คิดก่อน...บลา บลา นานาโชเชียล
สื่อสังคม หรือ Social Media ได้เข้ามามีอิทธิพลและปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนไปหลายเรื่อง เช่น หากต้องการ ทราบข่าวสารต่าง ๆ เมื่อก่อนเราก็ไปซื้อหนังสือพิมพ์ หรือเปิดโทรทัศน์ ฟังวิทยุ แต่สมัยนี้ใช้เพียงแค่ปลายนิ้วจิ้มไปที่ สมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถอ่านข่าวสารต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ถ้าต้องการคุยกับเพื่อนก็โทรหา แต่เมื่อมีสื่อสังคม ทำให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ โดยการพิมพ์ข้อความหรือ “แชท” (Chat) ผ่านโปรแกรมสนทนา สามารถส่งข้อความได้ทั้งแบบส่วนตัวหรือในกลุ่มสนทนา หรืออาจวิดีโอคอลก็ได้ นอกจากนี้ ยังใช้โพสต์ข้อความ รูปภาพ คลิปวีดิทัศน์ หรือถ่ายทอดสดเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างทันทีทันใด
จะเห็นได้ว่าสื่อสังคมมีประโยชน์ในการติดต่อสื่อสาร กระจายข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องใช้อย่างเหมาะสม และระมัดระวังไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น ผู้ใช้จึงต้องคิดก่อน ดังประเด็นต่อไปนี้
ภาพ 1 คิดอะไรบ้างก่อนแชร์หรือโพสต์
ที่มา Sarah Bengtson. (2018). https://iowacity.citymomsblog.com/2018/06/29/responsible-sharing-social-media/
คิดก่อนแชร์ (Share)
หลายคนเมื่อได้รับข่าวหรือข้อมูลในสื่อสังคม จะแชร์หรือส่งต่อในโปรแกรมสนทนาทันทีทั้งในรูปแบบ การสนทนาส่วนตัว หรือในห้องสนทนากลุ่ม เรียกได้ว่าเป็น “ม้าเร็วส่งสาร” แต่ช้าก่อน!!! ก่อนจะแชร์อะไรออก ไป เรามา “คิด” (THINK) กันสักนิดดีไหม
ภาพ 2 ตัวอย่างข้อความในแชท
ที่มา หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
T: True เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ต้องคิดไว้เสมอก่อนแชร์ว่าข้อมูลนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ถ้าข้อมูลนั้นไม่เป็นความจริงและ หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น กินสิ่งนี้แล้วจะหายจากโรคนั้น หรือเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ เมื่อผู้รับข้อความนำาข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ไปปฏิบัติตาม อาจจะเกิดอันตรายได้ รวมถึงในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น เมื่อเกิดภัยพิบัติ การแชร์ข่าวยิ่งต้องใช้ความระมัดระวังให้มาก เพราะ ส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก นอกจากนี้ การแชร์ข่าวหรือเรื่องที่ไม่เป็นความจริงนั้น ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14 มีโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย
H: Helpful เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นหรือไม่ แม้ว่าข้อมูลนั้นจะเป็นเรื่องจริง แต่ถ้าไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นก็ไม่ควรแชร์
I: Inspiring เป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างความรู้สึกที่ดีต่อผู้อ่านหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ควรแชร์ตัวอย่างข้อมูลลักษณะนี้ เช่น ข่าวอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่มีภาพสยดสยอง น่ากลัว ผู้ที่ได้รับข่าวอาจจะรู้สึกหดหู่ สลดใจ จึงไม่ควรแชร์
N: Necessary เป็นเรื่องที่ผู้อื่นจำเป็นต้องทราบหรือไม่ หากไม่จำเป็น หรือไม่อยู่ในความสนใจ อาจเป็นการรบกวนหรือสร้างความรำคาญได้ รวมถึงควรเลือกแชร์ข้อมูลให้เหมาะสมกับกลุ่มสนทนาด้วย
K: Kind ต้องพิจารณาว่า ผู้เผยแพร่เรื่องนี้มีเจตนาดีต่อผู้อื่นหรือไม่มีวัตถุประสงค์อะไรในการเผยแพร่ ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อผู้อื่นก็ไม่ควรแชร์ เช่น ถ้าเจอ โพสต์ "ส่งต่อเพื่อช่วยน้องเหมียว" ในสื่อสังคม ก่อนอื่นต้องพิจารณาว่าเจตนา ของผู้เผยแพร่คืออะไร และถ้าเราแชร์ต่อแล้ว น้องเหมียวจะได้รับการช่วยเหลือ อย่างที่เราตั้งใจไว้จริงหรือไม่ ซึ่งโพสต์ในลักษณะนี้ ผู้เผยแพร่จะได้ประโยชน์ใน การประชาสัมพันธ์แฟนเพจ ได้ยอดคนกดถูกใจเพิ่มขึ้น หรืออาจจะมีโฆษณาแฝง ถ้าเราแชร์ต่อก็จะตกเป็นเครื่องมือในการโฆษณาให้เขาโดยที่ไม่รู้ตัว
