“ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน” กับการเติมเต็มกิจกรรมสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่น
หลายท่านอาจเคยได้ยินคำว่า “ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน” กันมาแล้ว ซึ่งเป็นประเด็นที่ปรากฏอยู่ในข้อมูลข่าวสารที่รายงานจากหน่วยงานของรัฐและสื่อมวลชนในช่องทางต่างๆ อยู่เนืองๆ ตัวอย่างที่พอจะคุ้นเคยกันทั่วไปตามหน้าสื่อ เช่น ผักตบชวา ปลาหมอคางดำ ดังภาพ 1
ภาพ 1 ตัวอย่างชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน a. ผักตบชวา (Pontederia crassipes Mart.)
b. ปลาหมอคางดำ (Sarotherodon melanotheron Rüppell, 1852)
ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่น (Alien Species หรือ Introduced Species) ไม่ใช่ชนิดพันธุ์ที่มีอยู่เดิมในท้องถิ่นที่ถูกนำมาไว้ในพื้นที่ทางช่องทางใดช่องทางหนึ่ง และสามารถเพิ่มขนาดประชากรจนกลายเป็นชนิดเด่น (Dominant Species) ในสิ่งแวดล้อม ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่คุกคามความหลากหลายทางชีวภาพ โดยชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานอาจแก่งแย่ง แข่งขัน ก่อโรค หรือเป็นผู้ล่าจนทำให้สิ่งมีชีวิตดั้งเดิมในท้องถิ่น (Native Species) ลดลงหรืออาจสูญพันธุ์ได้ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและทรัพยากรชีวภาพ เศรษฐกิจ รวมถึงสุขภาพและอนามัยของมนุษย์ ปัจจุบันหน่วยงานต่างๆ ทั้งจากรัฐบาลและภาคประชาสังคม กำลังพยายามแก้ไขปัญหาการระบาดของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานในประเทศไทย รวมถึงการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานแก่สาธารณชน (สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2561)
ในการเรียนรายวิชาเพิ่มเติมฯ ชีววิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีกิจกรรมเกี่ยวกับการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพในระดับต่างๆ ตั้งแต่ความหลากหลายทางพันธุกรรม ความหลากหลายของสปีชีส์ ไปจนถึงความหลากหลายของระบบนิเวศ และทำความรู้จักกับสิ่งมีชีวิตที่พบในท้องถิ่นเป็นหลัก (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2563) ระหว่างทำกิจกรรมนั้น ผู้เรียนอาจพบกับสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมในท้องถิ่น หรือสิ่งมีชีวิตที่เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นก็ได้ ซึ่งการรู้ว่าในท้องถิ่นที่ผู้เรียนอยู่มีชนิดพันธุ์ต่างถิ่นอะไรบ้าง จะเป็นการขยายความรู้เกี่ยวกับปัญหาที่คุกคามความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่นที่มีสาเหตุมาจากชนิดพันธุ์ต่างถิ่น บทความนี้จะนำเสนอการระบุชนิดพันธุ์ต่างถิ่นโดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงการนำข้อมูลจากการทำกิจกรรมมาอภิปรายเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของชนิดพันธุ์ต่างถิ่น และการคาดการณ์ผลกระทบของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นต่อชนิดพันธุ์ดั้งเดิมในท้องถิ่น
เครื่องมือที่ช่วยระบุชนิดพันธุ์ต่างถิ่น
ปัจจุบันมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ช่วยระบุสิ่งมีชีวิต เช่น แอปพลิเคชัน คลังข้อมูลสารสนเทศของสิ่งมีชีวิตต่างๆ จากหลายแห่ง ซึ่งช่วยระบุสิ่งมีชีวิตที่พบ ประเภทของสิ่งมีชีวิตว่าเป็นชนิดพันธุ์ดั้งเดิมในท้องถิ่น หรือเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่น โดยจะยกตัวอย่างการใช้แอปพลิเคชันและคลังข้อมูลสารสนเทศของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ดังนี้
แอปพลิเคชัน Seek by iNaturalist
