ครูอาจตั้งคำ�ถามเพิ่มเติมเพื่อให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่า
การรักษาโรคโดยการบำ�บัดด้วย
ยีนจะใช้ได้กับโรคที่มีลักษณะอย่างไร
จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการรักษาโดย
เทคนิคการบำ�บัดด้วยยีน ซึ่งควรได้ข้อสรุปว่า เป็นการรักษาโรคทางพันธุกรรมรวมถึงอาการผิดปกติ
ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากยีน โดยการถ่ายแอลลีลที่ปกติเข้าสู่เซลล์หรือเนื้อเยื่อที่แสดงอาการผิดปกติ เพื่อให้
ยีนนั้นแทรกเข้าสู่จีโนมของมนุษย์และควบคุมให้มีการแสดงออกและสร้างโปรตีนที่ปกติ
นอกจากนี้ครูอาจขยายความรู้เพิ่มเติมให้นักเรียน โดยยกตัวอย่างเทคโนโลยีอื่นๆ ที่พัฒนาขึ้น
ปัจจุบัน เช่น
- การใช้พันธุวิศวกรรม มีการทดลองใช้รักษาทารก 2 คน ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ชนิดหนึ่งซึ่งการรักษาด้วยเคมีบำ�บัด (chemotherapy) ไม่ประสบความสำ�เร็จและ
จะรับการถ่ายเซลล์เม็ดเลือดขาวจากผู้บริจาค ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกัน
ของผู้ป่วยเกิดการต่อต้านเซลล์ของผู้บริจาค จึงใช้เทคนิคทางพันธุวิศวกรรมมาปรับแต่ง
เซลล์เม็ดเลือดขาวของผู้บริจาคให้เข้ากับทารกทั้งสอง ก่อนจะถ่ายเข้าสู่ร่างกายของทารก
ซึ่งพบว่าผลการรักษาประสบความสำ�เร็จและยังมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
- การรักษาโรคด้วยการตรวจแก้จีโนม ซึ่งมีทั้งเพิ่มระดับการแสดงออกของยีน ยับยั้ง
การแสดงออกของยีน การนำ�ยีนที่มีอยู่เดิมออก และการใส่ยีนใหม่ที่ต้องการลงไปในจีโนม
ของสิ่งมีชีวิต โดยหนึ่งในเทคนิคที่มีการศึกษาอยู่ คือ CRISPR-Cas9 (Clustered Regularly
Interspaced Short Palindromic Repeats - Cas9 protein) ซึ่งเป็นเทคนิคที่สามารถระบุ
บริเวณในจีโนมที่ต้องการปรับแต่งยีนได้ โดยเทคนิคดังกล่าวถูกนำ�มาใช้รักษาผู้ป่วย
โรคมะเร็งปอด ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลการรักษา (3 ก.พ. 2560) แต่ก็ถือได้ว่า
เป็นพัฒนาการด้านหนึ่งของการนำ�เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอมาประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคใน
มนุษย์
จากนั้นให้นักเรียนตอบคำ�ถามชวนคิดในหนังสือเรียน
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ
ชีววิทยา เล่ม 2
165