ภาพ 3 ตัวอย่างโพสต์ "ส่งต่อเพื่อช่วยน้องเหมียว"
ที่มา หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คิดก่อนโพส (Post)
นอกจากต้องคิดก่อนแชร์แล้ว ก่อนที่เราจะโพสต์ภาพหรือข้อความใด ๆ บนสื่อสังคมต้อง "คิด" (Think) เช่นเดียวกัน และต้องตระหนักอยู่เสมอว่าสิ่งที่เราจะโพสต์ลงสื่อสังคม จะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือไม่ เช่น การตัดต่อ ภาพผู้อื่นแล้วโพสต์ ทำให้ผู้อื่นเสียหายและเสียชื่อเสียง ถือเป็นการระรานทางไซเบอร์รูปแบบหนึ่ง มีความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 16 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท และอาจถูกฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาท มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 อีกด้วย
นอกจากการตัดต่อภาพที่สร้างความเสียหายให้กับ ผู้อื่นแล้ว การถ่ายภาพผู้อื่นแล้วโพสต์โดยใช้ข้อความแสดง ความคิดเห็นที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ก็เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควร ปฏิบัติเช่นกัน เราอาจเคยพบข่าวต่าง ๆ เช่น กรณีที่มีผู้โพสต์ภาพ แม่บ้านนั่งพื้นรอนายจ้างรับประทานอาหาร และผู้โพสต์เขียน ข้อความประกอบในลักษณะต่อว่านายจ้าง ทำให้นายจ้าง ถูกประนาม ด่าทอ โดยที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ซึ่งใน ความเป็นจริง แม่บ้านคนนั้นเต็มใจที่จะนั่งรอบนพื้น และก่อน หน้านั้นก็ได้รับประทานอาหารร่วมกับนายจ้างเรียบร้อยแล้ว เร่ืองนี้สอนให้รู้ว่า สิ่งที่เห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คิด อย่าด่วนตัดสินใครไปก่อนที่จะรู้ความจริงทั้งหมด เราจึงมักได้ยินคำเหล่านี้ “โอละพ่อ” “เงิบ” “โป๊ะแตก” ดังนั้น ก่อนจะโพสต์ข้อความ วิพากษ์วิจารณ์เรื่องใด ควรตรวจสอบความจริงก่อน เพราะอาจ ทำให้ผู้อื่นเสียหายด้วยปลายนิ้วของเราก็ได้ ซึ่งการโพสต์ลักษณะนี้ เป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ทั้งมาตรา 14 และ 16 เนื่องจากเป็นการเผยแพร่ทั้งข่าวลวง และข่าวที่สร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น ผู้เสียหายสามารถ ฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาทได้เช่นเดียวกัน
ภาพ 4 ตัวอย่างการระรานทางไซเบอร์
ที่มา หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
สถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
คิดก่อนคอมเมนต์ (Comment)
พฤติกรรมต่อมาที่ควรตระหนักและควรระมัดระวังคือ การใช้ข้อความแสดงความคิดเห็น อย่าลืมว่าสื่อสังคม เป็นสื่อสาธารณะ แม้ว่าเราจะตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเฉพาะเพื่อนแล้วก็ตาม หรือแสดงความเห็นในโพสต์ของเราเอง ก็ควรใช้คำที่สุภาพ เหมาะสม ไม่ว่าร้ายผู้อื่นหรือใช้คำพูดส่อเสียด ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ซึ่งนอกจากจะผิดจริยธรรมแล้วยัง ผิดกฎหมายอีกด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะต่อท้ายด้วยคำว่า “ความคิดเห็นส่วนตัว งดดราม่า” หรือ “คหสต.” แล้วก็ตาม ซึ่งข้อความที่เราแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ของแฟนเพจต่าง ๆ หรือกลุ่มที่ตั้งค่าการแสดงเป็นสาธารณะ จะแสดงใน หน้าแรกของสื่อสังคมของเพื่อนคนอื่น ๆ ของเราด้วย (ถ้าไม่ได้ตั้งค่าให้แสดงข้อความเฉพาะผู้ดูแลแฟนเพจ)
คิดก่อนแฮชแท็ก (Hash Tag)
