จากเทคโนโลยีบนฟากฟ้าสู่พื้นดิน
โลกของเราทุกวันนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นโลกของเทคโนโลยี ซึ่งท่านผู้อ่านคงจะรู้จักเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ กันบ้างแล้ว เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีการขนส่ง เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีการผลิต เนื่องจากเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่หากพูดถึงเทคโนโลยีด้านการทหาร หลายท่านคงไม่รู้ว่ามีการพัฒนาไปอย่างไรบ้าง เนื่องจากอาจจะไกลตัวและไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน แต่ทราบหรือไม่ว่าเทคโนโลยีอันทันสมัยหลาย ๆ อย่างที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน มีจุดเริ่มต้นมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการทหาร เช่น ระบบอินเทอร์เน็ต ระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลก หรือ GPS พลังงานนิวเคลียร์ เป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยีด้านการทหารที่กำลังมีการใช้กันในปัจจุบันหรือที่กำลังพัฒนาอยู่นี้ อนาคตเราอาจจะได้ใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วยก็เป็นได้ ในบทความนี้เราจะมาติดตามเทคโนโลยีในส่วนของเครื่องบินรบ ซึ่งถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญและมีการพัฒนาที่ก้าวหน้ามากที่สุดประเภทหนึ่งของเทคโนโลยีด้านการทหาร
ถ้าพูดถึงเครื่องบินรบ หลายท่านอาจยังนึกไม่ออกว่าจะนำเทคโนโลยีใดมาใช้ทางด้านพลเรือน ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่าง 2 เทคโนโลยี นั่นคือ ระบบแสดงข้อมูลในห้องนักบินและระบบเรดาร์ ในอดีตนักบินจะต้องมองเครื่องวัดประกอบการบินที่อยู่บนแผงหน้าปัด ซึ่งมีอยู่มากมาย จากนั้นจึงนำข้อมูลที่อ่านได้มาประมวลผล เพื่อให้รับรู้สถานการณ์ต่าง ๆ ให้เป็นปัจจุบันตลอดเวลา และเพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องทันเหตุการณ์ แต่เนื่องจากเครื่องบินรบมีความเร็วสูงมาก นักบินจะมีเวลาตัดสินใจไม่มากนัก นักบินจึงอาจเกิดความเครียดจากการที่ต้องก้มลงมองที่แผงหน้าปัดพร้อม ๆ กับต้องมองที่ด้านนอกเครื่องบิน เพื่อรับรู้สถานการณ์ภายนอก จึงมีผู้คิดค้นการนำข้อมูลการบินไปแสดงบนกระจกใสที่ติดไว้ในตำแหน่งตรงหน้านักบินในระดับสายตา เรียกว่า Head-Up Display หรือ HUD ทำให้ไม่ต้องก้มลงมองที่แผงหน้าปัด นักบินสามารถมองไปข้างหน้าพร้อมกับมองเห็นข้อมูลได้ในเวลาเดียวกัน
ภาพแผงหน้าปัดแบบเก่า
ที่มา : http ://en.wikipedia.org/wiki/File:F86d-cockpit.jpg
ภาพแผงหน้าปัดที่มี HUD
ที่มา : http ://strikefighterconsult-inginc.com/tag/cockpit
เทคโนโลยี HUD ดังกล่าวได้นำมาใช้ในรถยนต์หลายยี่ห้อ เช่น โตโยต้า BMW ฟอร์ด โดยผู้ขับไม่ต้องก้มลงมองที่หน้าปัด เพียงแต่มองไปที่ด้านหน้ารถตามปกติ ข้อมูลการขับรถจะปรากฏตรงกระจกรถด้านหน้าคนขับ ทำให้เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย
ภาพแสดงระบบ HUD ในรถยนต์
ที่มา : http ://www.bolido.com/2011/11/bmw-te-hace-sentir-comopiloto-de-un-caza-con-su-colorido-hud/p90051928
หรือแม้แต่การพัฒนาเป็น application บนโทรศัพท์มือถือ ที่ชื่อว่า Hudway ใช้สำหรับการนำทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ การใช้งานเพียงแค่กำหนดจุดเริ่มต้นและจุดปลายทาง แล้วนำโทรศัพท์ไปวางไว้บนคอนโซลหน้ารถ ข้อมูลบนหน้าจอโทรศัพท์จะปรากฏบนกระจกหน้ารถให้เราเห็นได้ทันที (ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.hudwayapp.com)
ภาพการใช้งาน application ‘HUDWAY’
ที่มา: http://www.hudwayapp.com
อีกตัวอย่างหนึ่งของการนำเทคโนโลยีของเครื่องบินรบมาใช้งานด้านพลเรือนคือ ระบบเรดาร์ ในเครื่องบินรบเรดาร์จะใช้สำหรับตรวจจับเป้าหมายทั้งในอากาศ บนภาคพื้นดินและในทะเล แต่ในด้านพลเรือนจะนำมาใช้ทางด้านการพยากรณ์อากาศ การตรวจจับกลุ่มเมฆฝน ระบบติดตามอากาศยานในสนามบิน การตรวจจับความเร็วของรถบนถนน ระบบเตือนการชนสิ่งกีดขวางในรถยนต์ เป็นต้น
