Table of Contents Table of Contents
Previous Page  169 / 367 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 169 / 367 Next Page
Page Background

การวิเคราะห์ตัวชี้วัด

แนวทางการจัดการเรียนรู้

แนวทางการวัดและประเมินตัวชี้วัด

ทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑

๑. ทักษะด้านความร่วมมือและการทำ�งาน

เป็นทีม โดยมีส่วนร่วมในการทำ�กิจกรรมเพื่อ

ศึกษากลไกการหายใจเข้าและออกโดยใช้

แบบจำ�ลองปอด การเขียนแผนภาพแสดง

กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊ส การสำ�รวจ

ความจุอากาศของปอด การออกแบบผลงาน

และการนำ�เสนอผลงานเกี่ยวกับโรคที่

เกี่ยวข้องกับระบบหายใจ และแนวทางการ

ดูแลรักษาอวัยวะในระบบหายใจให้ทำ�งาน

เป็นปกติ

๒. ทักษะด้านการสื่อสาร โดยการนำ�เสนอ

ผลการใช้แบบจำ�ลองปอด แผนภาพ

กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊ส ผลการสำ�รวจ

ความจุอากาศของปอด ผลงานเกี่ยวกับโรค

ที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจ และแนวทาง

ในการดูแลรักษาอวัยวะในระบบหายใจให้

ทำ�งานเป็นปกติ

๓. ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยการ

วิเคราะห์ และเปรียบเทียบข้อดีและข้อจำ�กัด

ของการทำ�งานของแบบจำ�ลองปอดกับกลไก

การหายใจเข้าและหายใจออกของร่างกาย

๔. ทักษะด้านการสร้างสรรค์ โดยการออกแบบ

ผลงานเกี่ยวกับโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบ

หายใจและแนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะ

ในระบบหายใจ

ทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑

๑. ประเมินทักษะด้านความร่วมมือและการทำ�งาน

เป็นทีม จากการใช้แบบจำ�ลอง การเขียนแผนภาพ

แสดงกระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊ส การสำ�รวจ

ความจุอากาศของปอด การออกแบบผลงาน และ

การนำ�เสนอผลงาน โดยทำ�งานร่วมกับผู้อื่นตั้งแต่

เริ่มต้นจนสำ�เร็จลุล่วง

๒. ประเมินทักษะด้านการสื่อสาร จากการนำ�เสนอ

ผลการใช้แบบจำ�ลองปอด แผนภาพกระบวนการ

แลกเปลี่ยนแก๊ส ผลการสำ�รวจความจุอากาศของ

ปอด ผลงานเกี่ยวกับโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจ

และแนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะในระบบหายใจ

ให้ทำ�งานเป็นปกติ ให้ผู้อื่นเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว

ชัดเจนและถูกต้อง

๓. ประเมินทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ จาก

การวิเคราะห์ และเปรียบเทียบข้อดีและข้อจำ�กัดของ

การทำ�งานของแบบจำ�ลองปอดกับกลไกการหายใจ

เข้าและออกของร่างกาย ได้อย่างถูกต้อง สมเหตุ

สมผล

๔. ประเมินทักษะด้านการสร้างสรรค์ จากการออกแบบ

ผลงานเกี่ยวกับโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจและ

แนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะในระบบหายใจ

โดยผลงานจะสะท้อนให้เห็นจินตนาการ และ

แนวคิดใหม่

๑๓. ครูกระตุ้นให้นักเรียนสงสัยและตั้งคำ�ถามเกี่ยวกับความจุอากาศของ

ปอดที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล เพื่อนำ�ไปสู่การสำ�รวจความจุอากาศ

ของนักเรียนชายและหญิง และนักเรียนที่ออกกำ�ลังกายเป็นประจำ�กับ

นักเรียนที่ไม่ค่อยออกกำ�ลังกาย หรือนักเรียนที่เป็นกีฬากับนักเรียนที่ไม่

เป็นนักกีฬา

๑๔. นักเรียนสำ�รวจความจุอากาศของปอดระหว่างเพศหญิงและเพศชายคนที่

ออกกำ�ลังกายและคนที่ไม่ออกกำ�ลังกาย คนที่เป็นนักกีฬาและคนที่ไม่เป็น

นักกีฬา เพื่อเปรียบเทียบความจุอากาศของปอด โดยอาจใช้ชุดอุปกรณ์

เพื่อวัดความจุอากาศของปอด บันทึกและรวบรวมข้อมูล นำ�เสนอผลใน

รูปแบบต่าง ๆ เช่น กราฟ ตาราง

๑๕. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อลงข้อสรุปว่า ความจุอากาศของปอดมนุษย์

ในแต่ละเพศไม่เท่ากัน โดยทั่วไปเพศชายจะมีความจุอากาศของปอด

มากกว่าเพศหญิง คนที่ออกกำ�ลังกายและนักกีฬาจะมีความจุอากาศของ

ปอดมากกว่าคนที่ไม่ออกกำ�ลังกาย และคนที่ไม่เป็นนักกีฬา

๑๖. นักเรียนตั้งคำ�ถามเกี่ยวกับสิ่งที่ส่งผลต่อความจุอากาศของปอด เพื่อนำ�

ไปสู่การสืบค้นข้อมูล

๑๗. นักเรียนสืบค้นข้อมูล และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ส่งผลต่อความจุ

อากาศของปอด จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือ เช่น หนังสือ

อินเทอร์เน็ต

๑๘. นักเรียนร่วมกันอภิปราย วิเคราะห์ เพื่อลงข้อสรุปว่า การสูบบุหรี่

การสูดอากาศที่มีสารปนเปื้อน และการเป็นโรคเกี่ยวกับระบบหายใจ

บางโรค อาจทำ�ให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งมีผลให้ความจุอากาศของปอด

ลดลง เนื่องจากผนังหลอดลมบางส่วนถูกทำ�ลายหรือผนังของถุงลมขาด

ความยืดหยุ่นทำ�ให้พื้นที่ในการแลกเปลี่ยนแก๊สลดลง การออกกำ�ลังกาย

เป็นประจำ�จะทำ�ให้ความจุอากาศของปอดเพิ่มขึ้น

159

วิทยาศาสตร์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