Table of Contents Table of Contents
Previous Page  207 / 302 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 207 / 302 Next Page
Page Background

เมื่อพืชอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนหรือแล้ง อัตราการเกิดปฏิริยาในวัฏจักรคัลวินลดลง ทำ�ให้

ปริมาณ NADP

+

และ ADP ที่จะถูกนำ�ไปใช้ในปฏิกิริยาแสงมีน้อยลง เมื่อ NADP

+

มีจำ�กัดจึง

ส่งผลกระทบต่อการถ่ายทอดอิเล็กตรอนแบบไม่เป็นวัฏจักรซึ่งต้องการ NADP

+

มาเป็นตัวรับ

อิเล็กตรอนตัวสุดท้าย ดังนั้นเมื่อไม่มีตัวรับอิเล็กตรอนตัวสุดท้าย จึงเกิดการถ่ายทอดอิเล็กตรอน

แบบเป็นวัฏจักร ซึ่งทำ�ให้เกิดการเคลื่อนย้ายโปรตอนจากสโตรมาเข้าสู่ลูเมนมากขึ้น แต่เนื่องจาก

ปริมาณ ADP มีจำ�กัดเช่นกัน จึงทำ�ให้ไม่สามารถสร้าง ATP ได้ และเกิดการสะสมโปรตอนใน

ลูเมนมากขึ้นจนในที่สุดไม่สามารถเกิดการถ่ายทอดอิเล็กตรอนแบบเป็นวัฏจักรได้เช่นกัน

ดังนั้นเมื่อระบบแสงถูกกระตุ้นและปลดปล่อยอิเล็กตรอน แต่ไม่เกิดการถ่ายทอดอิเล็กตรอน

ตามปกติ อาจนำ�ไปสู่การเกิดอนุมูลอิสระขึ้น โดยวิธีการหนึ่งที่เกิดขึ้นในพืชคือ O

2

ที่อยู่ในลูเมน

ได้รับอิเล็กตรอนและเกิดเป็นอนุมูลอิสระซึ่งเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียร และก่อให้เกิดอันตราย

ต่อเซลล์ได้ หากเหตุการณ์ดังกล่าวยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดจะทำ�ให้ระบบแสงในพืช

เสียหายและเป็นอันตรายต่อพืชได้ ดังนั้นการเกิดโฟโตเรสไพเรชันซึ่งทำ�ให้มีการใช้ ATP และ

ได้ ADP เพิ่มขึ้น จึงทำ�ให้การถ่ายทอดอิเล็กตรอนในปฏิกิริยาแสงเกิดได้อย่างต่อเนื่อง และ

ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ

ความรู้เพิ่มเติมสำ�หรับครู

โฟโตเรสไพเรชันสัมพันธ์กับการสังเคราะห์ด้วยแสงหรือไม่ อย่างไร

โฟโตเรสไพเรชันมีความสัมพันธ์กับการสังเคราะห์ด้วยแสงโดยใช้รูบิสโกเหมือนกัน แต่

โฟโตเรสไพเรชันใช้รูบิสโกในการทำ�ให้ RuBP ตรึง O

2

หรือเป็นการใช้ O

2

สลาย RuBP ส่วน

การสังเคราะห์ด้วยแสงใช้รูบิสโกในการช่วยให้ RuBP ตรึง CO

2

ซึ่งกระบวนการทั้งสองนี้

จะเกิดขึ้นเมื่อมีแสง

ตรวจสอบความเข้าใจ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 11 | การสังเคราะห์ด้วยแสง

ชีววิทยา เล่ม 3

195