นอกจากจะต้องคิดก่อนแชร์ คิดก่อนโพสต์ และคอมเมนต์แล้ว การใช้สื่อสังคมออนไลน์จะต้องใช้วิจารณญาณ และพิจารณาข้อมูลให้รอบด้านก่อนจะเชื่อหรือตัดสินใจอีกเรื่องหนึ่ง คือ การติดแฮชแท็กเป็นการพิมพ์เครื่องหมายแฮชแท็ก (#) ตามด้วยคำที่บ่งบอกหมวดหมู่หรือสาระสำคัญของเรื่อง เมื่อผู้อ่าน คลิกคำที่มีเครื่องหมาย # ก็จะสามารถเชื่อมโยงไปยังโพสต์อื่น ๆ ที่ติดเครื่องหมาย # เช่นเดียวกับคำนั้นได้ ใช้ประโยชน์ ในการค้นหาเพื่ออ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกันได้ ในบางครั้งเครื่องหมาย # ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการปลุกระดม คนในสื่อสังคมให้มีความเห็นคล้อยตามกันในเร่ืองใดเร่ืองหนึ่ง โดยคนอื่น ๆ ก็พิมพ์ #ข้อความเหล่านั้น และเชื่อตามๆ กัน โดยไม่ได้ตรวจสอบที่มาที่ไปของเรื่องราวหรือข่าวเหล่านั้น บุคคลที่ไม่ได้ทำอะไรผิดก็ถูกกล่าวหาและถูกสังคม ตัดสินไปแล้ว ดังนั้น ก่อนจะพิมพ์ # แชร์ แสดงความคิดเห็น กดถูกใจในสื่อสังคม จะต้องใช้วิจารณญาณและศึกษา ข้อมูลให้รอบด้าน เพราะสิ่งที่ทำอาจส่งผลเสียมากกว่าที่เราคิดก็ได้
ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางปฏิบัติในการใช้สื่อสังคมโดยไม่สร้างความเดือดร้อนหรือเสียหายต่อผู้อื่น สิ่งเหล่านี้ ควรปลูกฝังให้เกิดกับผู้ใช้สื่อสังคมทุกคนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ก่อนจะทำอะไรต้องคิดให้มาก และตระหนักอยู่เสมอว่า สิ่งเหล่านั้นจะส่งผลกระทบถึงใคร หรือทำให้ใครเดือดร้อนบ้าง เราควรใช้สื่อสังคมในทางสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ ต่อสังคม เช่น เผยแพร่เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ สาระความรู้ ช่วยเหลือผู้อื่น สื่อสังคมเปรียบเสมือนกระดาษขาว เราอยากให้กระดาษใบนี้เป็นภาพวาดสวยๆ หรือเป็นภาพน่ากลัว ก็ขึ้นอยู่กับเรา...
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของนิตยสาร สสวท. ปีที่ 48 ฉบับที่ 222 มกราคม – กุมภาพันธ์ 2563
ผู้อ่านสามารถติดตามบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ https://emagazine.ipst.ac.th/222/28/
บรรณานุกรม
Kapook. แชร์ว่อน! แม่บัานนั่งพื้นรอเจ้านายกินข้าว-โซเชียลเสียงแตก ชี้อย่าเพิ่งเชื่อแค่รูป ๆ เดียว. สืบค้นเมื่อ 8 มกราคม 2563, จาก https://hilight.kapook.com/view/165549.
Khaosod. “ป้าสุมัย” มาเองจบดราม่าแบ่งชนชั้นแม่บ้านนั่งพื้น แจงเจ้านายเลี้ยงดี นั่งเก้าอี้ไม่เป็น. สืบค้นเมื่อ 8 มกราคม 2563, จาก https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_679653.
Sarah Bengtson. (2018). T.H.I.N.K. Before You Share: Responsible Sharing on Social Media. Retrieved January 10, 2020, from
https://iowacity.citymomsblog.com/2018/06/29/responsible-sharing-social-media/.
ธรรณพ สมประสงค์. Hashtag คืออะไร และ วิธีการใช้ #Hashtag ที่เหมาะสม. สืบค้นเมื่อ 11 มกราคม 2563, จาก https://www.thanop.com/hashtag/.
นิติธร แก้วโต. รู้ก่อนทำผิด! พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่มีอะไร. สืบค้นเมื่อ 22 มกราคม 2563, จาก https://www.thairath.co.th/content/956490.
ผนวกเดช สุวรรณทัต. (2560). เอกสารประกอบการอบรมครูวิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษา. สาขาเทคโนโลยี สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.). (2561). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. กรุงเทพมหานคร: องค์การค้าของ สกสค. ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.). (2562). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. กรุงเทพมหานคร: องค์การค้าของ สกสค. ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์.
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์. (2560). พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560. สืบค้นเมื่อ10 มกราคม 2563, จากhttps://ictlawcenter.etda.or.th/laws/detail/computer-crime-2-act-2560.
-
12170 คิดก่อน...บลา บลา นานาโชเชียล /article-technology/item/12170-2021-04-27-08-44-41เพิ่มในรายการโปรด
-
คำที่เกี่ยวข้อง