Seek by iNaturalist เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นโดย iNaturalist ร่วมกับ the California Academy of Sciences และ the National Geographic Society เพื่อใช้ระบุสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตโดยใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์รูปภาพ (Image Recognition) เทียบกับฐานข้อมูลสิ่งมีชีวิตของ iNaturalist ปัจจุบันสามารถระบุสิ่งมีชีวิตได้ประมาณ 20,000 สปีชีส์จากทั่วโลก และแยกประเภทสิ่งมีชีวิตที่พบในพื้นที่ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมในท้องถิ่นหรือเป็นสิ่งมีชีวิตต่างถิ่นได้ (iNaturalist, 2020) สามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีในโทรศัพท์มือถือทั้งระบบ iOS ผ่าน App Store และระบบ Android ผ่าน Google Play Store มีวิธีการใช้งานโดยสังเขปดังนี้
เมื่อเปิดแอปพลิเคชัน ระบบจะใช้ข้อมูลพิกัดทางภูมิศาสตร์ (GPS Coordinates) จากโทรศัพท์มือถือ เพื่อบ่งบอกสถานที่ที่ผู้ใช้แอปพลิเคชันอยู่ และเสนอรายการสิ่งมีชีวิตที่พบในพื้นที่นั้น (All Species) โดยผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนการนำเสนอกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่พบ โดยเลือกที่ All Species และเลือกดูเฉพาะกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่สนใจได้ ตัวอย่างเช่น พืช (Plants) นก (Birds) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม (Mammals) ดังภาพ 2
ภาพ 2 แอปพลิเคชัน Seek by iNaturalist และรายการสิ่งมีชีวิตที่พบในพื้นที่ (All Species)
ผู้ใช้งานเริ่มระบุสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตที่พบ โดยกดที่ไอคอน ในแอปพลิเคชัน ระบบจะเปิดกล้องถ่ายรูปขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานสามารถนำไปสแกนสิ่งมีชีวิตที่พบเพื่อระบุสปีชีส์ก่อนถ่ายรูป ในกรณีที่ระบบสามารถวิเคราะห์และระบุได้ถึงระดับสปีชีส์ ระบบจะแสดงคำว่า Species ชื่อสามัญเป็นภาษาอังกฤษหรือชื่อวิทยาศาสตร์ และจะขึ้นจุดสีเขียวจำนวน 7 จุด ซึ่งแต่ละจุดแสดงถึงระดับขั้นทางอนุกรมวิธาน คือ Kingdom, Phylum, Class, Order, Family, Genus และ Species ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังสามารถวิเคราะห์รูปถ่ายที่มีอยู่แล้วในโทรศัพท์มือถือเพื่อระบุสปีชีส์ได้เช่นกัน โดยเลือกที่ Photos แล้วเลือกรูปภาพของสิ่งมีชีวิต และเลือกคำสั่ง Identify Photo ดังภาพ 3
ภาพ 3 การใช้แอปพลิเคชันสแกนสิ่งมีชีวิตที่พบด้วยโหมดกล้องถ่ายรูป
เมื่อกดถ่ายภาพสิ่งมีชีวิตหรือใช้คำสั่ง Identify Photo แล้ว รูปภาพที่วิเคราะห์มีความคมชัดเพียงพอที่ระบบสามารถวิเคราะห์ได้ ระบบจะแสดงข้อมูลการระบุสปีชีส์สิ่งมีชีวิต และสามารถกดดูข้อมูลทางชีววิทยา การจำแนกทางอนุกรมวิธานด้วยการกดคำสั่ง View Species และถ้าสิ่งมีชีวิตดังกล่าวเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ระบบจะแสดงคำว่า Introduced ประกอบ ดังภาพ 4 นอกจากนี้ ถ้าผู้ใช้งานมีรหัสสมาชิกเป็นผู้ใช้งานระบบ iNaturalist สามารถแบ่งปันรูปภาพลงฐานข้อมูลของ iNaturalist ได้ โดยกดที่คำสั่ง Post to iNaturalist ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมาช่วยยืนยันผลการระบุสปีชีส์ด้วยอีกทาง ในกรณีที่ผู้ใช้งานพบว่าระบบระบุสปีชีส์ผิดพลาด สามารถกดที่ไอคอน เพื่อลบข้อมูลสิ่งมีชีวิตออกจากรายการสำรวจได้ทันที ทั้งนี้ ในกรณีที่ระบบไม่สามารถวิเคราะห์รูปได้ อาจลองเปลี่ยนมุมการถ่ายรูปสิ่งมีชีวิต และถ่ายรูปให้มีความคมชัดมากขึ้น หรือใช้คำสั่ง Post to iNaturalist เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมาร่วมกันวิเคราะห์และระบุสปีชีส์จากรูปแทน
