Table of Contents Table of Contents
Previous Page  166 / 254 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 166 / 254 Next Page
Page Background

ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับกลไกการต่อต้านหรือทำ�ลายสิ่งแปลกปลอมแบบจำ�เพาะจาก

แหล่งการเรียนรู้อื่นๆ เช่น เว็บไซต์ แพทย์ หรือบุคลากรทางด้านสาธารณสุขอื่นๆ โดยอาจกำ�หนด

หัวข้อให้สืบค้นดังนี้

1. กลไกการต่อต้านหรือทำ�ลายสิ่งแปลกปลอมโดยเซลล์ที

2. กลไกการต่อต้านหรือทำ�ลายสิ่งแปลกปลอมโดยเซลล์บี

ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการสืบค้นเพื่อให้นักเรียนเข้าใจถึงหลักการทำ�งานของเซลล์ที

และเซลล์บี โดยอธิบายถึงบริเวณตัวรับแอนติเจนบนผิวเซลล์ของเซลล์ที (TCR) และตัวรับแอนติเจน

บนผิวเซลล์ของเซลล์บี (BCR) ที่มีโครงสร้างที่แตกต่างกัน ทำ�ให้มีบริเวณจับแอนติเจนแตกต่างกันไป

ด้วย โดย TCR มีบริเวณจับแอนติเจน 1 ตำ�แหน่งดังรูป 16.5 ขณะที่ BCR มีบริเวณจับแอนติเจน 2

ตำ�แหน่ง ดังรูป 16.7

นอกจากนี้ TCR ยังไม่สามารถจับกับแอนติเจนได้โดยตรง แต่จะจับกับชิ้นส่วนแอนติเจนที่ถูก

นำ�เสนอโดยเซลล์นำ�เสนอแอนติเจนเท่านั้น

ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้จากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับกลไกการต่อต้านหรือทำ�ลาย

สิ่งแปลกแปลอมแบบจำ�เพาะโดยใช้รูป 16.9 ในหนังสือเรียน ซึ่งสรุปได้ดังนี้

เซลล์เม็ดเลือดขาวที่เกี่ยวข้องกับกลไกการต่อต้านหรือทำ�ลายสิ่งแปลกปลอมแบบจำ�เพาะ

คือ ลิมโฟไซต์ ซึ่งแบ่งได้เป็น เซลล์ทีและเซลล์บี

บริเวณผิวเซลล์ทีมีตัวรับแอนติเจน เรียกว่า TCR เพื่อจับกับชิ้นส่วนแอนติเจนที่ถูกนำ�เสนอ

โดยเซลล์นำ�เสนอแอนติเจน ส่วนเซลล์บีมีตัวรับแอนติเจน ที่เรียกว่า BCR ที่สามารถจับ

จำ�เพาะกับแอนติเจนได้อย่างจำ�เพาะเช่นเดียวกัน

เมื่อแอนติเจนถูกย่อยด้วยแมโครฟาจซึ่งทำ�หน้าที่เป็นเซลล์นำ�เสนอแอนติเจน เซลล์ที

ชนิด CD4 จะตอบสนองต่อชิ้นส่วนแอนติเจนบนผิวของแมโครฟาจและส่งสัญญาณไปยัง

เซลล์อื่นๆ ในระบบภูมิคุ้มกัน โดยการหลั่งไซโทไคน์

ไซโทไคน์ที่ปล่อยจากเซลล์ทีชนิด CD4 จะกระตุ้นการทำ�งานของเซลล์อื่น ๆ ในระบบ

ภูมิคุ้มกัน ดังนี้

- กระตุ้นเซลล์ทีชนิด CD8 ให้แบ่งเซลล์แล้วไปทำ�ลายเซลล์แปลกปลอมหรือเซลล์ที่ติด

เชื้อไวรัส และบางส่วนเปลี่ยนไปเป็นเซลล์ความจำ�

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 16 | ระบบภูมิคุ้มกัน

ชีววิทยา เล่ม 4

154