การวิเคราะห์ตัวชี้วัด
แนวทางการจัดการเรียนรู้
แนวทางการวัดและประเมินตัวชี้วัด
๓. ครูกระตุ้นให้นักเรียนเกิดข้อสงสัยโดยนำ�วัสดุต่าง ๆ ที่มีความแข็ง
แตกต่างกัน เช่น กระจก เหล็ก อะลูมิเนียม ไม้ และให้นักเรียนสังเกต
และตั้งคำ�ถามเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบและเปรียบเทียบความแข็งของ
วัสดุเหล่านี้ เพื่อนำ�ไปสู่การทดลอง
๔. นักเรียนออกแบบวิธีการทดลองเพื่อเปรียบเทียบความแข็งของวัสดุที่ครู
กำ�หนด เช่น กระจก เหล็ก อะลูมิเนียม พลาสติก และระบุจุดประสงค์ของ
การทดลอง ตั้งสมมติฐาน ระบุตัวแปร กำ�หนดนิยามเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับ
การสังเกตการเกิดรอย และออกแบบตารางบันทึกผลการทดลองใน
รายงานการทดลองโดยใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ทั้งนี้ครูควรให้ความรู้เพิ่ม
เติมหรือทบทวนเกี่ยวกับตัวแปรต้น ตัวแปรตามและตัวแปรที่ต้องควบคุม
ให้คงที่ การตั้งสมมติฐาน การกำ�หนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
๕. นักเรียนทำ�การทดลองตามที่ออกแบบไว้ บันทึกผลการทดลอง แปล
ความหมายข้อมูล ตรวจสอบสมมติฐาน และสรุปผลการทดลอง
๖. นักเรียนนำ�เสนอผลการทดลองโดยใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ และครูตั้ง
คำ�ถามเพื่อให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ซึ่ง
ได้แก่ ผลการทดลองของนักเรียนและลงข้อสรุปว่า วัสดุแต่ละชนิดมี
ความแข็งแตกต่างกัน เมื่อนำ�วัสดุชนิดหนึ่งมาขูดขีดบนวัสดุอีกชนิดหนึ่ง
แล้วเกิดรอย วัสดุที่เกิดรอยมีความแข็งน้อยกว่าวัสดุที่ไม่เกิดรอย
๗. ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการนำ�สมบัติความแข็งไปใช้ประโยชน์
จากสื่อต่างๆ เช่น รูปภาพ วีดิทัศน์เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่นำ�มาตัดกระจกหรือ
หินอ่อน การแกะสลักไม้ การเจียรนัยพลอย การขุดเจาะน้ำ�มัน การเลือก
ใช้วัสดุปูพื้นหรือผนัง แล้วนำ�มาวิเคราะห์ว่า การใช้ประโยชน์ดังกล่าว
เกี่ยวกับความแข็งของวัสดุชนิดต่างๆ อย่างไร บันทึกผลการวิเคราะห์และ
นำ�เสนอ
๘. ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบผลการวิเคราะห์และปรับปรุงแก้ไข
ให้ถูกต้อง
ด้านทักษะ
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑. ประเมินทักษะการจัดกระทำ�และสื่อความหมาย
ข้อมูลจากการนำ�ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตมา
นำ�เสนอในรูปแบบของตารางบันทึกผลได้ครบถ้วน
และถูกต้อง
๒. ประเมินทักษะการลงความเห็นจากข้อมูลจากการนำ�
ข้อมูลจากการสังเกตมาอธิบายและเปรียบเทียบ
ความแข็งของวัสดุพร้อมแสดงเหตุผลประกอบ
๓. ประเมินทักษะการตั้งสมมติฐาน จากการตั้ง
สมมติฐานได้ว่าวัสดุชนิดใดมีความแข็งมากกว่ากัน
๔. ประเมินทักษะการกำ�หนดนิยามเชิงปฏิบัติจากการ
ระบุวิธีสังเกต ความแข็งของวัสดุได้
๕. ประเมินทักษะการกำ�หนดและควบคุมตัวแปรจาก
การระบุได้ว่าสิ่งใดเป็นตัวแปรต้น สิ่งใดเป็นตัวแปร
ตาม และสิ่งใดเป็นตัวแปรที่ต้องควบคุมให้คงที่ ได้
ถูกต้อง ครบถ้วน
๖. ประเมินทักษะการทดลองจากการออกแบบการ
ทดลองและลงมือปฏิบัติได้ตามขั้นตอนการทดลอง
และบันทึกข้อมูลผลการทดลองในตารางบันทึกผล
เรื่องความแข็งของวัสดุได้ครบถ้วนถูกต้อง
๗. ประเมินทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป
จากการตีความหมายจากข้อมูลที่นำ�เสนอ แล้ว
อภิปรายเพื่อลงข้อสรุปสมบัติความแข็งของวัสดุได้
ครบถ้วนถูกต้อง
ด้านทักษะ
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑. ทักษะการจัดกระทำ�และสื่อความหมาย
ข้อมูลโดยการนำ�ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตมา
นำ�เสนอในรูปแบบของตารางบันทึกผล
๒. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูลโดยการนำ�
ข้อมูลจากการสังเกตมาอธิบายและเปรียบ
เทียบความแข็งของวัสดุ
๓. ทักษะการตั้งสมมติฐาน โดยการตั้งสมมติฐาน
การทดลองเรื่องความแข็งของวัสดุ
๔. ทักษะการกำ�หนดนิยามเชิงปฏิบัติการโดยการ
กำ�หนดวิธีสังเกตความแข็งของวัสดุ
๕. ทักษะการกำ�หนดและควบคุมตัวแปรโดย
การกำ�หนดตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และ
ตัวแปรที่ต้องควบคุมให้คงที่ในการทดลอง
เรื่องความแข็งของวัสดุ
๖. ทักษะการทดลอง โดยปฏิบัติการทดลอง และ
ออกแบบตารางบันทึกผลการทดลองเรื่อง
ความแข็งของวัสดุเพื่อทดสอบสมมติฐาน
ที่ระบุไว้
๗. ทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป
โดยการตีความหมายจากข้อมูลที่นำ�เสนอ
แล้วอภิปรายเพื่อลงข้อสรุปสมบัติความแข็ง
ของวัสดุ
157
วิทยาศาสตร์
ประถมศึกษาปีที่ ๔