Table of Contents Table of Contents
Previous Page  183 / 254 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 183 / 254 Next Page
Page Background

จากกิจกรรม 16.3 นักเรียนควรจะเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และแนวทางในการป้องกันรักษาโรค

ที่เกิดจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันหรือโรคที่ทำ�ให้ภูมิคุ้มกันเกิดความผิดปกติดียิ่งขึ้น และสามารถ

นำ�ความรู้ที่ได้ศึกษาไปใช้ดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัวได้

ครูควรเน้นย้ำ�โดยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าโรคเอดส์ที่เกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งเป็นผล

มาจากการได้รับเชื้อ HIV เป็นปัญหาระดับชาติและระดับโลก ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

รายงานว่า ปีพ.ศ. 2560 มีผู้ติดเชื้อ HIV ประมาณ 440,000 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า

5,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 16 คน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง สำ�หรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ควรรับการวินิจฉัยจากแพทย์โดยทันที หากตรวจพบเชื้อผู้ติดเชื้อต้องได้รับยาต้านเชื้อ HIV ตามคำ�สั่ง

ของแพทย์อย่างสม่ำ�เสมอเพราะยาต้านเชื้อไม่สามารถกำ�จัดเชื้อ HIV ให้หมดไปหรือรักษาให้หายขาด

ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (immunodeficiency) แบ่งตามสาเหตุการเกิดได้เป็น 2 แบบ คือ

1. ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำ�เนิด (primary immunodeficiency) ส่วนใหญ่มีสาเหตุจาก

ความผิดปกติของพันธุกรรมหรือยีนซึ่งได้รับการถ่ายทอดต่อมา มักแสดงอาการตั้งแต่

แรกเกิด ทำ�ให้เซลล์ที่เกี่ยวข้องในระบบภูมิคุ้มกัน เช่น เซลล์บี เซลล์ที ฟาโกไซต์ หรือโปรตีน

ในระบบคอมพลีเมนต์ไม่สามารถทำ�งานได้หรือทำ�งานได้ไม่เป็นปกติ

2. ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เกิดขึ้นภายหลัง (secondary immunodeficiency) เกิดขึ้นจาก

หลายสาเหตุ เช่น

- การได้รับเชื้อไวรัสบางอย่าง เช่น เชื้อ HIV

- มะเร็ง เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia) ที่ไขกระดูก

- การได้รับยาที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ยากดภูมิคุ้มกันกลุ่มสเตอรอยด์

ยาเคมีบำ�บัด

- ทุพโภชนาการ (malnutrition) คือ การขาดสารอาหารบางอย่าง โดยเฉพาะโปรตีน

ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของอิมมูโนโกลบูลิน หรือแร่ธาตุอื่นๆ

- การได้รับสารพิษหรือสารเคมีจากสาเหตุดังกล่าวทำ�ให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดต่ำ�ลง

และทำ�ให้เสี่ยงต่อการติดโรคอื่นๆ ได้ง่ายกว่าปกติ

ความรู้เพิ่มเติมสำ�หรับครู

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 16 | ระบบภูมิคุ้มกัน

ชีววิทยา เล่ม 4

171