Table of Contents Table of Contents
Previous Page  175 / 254 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 175 / 254 Next Page
Page Background

ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันรับมาและภูมิคุ้มกันก่อเอง จากแหล่ง

การเรียนรู้ต่าง ๆ หรืออาจพานักเรียนไปยังสถานที่แสดงการผลิตเซรุ่ม เช่น สถานเสาวภา

สภากาชาดไทย เพื่อให้นักเรียนศึกษาขั้นตอนการผลิตเซรุ่ม ความสำ�คัญของเซรุ่ม สาเหตุที่ต้องผลิต

เซรุ่ม หรือศึกษาวีดิทัศน์จาก QR code เรื่องการผลิตวัคซีนหรือเซรุ่มซึ่งเป็นสื่อการเรียนรู้ในหนังสือ

เรียน จากนั้นให้นักเรียนสรุปความรู้ที่ได้จากการศึกษา และเปรียบเทียบความเหมือนหรือความ

แตกต่างระหว่างภูมิคุ้มกันรับมาและภูมิคุ้มกันก่อเอง จากนั้นให้นักเรียนตอบคำ�ถามตรวจสอบความ

เข้าใจ

ตัวอย่าง

ตารางแสดงการเปรียบเทียบระหว่างภูมิคุ้มกันรับมาและภูมิคุ้มกันก่อเอง

ประเด็น

ภูมิคุ้มกันรับมา

ภูมิคุ้มกันก่อเอง

1. กลไกการต่อต้านหรือ

ทำ�ลายสิ่งแปลกปลอม

แบบจำ�เพาะ

แบบจำ�เพาะ

2. การเกิดภูมิคุ้มกัน

- ได้รับจากแม่ผ่านทางรกและ

น้ำ�นม

- การได้รับเซรุ่ม

- การได้รับเชื้อโรค

- การได้รับวัคซีน

3. ความเร็วในการต่อต้าน

หรือทำ�ลายสิ่งแปลกปลอม

เข้าทำ�ลายเชื้อโรคได้ทันที

โดยไม่ต้องมีการกระตุ้นก่อน

ต้องมีช่วงเวลาในการกระตุ้นให้ร่างกาย

สร้างแอนติบอดีต่อโรคนั้นก่อนจึงจะมี

ภูมิคุ้มกัน

4. ระยะเวลาที่อยู่ในร่างกาย อยู่ได้ในระยะสั้น

อยู่ได้ค่อนข้างนาน บางชนิด 10 ปี

เช่น ภูมิคุ้มกันที่กระตุ้นผ่านการฉีด

วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก

5. จุดประสงค์ในการใช้ ป้องกันและรักษาโรค

ป้องกันโรค

6. ตัวอย่าง

- น้ำ�นมแม่

- เซรุ่มแก้พิษงู

- เซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นผ่านการฉีดวัคซีน เช่น

- วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก

- วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ

- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 16 | ระบบภูมิคุ้มกัน

ชีววิทยา เล่ม 4

163