการวางแผนขยายเพิ่มขึ้นจากความยาวเดิมที่ 70 เมตรที่ถนนในย่าน  Krommenie ให้กลายเป็น 100 เมตรในย่านอื่นๆในปีนี้อีกด้วย

 

ไม่ใช่แต่ใน เนเธอร์แลนด์เท่านั้น แต่เคยมีโครงการคล้ายๆกันนี้เกิดขึ้นมาหลากหลายประเทศแล้วทั่วโลก อย่างในบริษัทต่าประเทศก็ยังคงมีการพัฒนาเพื่อทำสิ่งนี้ให้กลายเป็นความจริงอยู่เรื่อยๆ โดยในที่นี้ขออ้างอิงจาก http://www.solarroadways.com/ ดังภาพด้านล่าง พบว่าไอเดียนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องพลังงาน และยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ โดยทางทีม Solar Roadway  ได้มีการเผยแพร่ตารางเปรียบเทียบระหว่างถนนรุ่นใหม่นี้ กับถนนรุ่นเดิมๆ ตามตารางในรูปข้างล่างนี้

นับว่าเป็นอีกความก้าวหน้าอย่างหนึ่งของนวัตกรรมบนท้องถนน แม้จะยังมีปัญหาในหลายๆได้เช่นความแข็งแกร่งของวัสดุ หรือความคุ้มค่าในการลงทุน  ซึ่งเราก็คงต้องมาดูกันต่อไปว่ามีสิ่งนี้จะถูกพัฒนาไปได้ไกลถึงแค่ไหน แล้วในอนาคตมันจะสามารถถูกนำมาใช้ในประเทศไทยด้วยได้หรือไม่

 

 

ภาพจาก

http://www.iurban.in.th/greenery/first-solar-road-way-generate-more-power-than-expect/

http://www.creativemove.com/design/worlds-first-solar-road-in-netherland/

http://www.sciencealert.com/solar-roads-in-the-netherlands-are-working-even-better-than-expected

http://www.solarroadways.com/images/Home/HM-Check.png

เนื้อหาจาก

http://www.solarroadways.com/

http://www.creativemove.com/design/worlds-first-solar-road-in-netherland/

http://www.sciencealert.com/solar-roads-in-the-netherlands-are-working-even-better-than-expected

http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000077949