Table of Contents Table of Contents
Previous Page  51 / 283 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 51 / 283 Next Page
Page Background

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ระดับประถมศึกษา

41

แนวการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้สอดคล้องกับการพัฒนาผู้เรียน

ในศตวรรษที่ ๒๑

การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสมรรถนะของ

ผู้เรียนให้พร้อมที่จะดำ�รงชีวิตและประกอบอาชีพได้อย่างประสบความสำ�เร็จได้

ในอนาคตนั้น จำ�เป็นต้องเน้นกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการพัฒนานักคิด

นักแก้ปัญหา และนักเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียน มีส่วนร่วมในการ

เรียนรู้ของตนเองตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนการเรียนรู้ โดยอาจทำ�ได้ดังนี้

จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัด

ของผู้เรียน โดยคำ�นึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล

ผู้สอนกระตุ้นหรือจัดสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้เกิดคำ�ถามหรือข้อสงสัย

ที่อยากค้นหาคำ�ตอบ

ผู้เรียนใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้อย่างเป็นระบบเพื่อค้นหา

คำ�ตอบที่สงสัย โดยเริ่มจากการลงมือสืบเสาะหาความรู้ตามคำ�แนะนำ�

จนกระทั่งสามารถออกแบบและวางแผนการสืบเสาะ เพื่อเก็บรวบรวม

ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ แล้วนำ�มาสร้างคำ�อธิบายด้วยตนเอง

ผู้เรียนควรมีโอกาสได้ฝึกฝนและพัฒนาแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ

อย่างลุ่มลึกและเชื่อมโยงกันผ่านการทำ�กิจกรรมที่หลากหลาย

ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน

ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง สม่ำ�เสมอและเหมาะสม

กับวัย

ผู้เรียนสามารถใช้เทคโนโลยีที่สอดคล้องตามยุคสมัยในการเรียนรู้

วิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ใช้ในการสืบเสาะหาความรู้ ใช้

สืบค้นข้อมูลทั้งจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ ใช้จัดกระทำ�และ

สื่อความหมายข้อมูล ใช้สร้างแบบจำ�ลอง

ผู้เรียนสามารถออกแบบและทำ�โครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เพื่อฝึกฝนและสามารถใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะ

กระบวนการสำ�หรับการออกแบบและเทคโนโลยี และทักษะที่สำ�คัญ

สำ�หรับศตวรรษที่ ๒๑ มาแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ได้

ผู้เรียนได้เพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์จากแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น

เพื่อขยายขอบเขตการเรียนรู้และสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่ได้เรียนรู้ใน

ห้องเรียนกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำ�วัน ตลอดจนเห็นความสำ�คัญ

ของการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ผู้เรียนควรมีโอกาสได้รู้จักและคุ้นเคยกับการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกิด

ขึ้นจริง ซึ่งอาจเพิ่มระดับความซับซ้อนของข้อมูลให้เหมาะสมกับวัย

ของผู้เรียน เช่น ผู้เรียนระดับประถมศึกษาได้ฝึกฝนการวิเคราะห์และ

สร้างคำ�อธิบายจากข้อมูลที่เก็บได้จริงแต่ไม่มีความซับซ้อน ส่วนใน

ระดับมัธยมศึกษาอาจให้ผู้เรียนได้ฝึกการวิเคราะห์และอธิบายข้อมูล

ขนาดใหญ่ (Big Data) ซึ่งเป็นข้อมูลที่หลากหลาย ซับซ้อน มีปริมาณ

มาก และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงไม่สามารถนำ�มาจัดกระทำ�หรือ

จัดการได้ด้วยวิธีการหรือเครื่องมือแบบเดิม

ผู้เรียนมีโอกาสนำ�ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปบูรณาการ

กับความรู้จากแขนงวิชาอื่นๆ เช่น คณิตศาสตร์ มาแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้อง

กับชีวิตจริง หรือเกิดขึ้นจริง โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม