กระแสเลือด ในขณะเดียวกันโมโนไซต์จะแทรกตัวไปตามเนื้อเยื่อบริเวณนั้น และเปลี่ยนแปลงไปเป็น
แมโครฟาจ ทำ�หน้าที่ดักจับและทำ�ลายสิ่งแปลกปลอมซึ่งกลไกเหล่านี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการอักเสบที่
เกิดขึ้นบริเวณบาดแผล
จากนั้นครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับกลไกการอักเสบของร่างกายมนุษย์ โดยอาจใช้คำ�ถาม ดังนี้
การอักเสบมีความสำ�คัญกับร่างกายหรือไม่ อย่างไร
กลไกการอักเสบเกิดขึ้นได้อย่างไร
จากการสืบค้นข้อมูลนักเรียนควรสรุปได้ว่า การอักเสบเป็นอีกกลไกหนึ่งของกลไกการต่อต้าน
หรือทำ�ลายสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จำ�เพาะ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อมีการติดเชื้อบริเวณบาดแผลทำ�ให้เชื้อโรค
เข้าสู่เนื้อเยื่อ การอักเสบมีความสำ�คัญกับร่างกายโดยเป็นกลไกที่ช่วยทำ�ลายสิ่งแปลกปลอมหรือทำ�ให้
สิ่งแปลกปลอมหมดความสามารถเข้าทำ�ลายเนื้อเยื่อ และยังซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เกิดความเสียหาย โดย
ขั้นตอนการอักเสบจะเกี่ยวข้องกับฟาโกไซต์ เช่น นิวโทรฟิล และโมโนโซต์ที่จะทำ�ลายสิ่งแปลกปลอม
และเนื้อเยื่อส่วนที่เสียหายโดยฟาโกไซโทซิส ดังรูป 16.2 จนสุดท้ายสิ่งแปลกปลอมที่ถูกทำ�ลายจาก
การอักเสบและฟาโกไซต์ที่ตายแล้วจะรวมกันเป็นหนองและถูกกำ�จัดออกไป ซึ่งในระหว่างการอักเสบ
จะมีอาการ บวม แดง เจ็บ และอุณหภูมิบริเวณที่อักเสบสูงขึ้น หลังจากนั้นจะเกิดการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
บริเวณนั้นให้กลับคืนสู่สภาพเดิมและทำ�หน้าที่ได้ดังเดิม
อีโอซิโนฟิล (eosinophil) มีประมาณร้อยละ1-4ของเซลล์เม็ดเลือดขาว
นิวเคลียสส่วนใหญ่มี 2 พู ประกอบด้วยแกรนูลพิเศษที่มีขนาดใหญ่
รูปรี หน้าที่หลักของอีโอซิโนฟิล คือ การต่อต้านและทำ�ลายปรสิต
ขนาดใหญ่
เบโซฟิล (basophil) มีจำ�นวนน้อยกว่าร้อยละ 1 ของเซลล์เม็ดเลือดขาว
นิวเคลียสมี 2 พู แต่เห็นไม่ชัดเจน แกรนูลมีขนาดใหญ่กว่าที่พบใน
อีโอซิโนฟิลแต่มีจำ�นวนน้อยกว่า มีรูปร่างกลมหรือรี เบโซฟิลสามารถ
ตอบสนองต่อแอนติเจนโดยการสร้างและหลั่งฮิสทามีน ทำ�ให้เกิด
อาการแพ้ได้เช่นเดียวกับเซลล์แมสต์
ความรู้เพิ่มเติมสำ�หรับครู
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 16 | ระบบภูมิคุ้มกัน
ชีววิทยา เล่ม 4
152