ตัวอย่างเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยเรดาร์
ที่มา : www.amazon.com/BushnellVelocity-Value-101911-Radar/dp/B004EHUK5A
จากทั้งสองตัวอย่างที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีในเครื่องบินรบสามารถนำมาใช้งานด้านพลเรือนและเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา ต่อไปผู้เขียนจะขอนำเสนอตัวอย่างของเทคโนโลยีเครื่องบินรบในปัจจุบันและอนาคต ว่ามีการพัฒนาไปอย่างไรบ้าง ท่านผู้อ่านลองจินตนาการตามไปด้วยนะครับว่า เทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของเราในอนาคตได้อย่างไร
อากาศยานไร้คนขับหรือ UAV
ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ว่าปัจจุบันนี้ นักบินหรือผู้ควบคุมซึ่งนั่งอยู่ในห้องควบคุม ณ แห่งใดแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถบังคับเครื่องบินให้บินไปทิ้งระเบิดทุกแห่งบนโลกใบนี้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถบินตรวจการณ์และเฝ้าจับตาดูเป้าหมายบนพื้นโลกได้นานมากกว่า 24 ชั่วโมง ฟังดูแล้วน่าทึ่งมากเลยใช่ไหมครับ แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีที่น่าทึ่งยิ่งกว่านี้อีก ถ้าอยากรู้ต้องลองอ่านต่อไปเรื่อย ๆ
ปัจจุบันนี้หลายประเทศกำลังมุ่งพัฒนาอากาศยานไร้คนขับของตนเอง (Unmanned Aerial Vehicle : UAV) เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ รัสเซีย จีน อิสราเอล หรือแม้แต่ประเทศไทย ซึ่งกำลังพัฒนาอยู่ในระดับงานวิจัย เนื่องจาก UAV มีข้อดีคือนักบินไม่ต้องนั่งไปกับเครื่อง เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือถูกยิงตกนักบินจะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ นอกจากนี้เครื่องบินจะมีที่ว่างภายในเพิ่มขึ้น จึงสามารถติดตั้งอุปกรณ์หรือน้ำมันได้มากขึ้น และสามารถบินได้นานขึ้นเนื่องจากนักบินสามารถเปลี่ยนผลัดกันได้
ภาพ UAV แบบ Aerostar ของประเทศอิสราเอล มีใช้งานในกองทัพอากาศไทย
ที่มา : http ://defence.pk/threads/unmannedaerial-vehicle-uav-pic- tures.44484
UAV ที่ก้าวหน้าที่สุดคงหนีไม่พ้นประเทศสหรัฐอเมริกา ความก้าวหน้าที่ว่านี้คือ นักบินสามารถนั่งบังคับเครื่องบินในห้องควบคุมภาคพื้น แล้วส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม ซึ่งโคจรอยู่ทั่วโลกไปยังตัวเครื่องบิน นักบินจึงสามารถบังคับเครื่องบินให้บินไปยังตำแหน่งใดในโลกได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้อุปกรณ์เซนเซอร์ ในการตรวจจับหรือใช้อาวุธโจมตีเป้าหมาย ซึ่งปัจจุบันกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา มีประจำการหลายแบบ เช่น MQ 1 Predator MQ 4 Global Hawk MQ 9 Reaper เป็นต้น และได้เปลี่ยนชื่อเรียก UAV ใหม่ว่า RPA (Remotely Piloted Aircraft) ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ยังไม่ปรากฏว่าได้ทดสอบเครื่องบินที่สามารถควบคุมให้บินไปได้ทั่วโลก ระยะปฏิบัติการไกลสุดเพียงหลักร้อยกิโลเมตรเท่านั้น
ภาพอากาศยานไร้คนขับ MQ 9 Reaper ของสหรัฐอเมริกาขณะยิงจรวด
ที่มา : http ://dronewars.net/aboutdrone
ท่านผู้อ่านคิดว่าในอนาคตสายการบินจะสามารถนำระบบไร้นักบินนี้มาให้บริการได้หรือไม่ ท่านคงมีคำถามตามมาว่า แล้วใครล่ะจะกล้าใช้บริการ มีนักบินน่าจะอุ่นใจกว่า แต่ใครที่เคยใช้บริการรถไฟฟ้าของญี่ปุ่นในกรุงโตเกียวที่วิ่งไปยังย่านโอไดบะ คงทราบว่ารถไฟฟ้าเส้นนี้ไม่มีพนักงานขับรถ แต่ใช้การควบคุมจากศูนย์ควบคุม ดังนั้นหากมีการพัฒนาด้านความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร ไม่แน่ว่าอาจจะมีสายการบินที่ไร้นักบินเกิดขึ้นก็ได้
