มาทำความรู้จักกับการปฏิวัติวิทยาศาสตร์
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ถือเป็นสิ่งสำคัญในประวัติศาสตร์ยุโรปสมัยใหม่เป็นอย่างมาก สืบเนื่องมาจากเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความเชื่อจากศรัทธาของคริสต์ศาสนามาสู่การใช้สติปัญญามีเหตุมีผล และในขณะเดียวกันนั้นการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ยังส่งผลต่ออิทธิพลในสมัยยุคภูมิธรรมซึ่งเป็นขบวนการทางความคิดทางภูมิปัญญาโดยใช้พื้นฐานความคิดในรูปแบบวิทยาศาสตร์ ทำให้วิทยาศาสตร์กลายมาเป็นศาสนาใหม่ของชุมชนวิทยาศาสตร์ อีกทั้งในเวลาต่อมาแนวคิดแบบวิทยาศาสตร์ได้แพร่ขยายออกเป็นวงกว้างไปทั่วมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในยุโรปจวบจนกระทั่งได้กลายมาเป็นระบบการศึกษาของทั่วโลกในปัจจุบัน
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นในทวีปยุโรประหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16-18 ทำให้มนุษย์สามารถค้นพบวิทยาศาสตร์และเอาชนะธรรมชาติได้ และยังสามารถนำธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เกิดการเรียนรู้และเกิดการพัฒนา ทำให้สังคมชาวตะวันตกสามารถพัฒนาความก้าวหน้าได้รวดเร็วกว่าดินแดนอื่น ๆ ของโลก และกลายเป็นประเทศที่ทันสมัยของโลกจนถึงปัจจุบัน การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์เป็นผลสืบเนื่องมาจากแนวคิดของมนุษย์นิยมที่ยึดหลักการของเหตุและผลแทนความเชื่อที่งมงาย ซึ่งในยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการทำให้เกิดการค้นคว้าเพื่อแสวงหาความรู้ใหม่ ๆมากยิ่งขึ้น โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้เกิดองค์ความรู้และการประดิษฐ์ คิดค้นด้านต่าง ๆ อย่างมากมาย
ปัจจัยที่สนับสนุนให้เกิดการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ คือ
-
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (เรอเนสซองส์) ด้วยสิ่งนี้ทำให้มนุษย์มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองมากยิ่งขึ้น โดยเรียกแนวคิดนี้ว่า แนวคิดมนุษยนิยม ( Humanism ) ทำให้อิสระทางความคิดหลุดพ้นจากอิทธิพลครอบงำของคริสตจักร (ศาสนจักร) และพยายามที่จะเอาชนะธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของตนเองให้ดีขึ้น
-
การพัฒนาเทคโนโลยีในดินแดนเยอรมันทางตอนใต้ โดยการประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ แบบใช้วิธีเรียงตัวอักษรของ โยฮัน กูเตนเบิร์ก (Johann Gutenberg) นักประดิษฐ์ชาวเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1448 ทำให้ในยุคปัจจุบันนี้สามารถพิมพ์หนังสือเผยแพร่ได้อย่างกว้างขวาง
-
การสำรวจทางทะเลและการติดต่อกับโลกตะวันออก ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 เป็นต้นมานั้น ได้รับ อารยาธรรมความรู้ต่าง ๆ จากจีน อินเดีย อาหรับ และเปอร์เซียเผยแพร่เข้ามาในสังคมโลกตะวันตกมากยิ่งขึ้น
-
แนวคิดมนุษยนิยม ( Humanism ) ซึ่งได้รับมาจากหลักปรัชญาของชาวกรีกโดยสอนให้มนุษย์มีความเชื่อมั่นในสติปัญญาและความสามารถของตนเอง เชื่อมั่นในความมีเหตุผล และนำไปสู่การค้นหาความจริงของสรรพสิ่งต่างๆ ในโลกโดยไม่มีที่สิ้นสุด
-
แนวคิดในปรัชญาธรรมชาตินิยม ( Naturalism ) สอนให้เชื่อว่าสิ่งต่างๆ ล้วนดำเนินไปตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ ธรรมชาติที่อยู่รอบๆตัวมนุษย์นั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ และทำให้วิทยาศาสตร์กลายมาเป็นศาสตร์ที่มีความสำคัญ โดยเน้นศึกษาเรื่องรวมทางธรรมชาติ จึงเริ่มศึกษาค้นคว้าและทดลองจนเกิดองค์ความรู้ใหม่เรียกว่าเป็น ยุคแห่งภูมิธรรม หรือ ยุคแห่งการรู้แจ้ง (The Enlightenment)
