Table of Contents Table of Contents
Previous Page  211 / 302 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 211 / 302 Next Page
Page Background

ทั้งนี้ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อหาคำ�ตอบจากหลักการที่เรียนมาแล้ว เพื่อขยายความรู้

ของนักเรียนให้มากขึ้นและให้เข้าใจยิ่งขึ้น ครูอาจให้นักเรียนเปรียบเทียบพืช C

3

และพืช C

4

ในแง่ของ

โครงสร้างและกลไกในการสังเคราะห์ด้วยแสง

การเปรียบเทียบอาจทำ�เป็นตาราง ดังนี้

ข้อเปรียบเทียบ

พืช C

3

พืช C

4

1. บันเดิลชีท

อาจมีหรือไม่มี

มี

2. คลอโรพลาสต์ที่บันเดิลชีท

มักไม่พบเมื่อดูภายใต้

กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง

มี

3. จำ�นวนครั้งของการตรึงคาร์บอน

1 ครั้ง

2 ครั้ง

4. สารที่ใช้ตรึงคาร์บอน

RuBP

ครั้งแรก PEP

ครั้งที่สอง RuBP

5. สารที่เสถียรชนิดแรกที่เกิด

จากการตรึงคาร์บอน

PGA (3C)

OAA (4C)

6. การเกิดโฟโตเรสไพเรชัน

มี

มีน้อยมาก หรือไม่มี

11.4.2 การตรึงคาร์บอนในพืช CAM

ครูนำ�เข้าสู่บทเรียนโดยใช้คำ�ถามดังนี้ นักเรียนได้ทราบมาแล้วว่าพืชบางชนิด เช่น พืชกลุ่ม

กระบองเพชรซึ่งเป็นพืชทนแล้งเจริญได้ในที่แห้งแล้งและอุณหภูมิสูง

พืชเหล่านี้มีการปรับตัวเพื่อลด

การสูญเสียน้ำ�อย่างไร

ซึ่งนักเรียนควรจะตอบได้ว่า ลำ�ต้นอวบน้ำ� ใบลดรูปกลายเป็นหนาม โดยครู

ชี้แจงเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้พืชกลุ่มนี้ยังลดการสูญเสียน้ำ�โดยปากใบจะปิดในเวลากลางวันและจะเปิด

ในเวลากลางคืน จากนั้นครูใช้คำ�ถามเพื่อนำ�ไปสู่การสืบค้นข้อมูล ดังนี้

พืชที่ขึ้นในทะเลทรายหรือในที่แห้งแล้งมีกลไกการสังเคราะห์ด้วยแสงเหมือนกับพืชที่ขึ้น

อยู่ทั่วๆ ไปหรือไม่ อย่างไร

ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลในหนังสือเรียนและใช้รูป 11.23 เพื่อร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับกลไก

การเพิ่มความเข้มข้นของ CO

2

ของพืช CAM ซึ่งจากการอภิปรายนักเรียนควรจะสรุปได้ว่า โดยทั่วไป

การตรึง CO

2

ในวัฏจักรคัลวินจะเกิดขึ้นในขณะที่มีแสง เพราะต้องนำ�สารผลิตภัณฑ์จากปฏิกิริยาแสง

มาใช้ในกระบวนการตรึง CO

2

แต่พืช CAM มีการตรึงคาร์บอนในเวลากลางคืนโดยปากใบเปิดให้ CO

2

เข้าไป สร้าง OAA แล้วสะสมไว้ในรูปของกรดมาลิกในแวคิวโอลในเวลากลางคืน กรดมาลิกนี้จะสลาย

ได้ CO

2

ในเวลากลางวัน ทำ�ให้ปฏิกิริยาการตรึง CO

2

ในวัฏจักรคัลวินของพืช CAM เกิดขึ้นได้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 11 | การสังเคราะห์ด้วยแสง

ชีววิทยา เล่ม 3

199