ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นหรือขาดหายของนิวคลีโอไทด์ แล้วตอบคำ�ถาม
ในหนังสือเรียน ซึ่งมีแนวคำ�ตอบดังนี้
มิวเทชันแบบการแทนที่คู่เบสและเฟรมชิฟท์มิวเทชัน ทำ�ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง DNA และมี
ผลต่อการแสดงลักษณะของสิ่งมีชีวิตแตกต่างกันอย่างไร
การแทนที่คู่เบส
เฟรมชิฟท์มิวเทชัน
1. มีการเปลี่ยนแปลงแทนที่คู่เบสในสาย
พอลินิวคลีโอไทด์ของ DNA เช่น A-T
ถูกแทนที่ด้วย G-C
2. มีผลทำ�ให้เปลี่ยนแปลงเฉพาะบริเวณรหัส
พันธุกรรม แต่ไม่ทำ�ให้รหัสพันธุกรรมอื่นๆ
เปลี่ยนแปลง
3. อาจมีผลหรือไม่มีผลต่อลักษณะของสิ่งมีชีวิต
คือถ้าเกิดการแทนที่คู่เบสแล้วได้รหัส
พันธุกรรมที่กำ�หนดชนิดของกรดแอมิโน
เหมือนเดิม จะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง
ชนิดกรดแอมิโน จึงไม่มีผลต่อลักษณะ
พันธุกรรม แต่ถ้าได้รหัสที่ทำ�ให้ชนิดของกรด
แอมิโนเปลี่ยนไป โปรตีนอาจจะเปลี่ยนไป
ด้วย ซึ่งจะทำ�ให้มีผลต่อการแสดงลักษณะ
ของสิ่งมีชีวิต เช่น โรคโลหิตจางชนิดซิกเคิลเซลล์
1. มีการเพิ่มหรือขาดหายของนิวคลีโอไทด์ที่หาร
ด้วยสามไม่ลงตัว ในสายพอลินิวคลีโอไทด์
ของ DNA
2. มีผลทำ�ให้รหัสพันธุกรรมเปลี่ยนแปลงไปจาก
เดิม ลำ�ดับและชนิดของกรดแอมิโนในลำ�ดับ
ถัดไปจะเปลี่ยนไปด้วย
3. มักจะมีผลต่อลักษณะของสิ่งมีชีวิต สมบัติ
ของพอลินิวคลีโอไทด์หรือโปรตีนที่ได้จาก
การสังเคราะห์โปรตีนจะแตกต่างไปจากปกติ
เนื่องจากเกิดรหัสหยุดก่อนรหัสหยุดเดิมและ
ทำ�ให้พอลิเพปไทด์มีขนาดสั้นลง
ครูอาจเน้นให้นักเรียนเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่าง DNA โปรตีน และลักษณะทางพันธุกรรม
ได้ว่า เมื่อลำ�ดับเบสของ DNA เปลี่ยนแปลงจะมีผลต่อการสังเคราะห์โปรตีน ทำ�ให้ลักษณะทาง
พันธุกรรมเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า DNA ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 4 | โครโมโซมและสารพันธุกรรม
ชีววิทยา เล่ม 2
31