วิตามินในการช่วยภูมิคุ้มกันสู้โรค
ความตื่นตัวต่อการดูแลสุขภาพ กลายเป็นชีวิตปกติในรูปแบบใหม่ของใครหลายคน ไม่เพียงเฉพาะเหตุผลของสถานการณ์การระบาดของโรคอุบัติใหม่ แต่การดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่ดีและสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคภัยต่าง ๆ ได้
ภาพพืชผักบางชนิดที่เป็นแหล่งสารอาหารประเภทวิตามินที่สำคัญ
ที่มา https://pixabay.com/images/id-1212845/,Lubos Houska
อาหารแต่ละประเภทมีสารอาหารที่สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกัน สารอาหารดังต่อไปนี้ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
วิตามินเอ
วิตามินเอ (vitamin A) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีบทบาทสำคัญต่อการมองเห็นในฐานะที่เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของโรดอพซิน (rhodopsin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ดูดซับแสงในตัวรับของจอประสาทตา สนับสนุนการเจริญเติบโตของเซลล์ และช่วยบำรุงรักษาเซลล์ชนิดเยื่อบุเซลล์ของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ผิวหนัง ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร เป็นต้น
ในปี ค.ศ. 1920 วิตามินเอได้รับการขนานนามว่าเป็น วิตามินต่อต้านการติดเชื้อ “the anti-infective vitamin” โดยวิตามินเอความเกี่ยวข้องกับการพัฒนาและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ในบทบาทของ
การควบคุมการตอบสนองของเซลล์บี (B-cell) ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพ
วิตามินเอพบได้ในตับ น้ำมันตับปลา ไข่แดง นมและผลิตภัณฑ์จากนม นอกจากนี้ ยังพบได้ในผักใบเขียวและผักสีเหลืองและสีส้มที่มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ เช่น บร็อคโคลี่ ฟักทอง และแครอท
วิตามินบี
วิตามินบีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง B6, B9 และ B12 เป็นหน่วยสนับสนุนการตอบสนองแรกของร่างกายเมื่อได้รับเชื้อก่อโรค โดยวิตามินบีจะช่วยสนับสนุนการผลิตและกิจกรรมของเซลล์นักฆ่า (natural killer cell) ของร่างกาย โดยเซลล์นักฆ่าจะทำงานโดยการที่ทำให้เซลล์ที่ติดเชื้อเปลี่ยนแปลงรูปร่างและเกิดการแตกหักของสายดีเอ็นเอ” ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกว่า apoptosis
แหล่งสารอาหารของวิตามิบี 6 พบได้ในธัญพืชพืชตระกูลถั่ว ผักใบเขียว ผลไม้ ถั่ว ปลา ไก่และเนื้อสัตว์ สำหรับวิตามินบี 9 (หรือโฟเลต) จะพบมากในผักใบเขียว พืชตระกูลถั่ว ถั่วและเมล็ดพืช และวิตามินบี 12 (cyanocobalamin) จะพบได้ในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ไข่ เนื้อสัตว์ นมและในนมถั่วเหลืองเสริม
วิตามินซีและอี
เมื่อร่างกายของคุณต่อสู้กับการติดเชื้อ จะเกิดภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชัน (Oxidation stress) นำไปสู่การผลิตสารอนุมูลอิสระ (free radicals) ที่สามารถทำลายเนื้อเยื่อและก่อให้เกิดการอักเสบที่รุนแรงได้ ซึ่งวิตามินซีและวิตามินอีช่วยปกป้องเซลล์จากภาวะดังกล่าว
วิตามินซียังช่วยสนับสนุนการผลิตเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่ เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดนิวโทรฟิล (neutrophils) เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ (lymphocytes) และ เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดฟาโกไซต์ (phagocytes) โดยแหล่งของวิตามินซีที่ดี ได้แก่ ส้ม มะนาว เบอร์รี่ กีวี บรอกโคลี มะเขือเทศและพริก ในขณะที่สามารถพบวิตามินอีได้ในถั่ว ผักใบเขียว และน้ำมันพืช
วิตามินดี
นอกเหนือจากบทบาทของการเสริมสร้างแคลเซียมและสภาวะสมดุลของกระดูก วิตามินดียังมีส่วนช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยมีการค้นพบ ตัวรับวิตามินดี (Vitamin D Receptor)บนเซลล์ T (T cell) เซลล์บี (B cell) และ Antigen presenting cell ซึ่งเป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันที่หน้าที่ทำลายเชื้อก่อโรคแม้ว่ารังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์จะช่วยผลิตวิตามินดีในผิวหนังซึ่งเป็นแหล่งวิตามินดีธรรมชาติที่ดีที่สุด แต่แหล่งอาหารจำพวกไข่ ปลา และนมบางชนิด อาจช่วยเสริมด้วยวิตามินดีได้ด้วย
เหล็ก, สังกะสี, ซีลีเนียม
ร่างกายต้องการเหล็กสังกะสีและซีลีเนียม สำหรับการสนับสนุนการเจริญเติบโตของเซลล์ภูมิคุ้มกันในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยธาตุเหล็กช่วยฆ่าเชื้อโรคโดยการเพิ่มจำนวนของสารอนุมูลอิสระที่สามารถทำลายเชื้อได้ นอกจากนี้ยังควบคุมปฏิกิริยาของเอนไซม์ที่จำเป็นสำหรับเซลล์ภูมิคุ้มกันในการรับรู้และกำหนดเป้าหมายเชื้อโรค ในขณะที่สังกะสีช่วยรักษาความสมบูรณ์ของผิวหนังและเยื่อเมือก โดยสังกะสีและซีลีเนียมยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยดูดซับความเสียหายที่เกิดจากภาวะความเครียดออกซิเดชัน โดยแหล่งอาหารที่พบธาตุเหล็กได้แก่ เนื้อไก่ ปลา พืชตระกูลถั่ว และธัญพืช พบสังกะสีได้ในหอยนางรมและอาหารทะเลอื่น ๆ ถั่วแห้ง (โดยเฉพาะถั่วบราซิล) ในขณะที่ซีเรียล เนื้อสัตว์ และเห็ดเป็นแหล่งอาหารที่ดีของซีลีเนียม
แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตปกติให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ มีการปฏิบัติตน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในรูปแบบต่างๆ ให้เข้ากับสถานการณ์ที่ช่วยป้องกันโรค แต่ความพอดีที่เพียงพอเป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรคำนึงถึงต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบันด้วยเช่นกัน
แหล่งที่มา
Vitamin A.
Retrieved April 2, 2020, From https://ods.od.nih.gov/factsheets/VitaminA-HealthProfessional/
- Catharine Ross,Qiuyan Chen and Yifan Ma.(2011). Vitamin A and Retinoic Acid in the Regulation of B-Cell Development and Antibody Production. Vitam Horm; 86: 103–126.
Retrieved April 2, 2020 , From https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3789244/
Clare Collins. (2020,March 17), 5 ways nutrition could help your immune system fight off the coronavirus. Retrieved April 2, 2020,From https://theconversation.com/5-ways-nutrition-could-help-your-immune-system-fight-off-the-coronavirus-133356
Cynthia Aranow. (2011). Vitamin D and the Immune System. J Investig Med; 59(6): 881–886. Retrieved April 2, 2020, From https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3166406/
-
11476 วิตามินในการช่วยภูมิคุ้มกันสู้โรค /article-biology/item/11476-vitaminเพิ่มในรายการโปรด
-
คำที่เกี่ยวข้อง