ภาพ 4 ข้อมูลของสิ่งมีชีวิตที่ระบุสปีชีส์โดยระบบ iNaturalist
ในกรณีที่ต้องการดูข้อมูลการสำรวจทั้งหมดที่บันทึกไว้ในแอปพลิเคชัน สามารถกดที่ไอคอน และเลือก My Observations ระบบจะแสดงรายการของสิ่งมีชีวิตทุกสปีชีส์ที่ผู้ใช้งานสำรวจพบ ซึ่งสามารถกดเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้ ดังภาพ 5
ภาพ 5 ข้อมูลของสิ่งมีชีวิตทุกสปีชีส์ที่เคยสำรวจพบใน My Observations
อย่างไรก็ตาม ผลจากการระบุชื่อวิทยาศาสตร์และชนิดพันธุ์ต่างถิ่นจากแอปพลิเคชัน Seek by iNaturalist เป็นเพียงผลการค้นหาเบื้องต้นเท่านั้น บางครั้งการรายงานชนิดพันธุ์ต่างถิ่นอาจไม่ตรงกับทะเบียนรายการชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานของประเทศไทย จำเป็นต้องตรวจสอบกับคลังข้อมูลสารสนเทศอื่นๆ ที่จะกล่าวถึงต่อไป
คลังข้อมูลสารสนเทศชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานจากโครงการ Invasive Species of Thailand ในเว็บไซต์ iNaturalist
Invasive Species of Thailand เป็นโครงการ (Project) ที่ตั้งขึ้นในเว็บไซต์ iNaturalist โดยผู้ที่สนใจการสำรวจและรายงานชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในประเทศไทย ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ข้อมูล ณ ปัจจุบัน (วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566) พบว่ามีการสังเกตและรายงานชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในประเทศไทย 188 ชนิด รวมแล้วมากกว่า 11,000 ครั้ง โดยมาจากผู้สังเกต 2,314 คน และผู้ร่วมจำแนกหรือระบุชนิดพันธุ์ต่างถิ่น 1,048 คน โดยข้อมูลเหล่านี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ดังภาพ 6 สามารถเข้าถึงโครงการนี้ได้ที่ : https://www.inaturalist.org/projects/invasive-species-of-thailand
ภาพ 6 โครงการ Invasive Species of Thailand ในเว็บไซต์ iNaturalist
ผู้สนใจสามารถใช้งานข้อมูลชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในประเทศไทยจากโครงการดังกล่าว โดยการนำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในท้องถิ่นที่ผ่านการระบุสปีชีส์แล้ว มาสืบค้นข้อมูลและเปรียบเทียบชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อสามัญ บริเวณที่พบ หรือรูปถ่ายสิ่งมีชีวิตกับข้อมูลที่รายงานในโครงการ เพื่อให้ทราบว่าสิ่งมีชีวิตในท้องถิ่นที่สำรวจพบเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นหรือไม่ ดังภาพ 7 นอกจากนี้ ผู้สำรวจยังสามารถร่วมเป็นผู้สังเกตโดยสมัครสมาชิก iNaturalist เพื่อรายงานชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่พบในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทยในโครงการนี้ได้ และจะมีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมกันตรวจสอบข้อมูลและระบุสปีชีส์ของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รายงานเข้ามา เพื่อให้ฐานข้อมูลชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในประเทศไทยมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นได้
ภาพ 7 การสืบค้นข้อมูลชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่พบในประเทศไทยในโครงการ Invasive Species of Thailand
คลังข้อมูลสารสนเทศทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานของประเทศไทย จาก TH-BIF
ระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย (Thailand Biodiversity Information Facility หรือ TH-BIF) เป็นระบบที่รวบรวมข้อมูลสิ่งมีชีวิตที่พบในประเทศไทย ได้แก่ สัตว์ 19,411 สปีชีส์ พืช 18,701 สปีชีส์ จุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวข้อง 3,611 สปีชีส์ จากหลากหลายแหล่งข้อมูลในประเทศไทยมารวมไว้ที่เดียว รวมถึงข้อมูลเฉพาะเรื่อง ได้แก่ สิ่งมีชีวิตในพระนาม สถานภาพการคุกคาม และทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน เพื่อให้บุคลากรจากหลายภาคส่วน รวมถึงประชาชนได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลเปิดด้านความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย (สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2564) ระบบคลังข้อมูลนี้พัฒนาโดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในบทความนี้จะกล่าวถึงเฉพาะข้อมูลทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน ดังภาพ 8 สามารถเข้าถึงได้ที่ : https://thbif.onep.go.th/specifics/invasive-species
ภาพ 8 คลังข้อมูลทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานของประเทศไทย
ข้อมูลทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานที่ปรากฏในฐานข้อมูล สอดคล้องกับ “มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 เรื่องมาตรการป้องกัน ควบคุม และกำจัดชนิดพันธุ์ต่างถิ่น” ดังภาพ 9 ซึ่งกำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติเพื่อควบคุม ป้องกัน และกำจัดชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ทะเบียนรายการชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในประเทศไทย กำหนดนิยามและหลักเกณฑ์ในการจัดกลุ่มชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่ควรป้องกัน ควบคุม และกำจัดของประเทศไทยออกเป็น 4 รายการ รวมถึงข้อมูลด้านผลกระทบของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นต่อระบบนิเวศ เศรษฐกิจ และสุขภาพอนามัยของมนุษย์ โดยสามารถสืบค้นข้อมูลชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานโดยใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อสามัญ หรือชื่อไทยของสิ่งมีชีวิตที่สำรวจพบจากคลังข้อมูลนี้ และคลิกที่ปุ่ม “แสดงผล” ที่อยู่ด้านล่างสุดของการค้นหา จากนั้นคลิกไปที่แถบ “ตาราง” จะปรากฏข้อมูลการจัดหมวดหมู่ทางอนุกรมวิธานของชนิดพันธุ์ต่างถิ่น และเมื่อคลิกเข้าไปในชนิดพันธุ์นั้น จะพบข้อมูลทั่วไปของชนิดพันธุ์ต่างถิ่น แผนที่รายงานการพบในประเทศไทย รวมถึงแหล่งที่มาของข้อมูลและหน่วยงานผู้นำเข้าข้อมูล ดังภาพ 10
ภาพ 9 มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 เรื่อง มาตรการป้องกัน ควบคุม และกำจัดชนิดพันธุ์ต่างถิ่น
ภาพ 10 ตัวอย่างผลการสืบค้นข้อมูลจากคลังข้อมูลทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ที่รุกรานของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม บางครั้งเมื่อนำชื่อวิทยาศาสตร์ที่ระบุได้จากแอปพลิเคชัน Seek by iNaturalist มาสืบค้นต่อในคลังข้อมูลของ TH-BIF จะไม่พบข้อมูลของสิ่งมีชีวิต เช่น ผักตบชวา ปัจจุบันมีชื่อวิทยาศาสตร์เป็น Pontederia crassipes Mart. แต่ในคลังข้อมูลจะใช้ชื่อว่า Eichhornia crassipes Solms ซึ่งปัจจุบันนักอนุกรมวิธานจะให้ชื่อนี้เป็นชื่อพ้อง (Synonyms) ดังนั้น เมื่อสืบค้นข้อมูลในคลังข้อมูล อาจลองใช้ชื่อสามัญหรือชื่อไทยสืบค้นควบคู่กัน จากนั้นนำชื่อวิทยาศาสตร์ที่ได้จากคลังข้อมูลนี้ไปตรวจสอบกับคลังข้อมูลอื่นๆ ที่มีการรายงานชื่อพ้องควบคู่กับชื่อวิทยาศาสตร์ เช่น GBIF ที่ https://www.gbif.org/ ซึ่งเป็นคลังข้อมูลสารสนเทศความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลก เพื่อช่วยยืนยันความถูกต้องของชื่อวิทยาศาสตร์อีกช่องทางหนึ่ง ดังภาพ 11