รถไฟฟ้าสาย Yurikamome ของญี่ปุ่น ไม่ใช้พนักงานขับรถ
ที่มา : http://wikimapia.org/685476/Odaiba-KaihinKoen-Station
อากาศยานโจมตีไร้นักบิน แบบ X 47B
X 47B เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสาธิตระบบอากาศยานโจมตีไร้นักบินประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน (Unmanned Combat Air System Carrier Demonstration หรือ UCAS-D) ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาอากาศยานสาธิตแบบไร้คนขับประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน โดยความพิเศษของ X 47B คือ สามารถทำการบินได้ด้วยตนเองตั้งแต่บินขึ้นเดินทางไปปฏิบัติการจนกระทั่งบินลงจอดโดยไม่ต้องใช้นักบิน หรือคนควบคุมแต่อย่างใด เรียกว่าแค่ป้อนโปรแกรมให้กับคอมพิวเตอร์ควบคุมเครื่องบินเท่านั้น หลังจากนั้นตัวเครื่องบินจะดำเนินการเองทั้งหมด จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีนี้มีความก้าวหน้ามากกว่า UAV แบบอื่น ๆ นอกจากการบินได้ด้วยตัวเองแล้ว ยังได้รับการออกแบบให้มีรูปร่างที่ลดการถูกตรวจจับด้วยเรดาร์ ทำให้สามารถบินไปปฏิบัติการในดินแดนข้าศึกโดยไม่ถูกตรวจจับ โดยในวันที่ 14 พฤษภาคม 2556 ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของการบินโลกอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ X 47B ประสบความสำเร็จในการบินขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินจอร์จ ดับเบิลยู บุช
ภาพ X 47B
ที่มา : http ://northafricapost.com/3649-us-navy-first-x-47bdrone-launch.html
X 47B กำลังบินขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินเป็นครั้งแรก
ที่มา : http ://www.dailymail.co.uk/news/article-2324571/U-SNavys-X-47B-stealth-drone-launches-aircraft-carrier-time--critics-warnheralds-rise-killer-robots.htm
หลังจากขั้นตอนนี้ จะมีการทดสอบและประเมินค่าขีดความสามารถอีกหลายรายการ และเนื่องจากเป็นโครงการเพื่อสาธิตเทคโนโลยี หากได้รับความเห็นชอบให้พัฒนาเพื่อนำเข้าประจำการ ก็คาดว่าจะสามารถเข้าประจำการได้ในปี พ.ศ.2562 ผู้เขียนคิดว่าในอนาคตหากเราใช้แนวคิดเทคโนโลยีของ X 47B มาใช้ในการส่งพัสดุก็น่าจะดีไม่น้อย ลองจินตนาการว่าในอนาคตบ้านแต่ละหลังจะมียานบังคับขนาดเล็กที่ใช้สำหรับขนส่งสิ่งของหรือพัสดุ เพียงแค่เราป้อนข้อมูลสถานที่ที่ต้องการไปส่งพัสดุลงในโปรแกรมหรือ application ในโทรศัพท์มือถือ ยานบังคับนี้ก็จะนำพัสดุไปส่งให้ถึงที่หมาย ต่อไปเราอาจจะไม่ต้องเดินทางไปส่งพัสดุที่ไปรษณีย์แล้วก็เป็นได้ แล้วท่านผู้อ่านล่ะครับ ได้แนวคิดอะไรบ้างจากเทคโนโลยีของ X 47B นี้
หากมองในแง่มุมหนึ่ง สงครามเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เป็นแรงจูงใจที่ทำให้มนุษย์พยายามคิดค้นเพื่อครองความเหนือกว่า ใครมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ดีกว่าและมากกว่าก็ย่อมจะได้เปรียบ หากผู้คิดค้นได้นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป ก็เชื่อได้ว่าเราจะได้รับประโยชน์อย่างมากมายแน่นอน
บรรณานุกรม
HUDWAY. สืบค้นเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2556, จาก http://www. hudwayapp.com PILOT 984. (2556). MQ 9 Reaper. นิตยสารแทงโก, 254 ( พฤศจิกายน 2556), 19 – 22.
X 47B. สืบค้นเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2556, จาก http://www.naval-technology.com/projects/x-47b-unmanned-combat-air- system-carrier-ucas/
พัฒนาการเทคโนโลยีทางทหาร. สืบค้นเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2556,จาก http://ndsi.rtarf.mi.th/download/ndsi-edu/books/Military-Science-54/chapter3-8.pdf
-
12807 จากเทคโนโลยีบนฟากฟ้าสู่พื้นดิน /article-technology/item/12807-copy-misconceptual-physics-22เพิ่มในรายการโปรด
-
คำที่เกี่ยวข้อง