Table of Contents Table of Contents
Previous Page  174 / 254 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 174 / 254 Next Page
Page Background

เฉลยคำ�ถามท้ายกิจกรรม

วัคซีนป้องกันโรคใดที่นักเรียนส่วนใหญ่จะได้รับเหมือนกัน

วัณโรค ไวรัสตับอักเสบบี หัดเยอรมัน คางทูม (ให้อ้างอิงจากตาราง 16.1 ในหนังสือเรียน)

การได้รับวัคซีนสามารถได้รับโดยวิธีใดบ้าง

การฉีด การรับประทาน การพ่นทางช่องจมูก

หากได้รับวัคซีนป้องกันโรคใดโรคหนึ่งแล้ว ยังมีโอกาสเป็นโรคนั้นอีกหรือไม่ เพราะเหตุใด

ยังมีโอกาสเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ โดยในกรณีที่ป่วยเป็นโรคนั้นแต่ร่างกายยังมีภูมิคุ้มกันที่ได้

จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคนั้นอยู่อาการป่วยอาจจะไม่รุนแรงเหมือนคนที่ไม่ได้รับการ

ฉีดวัคซีนป้องกันโรคนั้น

เหตุใดจึงควรฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ทุกๆ ปี

เพราะในแต่ละปีมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แตกต่างกันไป และ

วัคซีนที่ผลิตออกมานั้นไม่สามารถป้องกันได้ครอบคลุมทุกสายพันธุ์

กิจกรรมนี้นักเรียนจะเห็นความสำ�คัญของการฉีดวัคซีนซึ่งช่วยป้องกันโรคบางโรคได้ โดย

ประชากรไทยทุกคนสามารถขอรับบริการฉีดวัคซีนที่มีความจำ�เป็นพื้นฐานที่หน่วยงานภาครัฐจัดให้

โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 11-12 ปี

ครูให้นักเรียนศึกษารูป 16.11 แล้วใช้คำ�ถามในหนังสือเรียน ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิด

เห็น ดังนี้

การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในรูป 16.11 ก. และ ข. เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการแสดงความคิดเห็นว่าการสร้างภูมิคุ้มกันในรูป 16.11

แตกต่างกัน โดยรูป ก. ลูกจะได้รับแอนติบอดีโดยตรงจากน้ำ�นมแม่ ส่วนรูป ข. เป็นการฉีดวัคซีน ซึ่ง

เป็นการกระตุ้นร่างกายให้สร้างแอนติบอดีที่จำ�เพาะต่อแอนติเจนนั้น นำ�ไปสู่ข้อสรุปว่าการสร้าง

ภูมิคุ้มกันของร่างกายแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ ภูมิคุ้มกันรับมาและภูมิคุ้มกันก่อเอง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 16 | ระบบภูมิคุ้มกัน

ชีววิทยา เล่ม 4

162