Table of Contents Table of Contents
Previous Page  41 / 284 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 41 / 284 Next Page
Page Background

4.4 มิวเทชัน

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายสาเหตุและผลของการเกิดมิวเทชันระดับยีนและระดับ

โครโมโซม

2. ยกตัวอย่างโรคและกลุ่มอาการที่เป็นผลของการเกิดมิวเทชันระดับยีนและระดับโครโมโซม

แนวการจัดการเรียนรู้

ครูนำ�เข้าสู่บทเรียนโดยให้นักเรียนศึกษารูป 4.23 เก้งและเก้งเผือก หรือรูปสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เช่น

กระต่ายสีขาวและกระต่ายสีอื่นๆ แล้วให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายในประเด็นดังนี้

ลักษณะของสัตว์เผือกลักษณะใดที่ผิดไปจากปกติและลักษณะใดบ้างที่เหมือนเดิม

ลักษณะที่ผิดปกตินี้สามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไปได้หรือไม่

จากการอภิปรายนักเรียนควรสรุปได้ว่า สัตว์เผือกมีลักษณะที่ต่างไปจากปกติ เช่น สีขนเป็น

สีขาว สีของดวงตาเป็นสีแดง แม้ว่าสัตว์เผือกจะมีลักษณะบางอย่างที่ผิดปกติ แต่ลักษณะส่วนใหญ่

ยังคงเหมือนกับพ่อแม่ ลักษณะเผือกนี้สามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไปได้ ลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไป

เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ DNA และโครโมโซม เรียกลักษณะนี้ว่า การกลายหรือมิวเทชัน ในกรณี

ของกระต่ายสีขาวซึ่งมีลักษณะเผือก แต่ถูกนำ�มาขยายพันธุ์เพิ่มจำ�นวนเป็นสัตว์เลี้ยงจนพบเห็นได้

ทั่วไป

ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยเห็นสัตว์ที่มีลักษณะเผือกบ่อยหรือไม่ คำ�ตอบของนักเรียนอาจ

มีได้หลากหลาย ครูให้ความรู้ว่า มิวเทชันสามารถเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เกิดในอัตราที่ต่ำ�มาก

มิวทาเจน เช่น รังสีและสารเคมีต่าง ๆ ชักนำ�ให้เกิดมิวเทชันเพิ่มขึ้นได้ มิวทาเจนบางชนิดเป็น

สิ่งก่อมะเร็ง ถ้าได้รับในปริมาณมากหรือบ่อยครั้ง จะทำ�ให้เป็นมะเร็งได้

การเกิดมิวเทชันแบ่งออกเป็นมิวเทชันระดับยีนและมิวเทชันระดับโครโมโซม ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

4.4.1 มิวเทชันระดับยีน

ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับมิวเทชันระดับยีน และศึกษารูป 4.24 ในหนังสือเรียน

จากนั้นตอบคำ�ถามซึ่งมีแนวคำ�ตอบดังนี้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 4 | โครโมโซมและสารพันธุกรรม

ชีววิทยา เล่ม 2

29