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ในยุคแรกเริ่มต้น เป็นการค้นพบความรู้ทางดาราศาสตร์ ทำให้เกิดคำอธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่าง ๆ ซึ่งเป็นการท้าทายความเชื่อดั้งเดิมของคริสต์ศาสนา สรุปได้ดังนี้
- การค้นพบทฤษฎีระบบสุริยจักรวาลของนิโคลัส (Nicholaus Copernicus) ชาวโปแลนด์ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 สาระสำคัญ คือ ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล โดยมีโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ โคจรโดยรอบ ซึ่งทฤษฎีของโคเปอร์นิคัสขัดแย้งกับหลักความเชื่อของคริสตจักรอย่างมาก แต่ก็ถือว่าความคิดของโคเปอร์นิคัสเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ และทำให้ชาวตะวันตกให้ความสนใจเรื่องราวลี้ลับของธรรมชาติ
ภาพแบบจำลองระบบสุริยะของโคเปอร์นิคัส (I. วงโคจรของดาวฤกษ์ ,II. วงโคจรของดาวเสาร์,
III. วงโคจรของดาวพฤหัสบดี ,IIII. วงโคจรของดาวอังคาร ,V. วงโคจรของโลกและดวงจันทร์,
VI. วงโคจรของดาวศุกร์ ,VII. วงโคจรของดาวพุธ ,จุดศูนย์กลางคือดวงอาทิตย์ )
ที่มา https://en.wikipedia.org/wiki/File:Copernican_heliocentrism_diagram-2.jpg , Copernicus 1543, Professor marginalia
-
การประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ ( Telescope ) ของกาลิเลโอ (Galileo Galilei) ชาวอิตาลีในปี ค.ศ. 1609 ทำให้ความรู้เรื่องระบบสุริยจักรวาลชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น ได้เห็นจุดดับในดวงอาทิตย์ได้สังเกตการณ์เคลื่อนไหวของดวงดาว และได้เห็นพื้นขรุขระของดวงจันทร์ เป็นต้น
-
การค้นพบทฤษฎีการโคจรของดาวเคราะห์ของโจฮันเนส เคปเลอร์ (Johannes Kepler) ชาวเยอรมัน ในช่างต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 และสรุปได้ว่าเส้นทางโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์เป็นรูปไข่หรือรูปวงรีไม่ใช่เป็นวงกลมตามทฤษฎีขอโคเปอร์นิคัส
สรุปได้ว่า การปฏิวัติวิทยาศาสตร์ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาความคิด และสติปัญญาของมนุษย์ ทำให้สังคมโลกก้าวสู่สมัยแห่งความก้าวหน้า และพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
แหล่งที่มา
Margaret J. Osler,Stephen G. Brush,J. Brookes Spencer. Scientific Revolution. Retrieved May 10, 2020, from https://www.britannica.com/science/Scientific-Revolution
Robert A. Hatch - University of Florida. The Scientific Revolution. Retrieved May 10, 2020, from http://users.clas.ufl.edu/ufhatch/pages/03-Sci-Rev/SCI-REV-Teaching/03sr-definition-concept.htm
ครูวิไลวรรณ. (2013, 15 July). 6. การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2563, จาก http://wl.mc.ac.th/?p=108
พงศ์ศักดิ์ สังขภิญโญ. พื้นฐานความรู้ทางวรรณกรรม. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2563, จาก http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/6/science/unit4_11.html
-
11479 มาทำความรู้จักกับการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ /article-science/item/11479-2020-04-21-07-25-03เพิ่มในรายการโปรด