หลังจากที่นักเรียนทำ�กิจกรรมเสนอแนะ การเบนเนื่องจากแสง และกิจกรรมการเบนเนื่องจาก
แรงโน้มถ่วงของโลกแล้ว นักเรียนควรอธิบายได้ว่า กิจกรรมทั้งสองนี้เป็นการศึกษาการตอบสนองของ
พืชโดยทิศทางการตอบสนองสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้า ซึ่งสิ่งเร้าในที่นี้คือแสง และแรงโน้มถ่วงของ
โลก ครูอาจถามนักเรียนต่อไปว่าพืชยังมีการตอบสนองที่มีทิศทางสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้า
อย่างอื่นอีกหรือไม่ ซึ่งคำ�ตอบของนักเรียนอาจตอบว่าสิ่งเร้าที่มากระตุ้น เช่น สารเคมี น้ำ�
12.3.2 แนสติกมูฟเมนต์
ครูอาจใช้รูป 12.14 และ 12.15 ในหนังสือเรียน แล้วให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่า
การตอบสนองของพืชโดยการบานและการหุบของดอกบัวสายสีขาว และการกางใบและการหุบ
ของใบไมยราบ เป็นการตอบสนองของพืชที่มีทิศทางสัมพันธ์กับสิ่งเร้าภายนอกที่มากระตุ้นหรือไม่
ซึ่งคำ�ตอบของนักเรียนควรตอบได้ว่า การตอบสนองพืชในรูปเป็นการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมที่มี
ทิศทางไม่สัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้าภายนอก และครูอธิบายเพิ่มเติมว่าการตอบสนองแบบนี้
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงแรงดันเต่งของเซลล์ ทำ�ให้เซลล์ขยายขนาดต่างกัน จากนั้นให้นักเรียน
ตอบคำ�ถามในหนังสือเรียน
ยกตัวอย่างการเคลื่อนไหวของพืชที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงแรงดันเต่ง นอกเหนือจากการ
บานและการหุบของดอกบัวสายสีขาว
การเปิดปิดรูปากใบของเซลล์คุม การปริของผลไม้บางชนิดเมื่อแก่เต็มที่ เช่น ขนุน ทุเรียน
เฉลยคำ�ถามท้ายกิจกรรม
การโค้งของรากเกิดจากสาเหตุใด
เมื่อรากอยู่ในแนวนอนปริมาณออกซินของปลายรากด้านบนและด้านล่างมีปริมาณไม่เท่ากัน
ซึ่งออกซินจะลำ�เลียงไปสู่ปลายรากด้านล่างมากกว่าด้านบน จึงส่งผลยับยั้งการขยายตัว
ตามยาวของเซลล์ทางด้านล่าง เซลล์ทางด้านบนของรากจึงขยายตัวมากกว่า ปลายรากจึง
โค้งเข้าหาแรงโน้มถ่วงของโลก
เมล็ดพืชทั้งสองกลุ่มมีการตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วงของโลกเหมือนกันหรือแตกต่างกัน
อย่างไร
แตกต่างกันคือ เมล็ดพืชที่ไม่ได้ตัดปลายรากออก รากจะโค้งเข้าหาแรงโน้มถ่วงของโลก
ส่วนเมล็ดพืชที่ตัดปลายรากออก รากไม่โค้งเข้าหาแรงโน้มถ่วงของโลก
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 12 | การควบคุมการเจริญเติบโตและการตอบสนองของพืช
ชีววิทยา เล่ม 3
257