ภาพ 11 ตัวอย่างผลการสืบค้นข้อมูลจากคลังข้อมูล GBIF ของผักตบชวา และข้อมูลชื่อพ้องของผักตบชวา (ในกรอบสีแดง)
ข้อเสนอแนะในการจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับผลกระทบของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่พบในท้องถิ่น
การจัดกิจกรรมสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพ นอกจากทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่น รวมถึงรู้จักถึงความหลากหลายของสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตที่พบในท้องถิ่นแล้ว ยังสามารถฝึกการใช้เครื่องมือและสืบค้นข้อมูลสิ่งมีชีวิตจากคลังข้อมูลต่างๆ เพื่อระบุชนิดพันธุ์ต่างถิ่น และสามารถนำผลการทำกิจกรรมไปต่อยอดและประยุกต์ใช้จัดการเรียนรู้ได้ ดังนี้
1. ผู้สอนอาจนำผลการสำรวจสิ่งมีชีวิตจากผู้เรียนหลายกลุ่ม และจากหลายห้องเรียน หรืออาจเก็บรวบรวมจากผู้เรียนหลายปีการศึกษามาประมวลผลเป็นข้อมูลกลางของความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและรายงานการพบชนิดพันธุ์ต่างถิ่นของท้องถิ่น เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลในการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ และอภิปรายผลกระทบของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานในท้องถิ่น โดยอาศัยการสืบค้นจากคลังข้อมูลต่างๆ และเลือกใช้ข้อมูลประกอบการอภิปรายอย่างมีวิจารณญาณ อาจนำข้อมูลไปใช้จัดการเรียนรู้ในบทเรียนมนุษย์กับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาและผลกระทบของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
2. ผู้สอนอาจช่วยผู้เรียนตรวจสอบข้อมูล ให้ข้อคิดเห็น และระบุสปีชีส์ทั้งชนิดพันธุ์ดั้งเดิมในท้องถิ่นและชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่พบจากการทำกิจกรรม โดยใช้เครื่องมือและคลังข้อมูลสารสนเทศที่ได้ยกตัวอย่างมาก่อนหน้า รวมถึงปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในประเทศหรือต่างประเทศเพื่อระบุสิ่งมีชีวิตกลุ่มต่างๆ ในกรณีที่ไม่สามารถระบุสปีชีส์ได้อย่างถูกต้อง และแนะนำให้ผู้เรียนใช้เครื่องมือที่เป็นวิทยาศาสตร์ภาคพลเมือง (Citizen Science) เช่น แอปพลิเคชัน Seek by iNaturalist หรือ iNaturalist เพื่อรายงานชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่พบในท้องถิ่นของตน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้เรียนกับประชาคมโลก และสร้างความตระหนักในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ โดยข้อมูลที่รายงานเข้าไปในระบบเหล่านี้ นอกจากจะได้รับการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นที่จะศึกษาเกี่ยวกับการแพร่กระจายของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในบริเวณต่างๆ รวมถึงได้รับทราบข้อมูลการแพร่ระบาดของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่เป็นปัจจุบันได้
3. ผู้สอนอาจนำผลจากการทำกิจกรรมของผู้เรียนไปเป็นผลสำรวจเบื้องต้น (Preliminary Survey หรือ Early Detection Survey) เพื่อนำไปจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) (Krasny et al., 2003) ตัวอย่างเช่น
3.1 การศึกษาประชากรของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานในท้องถิ่น โดยนำความรู้เกี่ยวกับการสุ่มตัวอย่างประชากร การประมาณขนาดประชากรจากบทเรียนระบบนิเวศและประชากรมาเป็นพื้นฐานในการประยุกต์และศึกษา
3.2 การศึกษาผลกระทบของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานต่อชนิดพันธุ์ดั้งเดิมของท้องถิ่น โดยศึกษาเพื่อให้เข้าใจว่าการเพิ่มขึ้นของขนาดประชากรชนิดพันธุ์ต่างถิ่นส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่เป็นชนิดพันธุ์ดั้งเดิมในท้องถิ่นอย่างไร
