จากการอภิปรายนักเรียนอาจตอบได้ว่า ดอกไม้แต่ละชนิดที่นักเรียนยกตัวอย่างมานี้จะมี
ส่วนประกอบที่เหมือนกัน เช่น มีกลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย ทั้งนี้ครูจะยังไม่สรุป
คำ�ตอบเนื่องจากดอกไม้ที่นักเรียนยกตัวอย่างมานี้อาจมีความหลากหลาย บางชนิดอาจมีโครงสร้าง
ที่ครบทั้ง 4 ส่วน และบางชนิดอาจมีโครงสร้างที่ไม่ครบทั้ง 4 ส่วน
ครูให้นักเรียนศึกษารูปที่ 8.1 โครงสร้างดอกและรูปที่ 8.2 ดอกไม่สมบูรณ์ของปัตตาเวีย เพื่อ
เปรียบเทียบโครงสร้างของดอกสมบูรณ์และดอกไม่สมบูรณ์ ซึ่งนักเรียนสามารถสรุปได้ว่า ดอกที่มี
ส่วนประกอบทั้ง 4 ส่วน คือ กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย เรียกว่าดอกสมบูรณ์
ถ้าขาดส่วนประกอบใดไปจะเรียกว่า ดอกไม่สมบูรณ์ ครูให้นักเรียนพิจารณาต่อไปว่า ดอกที่มีทั้ง
เกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียอยู่ภายในดอกเดียวกัน เรียกว่า ดอกสมบูรณ์เพศ ถ้าดอกชนิดใดมีเฉพาะ
เกสรเพศผู้หรือเกสรเพศเมียอย่างใดอย่างหนึ่ง เรียกว่า ดอกไม่สมบูรณ์เพศ และให้นักเรียนตอบคำ�ถาม
ในหนังสือเรียน ซึ่งมีแนวการตอบดังนี้
ดอกสมบูรณ์เพศจำ�เป็นจะต้องเป็นดอกสมบูรณ์ด้วยหรือไม่ อย่างไร
ไม่จำ�เป็น ดอกสมบูรณ์เพศที่มีเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียในดอกเดียวกันอาจจะขาดส่วนของ
กลีบเลี้ยงหรือกลีบดอก
โครงสร้างของดอกอาจจำ�แนกโดยใช้เกณฑ์อื่นได้อีก เช่น ตำ�แหน่งของรังไข่เมื่อเทียบกับตำ�แหน่ง
วงกลีบ โดยครูให้นักเรียนศึกษารูป 8.3 โครงสร้างของดอกแบ่งตามตำ�แหน่งรังไข่ ซึ่งจำ�แนกเป็นดอก
ที่มีรังไข่เหนือวงกลีบและดอกที่มีรังไข่ใต้วงกลีบ และศึกษารูป 8.4 การจัดเรียงตัวของดอก ซึ่งเป็น
แผนภาพแสดงดอกเดี่ยวและดอกช่อเพื่ออภิปรายร่วมกัน ซึ่งนักเรียนควรสรุปได้ว่า ดอกเดี่ยวคือ ดอก
ที่มีดอกเพียง 1 ดอกบนก้านดอก และดอกช่อคือ ดอกที่มีดอกย่อยมากกว่า 1 ดอกติดอยู่บนก้าน
ช่อดอก
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 8 | การสืบพันธุ์ของพืชดอก
ชีววิทยา เล่ม 3
9