3.3 การศึกษาการตระหนักรู้ของชุมชนต่อการระบาดของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน โดยนำข้อมูลของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่พบในท้องถิ่นไปสอบถามบุคคลต่างๆ จากหลากหลายเพศ ช่วงอายุ อาชีพ ในชุมชนว่ารู้จักชนิดพันธุ์ต่างถิ่นเหล่านี้หรือไม่ เคยได้รับผลกระทบจากชนิดพันธุ์ต่างถิ่นเหล่านี้หรือไม่ อย่างไร รวมถึงอาจสอบถามความคิดเห็นของชุมชนต่อการควบคุม ป้องกัน กำจัดชนิดพันธุ์ต่างถิ่น
3.4 อาจนำไปต่อยอดศึกษาในประเด็นอื่นๆ เกี่ยวกับผลกระทบของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่ผู้เรียนสนใจ หรืออาจศึกษาผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือสุขภาพอนามัยของมนุษย์
การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพจะมีความหมายมากขึ้น เมื่อนำ “ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น” มาประกอบการเรียนรู้ ผู้เรียนจะมองเห็นปัญหาที่คุกคามความหลากหลายทางชีวภาพ และอาจส่งผลต่อเนื่องถึงชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชนได้ และการที่ผู้เรียนรู้จักชนิดพันธุ์ต่างถิ่นมากขึ้น จะต้องพึงระลึกเสมอว่า “ไม่ควรปล่อยชนิดพันธุ์ต่างถิ่นออกสู่สิ่งแวดล้อม” หรือกรณีที่ผู้เรียนเลี้ยงสัตว์หรือเพาะปลูกพืชที่เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่น เช่น กุ้งเครย์ฟิช จอกหูหนูยักษ์ จะต้องระมัดระวังและไม่ปล่อยสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ออกสู่สิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน จะเป็นแนวทางหนึ่งที่นำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมแก่ผู้เรียนได้ต่อไป
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของนิตยสาร สสวท. ปีที่ 51 ฉบับที่ 243 กรกฎาคม – สิงหาคม 2566
ผู้อ่านสามารถติดตามบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ https://emagazine.ipst.ac.th/243/16/
บรรณานุกรม
GBIF.org. (2022). Pontederia crassipes Mart. Retrieved July 10, 2023, from https://www.gbif.org/species/2765942
iNaturalist. (2020). Seek by iNaturalist User Guide. Retrieved May 21, 2023, from https://static.inaturalist.org/wiki_page_attachments/SeekUserGuide2020.pdf
iNaturalist. (2023). Invasive species of Thailand. Retrieved May 21, 2023, from https://www.inaturalist.org/projects/invasive-species-of-thailand
Krasny, M., Trautmann, N., Carlsen, W., & Cunningham, C. (2003). Invasion Ecology: Teacher’s Guide. Cornell Scientific Inquiry Series. Arlington, VA: National Science Teachers Association
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2563). หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา เล่ม 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตามผลการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2561). มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 เรื่อง มาตรการป้องกัน ควบคุม และกำจัดชนิดพันธุ์ต่างถิ่น. สืบค้นเมื่อ 21 พฤษภาคม 2566, จาก https://www.onep.go.th/ebook/bio/mati-20feb2561-alien-species.pdf
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2564). ระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย THAILAND BIODIVERSITY INFORMATION FACILITY (TH-BIF). สืบค้นเมื่อ 21 พฤษภาคม 2566, จาก https://thbif.onep.go.th/

